ตอนที่ 10
สุดท้ายเต้ยก็ต้องวกรถไปออฟฟิศของกฤตย์
ตามความต้องการของถุงแป้ง โดยไม่รู้เลยว่าเวลาเดียวกันนั่นเอง กฤตย์กำลังสับสนเพราะเหตุการณ์ที่เกิดกับลินจันทร์ นัทธมนลอบยิ้มร้ายก่อนตีหน้านิ่งเหมือนเคย
“คุณกฤตย์ไม่เข้าใจอะไรหรือคะ”
“สิ่งที่ผมเชื่อทั้งชีวิตจะมาพังทลายลงในวันนี้หรือไง ผมมั่นใจมาตลอดว่าเรื่องกลับชาติมาเกิดไม่มีจริง แต่วันนี้...”
“ลินจันทร์ทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่อย่างงั้นใช่ไหมคะ”
“ใช่! คุณคิดดูสิ เด็กที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแบบลินจันทร์ จะแกล้งพูดเสียงผาณิตได้ยังไง นอกจากว่าจะเป็นเสียง ของผาณิตเมื่อชาติปางก่อนจริงๆเท่านั้น”
“แล้วคนที่ชื่อผาณิตเนี่ย...เขาเป็นใครเหรอคะ”
นัทธมนแกล้งถามทั้งที่รู้แก่ใจว่าผาณิตคือน้องสาวคนละแม่ของวรดา กฤตย์อึกอักอย่างเห็นได้ชัด
“เขา...เป็นเพื่อนสนิทของแกมแก้วน่ะ รั้วบ้านอยู่ติดกันด้วย”
“แล้วทำไมผาณิตเขาถึงอยากขอขมาต่อวรดานักล่ะคะ ผาณิตเขาเคยทำอะไรผิดกับวรดาไว้เหรอคะ”
“คุณจะถามไปทำไม”
“จู่ๆมีใครก็ไม่รู้จากชาติปางก่อนมากราบเท้า ขอขมาดิฉัน คุณจะไม่ให้ดิฉันสงสัยหรือถามอะไรเลยเหรอคะ”
กฤตย์ถอนใจเหนื่อยหน่าย ตัดบทดื้อๆ “ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาเคยมีอะไรติดค้างกันไว้ ผมสนิทกับผาณิตอย่างพี่น้องบ้านเรือนเคียงกัน ไม่ได้สนิทสนมขนาดจะรู้เรื่องของเขาทุกเรื่อง”
นัทธมนไม่ยอมจบจะถามถึงผาณิตต่อ กฤตย์โพล่งอย่างเหลืออด
“นี่คุณหยุดถามผมซะทีได้ไหมนัทธมน แค่เห็นสิ่งที่เกิดกับลินจันทร์วันนี้ ผมก็หัวหมุนสับสนไปหมดแล้ว”
“ตกลงตอนนี้คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดแล้วใช่ไหมคะ”
“ก็ไม่เชิงนะ แต่ผมยังหาคำอธิบายมาหักล้างสิ่งที่ เกิดขึ้นกับลินจันทร์ไม่ได้น่ะ จะเรียกว่า...เริ่มจะเชื่อก็พอได้มั้ง”
“ถ้าคุณ...เริ่มจะเชื่อเรื่องนี้ แล้วคุณเชื่อไหมคะว่าเมื่อชาติก่อนดิฉันก็คือ...วรดา”
กฤตย์ชะงัก แววตาของเลขาฯสาวทำให้เขาสงสัย แกล้งเออออ
“ผมก็อยากที่จะเชื่อแบบนั้นและอยากให้เป็นแบบนั้น”
“เพราะอะไรเหรอคะ”
“ก็เพราะว่า...ผมจะได้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งเพื่อที่จะลบความรู้สึกผิดในใจของผมเอง”
“ความรู้สึกผิดในใจ...งั้นก็หมายความว่าคุณกฤตย์เคยทำผิดไว้กับวรดาอย่างนั้นเหรอคะ”
นัทธมนตะล่อมถาม กฤตย์เห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่เฉไฉถามถึงเรื่องโต๊ะที่ห้องเก็บของ เลขาฯสาวได้แต่ลอบถอนใจเซ็งๆแต่ก็ไม่ขัดเพราะคิดว่าคงถึงเวลาชำระแค้นให้วรดาแล้ว
ooooooo
ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องของนัทธมนอยู่ในสายตา
กฤตย์ตลอด ทันทีที่เธอพาเขาถึงห้องเก็บของก็เปิดฉากถาม