ตอนที่ 10
กล่าวคำอาลัยทิ้งท้ายจบก็จะผละจากห้อง พลันก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงกฤตย์เรียกชื่อเธอแผ่วเบา กฤตย์ปวดร้าวไปทั้งตัวแต่ยังมีสติจะถามถึงวีรกรรมของเธอที่ถูกปณิตากับบงกชกล่าวหาว่ามีพลังปีศาจ นัทธมนยอมรับอย่างไม่แคร์ว่าเธอเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด รวมทั้งครั้งล่าสุดที่ทำให้ปณิตาบาดเจ็บ
“คุณคงมองดิฉันเป็นปีศาจล่ะสิ แต่จะบอกความจริงให้นะคะ...คุณปณิตานี่แหละที่จ้างคนมาดักทำร้ายดิฉันกับแม่...ดิฉันถูกฉุดเกือบเอาตัวไม่รอด ส่วนแม่ก็แขนหักเข้าโรงพยาบาล ทีนี้คุณคิดว่าใครกันล่ะที่เป็นปีศาจตัวจริง”
“แล้วบงกชล่ะ คุณทำร้ายเขาทำไม”
“ก็เพราะพี่บงกชรู้เห็นเป็นใจกับคุณปณิตาน่ะสิคะ ในเมื่อเขาสมคบคิดกันทำให้แม่ดิฉันแขนหัก ถ้าดิฉันจะหักแขนเขาคืนบ้างมันก็ยุติธรรมแล้วนี่”
“คุณ...ไปเอาพลังนี้มาจากไหน”
“จะว่าไปจุดเริ่มต้นมันก็มาจากคุณนั่นแหละ...เพราะสิ่งที่คุณทำกับวรดามันทำให้เธอตั้งจิตอธิษฐานก่อนหมดลมหายใจสุดท้าย จนกลายเป็นพลังที่ส่งมาถึงดิฉันในชาตินี้ยังไงล่ะคะ”
กฤตย์อ้าปากค้าง “คุณคือวรดาเมื่อชาติก่อนจริงๆ”
นัทธมนพยักหน้ายอมรับ “ใช่ค่ะ! ดิฉันต้องทนทุกข์ทรมานรองรับทุกความรู้สึกเจ็บปวดที่วรดาส่งผ่านมา ดิฉันเลยจำเป็นต้องจัดการคุณตามแรงอธิษฐานของวรดา”
“นี่คุณเชื่อว่าผมฆ่าวรดาจริงๆเหรอ”
“คุณยังจะมีหน้ามาแก้ตัวอีกเหรอ”
“ผมไม่ได้ฆ่า!”
“พอเถอะค่ะ นอกจากจะมีพลังพิเศษแล้ว ชาตินี้ดิฉันยังมีสมอง ไม่โง่ไม่หูเบาไม่เชื่อคำโกหกของคุณง่ายๆอีก”
“ผมไม่ได้โกหก”
“ก่อนที่วรดาจะถูกขังให้ตายทั้งเป็นในหลุมหลบภัย คุณเองไม่ใช่เหรอที่นัดให้วรดาไปยืนรอคุณอยู่ตรงนั้น”
“ใช่! ผมนัดวรดาไว้ที่นั่นแต่ผมไม่ได้ฆ่าวรดา”
“พอได้แล้ว! หยุดแก้ตัวซะที ถ้าคุณยังมีความเป็นลูกผู้ชายหลงเหลือก็ก้มหน้ายอมรับโทษทัณฑ์ซะดีกว่า”
“คุณจะทำอะไรผมนัทธมน”
“ก็ทำแบบที่คุณทำกับวรดาน่ะสิคะ ดิฉันจะขังคุณและทิ้งคุณไว้ให้ตายอย่างช้าๆในห้องนี้...ลาก่อนนะคะ”
ooooooo
กฤตย์พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายกล่อมให้นัทธมนฟังความจริง แต่นอกจากจะไม่ฟังเหมือนเดิมเธอยังใช้พลังทำให้เขาขาหักลุกไม่ขึ้นและจะขังไว้ในห้องเก็บของ เมื่อเต้ยกับถุงแป้งมาตามก็ถูกเธอขู่ไม่ให้ส่งเสียง
“ถ้าคุณส่งเสียงดังคุณคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ผมไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น ถ้านี่เป็นชะตากรรมของผมในชาตินี้ผมก็พร้อมจะรับมัน”
“งั้นก็ดี...อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เป็นแค่คนน่าสมเพชคนนึง”