ตอนที่ 14
เจ้าขุนแสงเรืองสติแตกขับรถหนีมาอย่างเร็วตามเส้นทางสายเปลี่ยว แล้วเลี้ยวฉวัดเฉวียนจากถนนใหญ่ลงข้างทางสู่ถนนเล็กที่ขนาบด้วยที่รกร้างปลอดสายตาคน เตลิดเปิดเปิงไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
“เราจะไปไหนดีท่านแม่ ตอนนี้ตำรวจคงตามล่าเราไปทั่วแล้ว”
เจ้าอุ่นคำก็สติแตกไม่แพ้กัน นั่งลนลานคิดอะไรไม่ออก
“ท่านแม่! ไม่ได้ยินที่ลูกถามหรือ เราจะหนีไปไหน”
“แม่กำลังคิดอยู่ แกอย่าเร่งได้มั้ย นี่เป็นเพราะแก แกฆ่าไอ้พสุไม่ตาย มันเลยกลับมาฆ่าเราคืน”
“เพราะท่านแม่นั่นแหละ ฆ่าปิดปากนังป่อจาไม่ตาย มันเลยฟื้นขึ้นมาเป็นพยาน”
“ก็ถ้าไอ้พสุมันตายโหงไปแล้ว นังป่อจามันจะไปบอกความลับใครล่ะ”
“ถ้านังป่อจามันตายไปแล้ว มันก็ฟ้องใครไม่ได้ทั้งนั้นในโลกนี้ เป็นเพราะท่านแม่นั่นแหละ ท่านแม่ฆ่ามันไม่ตาย”
“โอ๊ย! พอที! หยุดโทษกันเองได้แล้ว...จุดจบของเรามันต้องไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่ เราต้องได้ทุกอย่างคืน”
“ได้คืนยังไง ตอนนี้เราไม่ต่างจากโจร ต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างกับหมาจนตรอก”
“หยุดพูดว่าเราเป็นหมานะ เราไม่ใช่! เราแค่หนีตั้งหลัก ในเมื่อเป็นโจรแล้ว เราต้องเป็นขุนโจร เข้าใจมั้ย”
เจ้าอุ่นคำตวาดเสียงเขียว เจ้าขุนแสงเรืองหุบปากแล้วตะบึงรถต่อไป...
ที่คุ้มจันทรา เจ้าจ้อยกับอ่อนคำกำลังขะมักเขม้นช่วยกันปรุงยาถอนพิษให้พสุ ส่วนเผ่าเทพกับยุพราชออกไปสมทบกับทีมตำรวจตรวจค้นทั่วเรือนเจ้าอุ่นคำเพื่อหาหลักฐานใช้ดำเนินคดีสองแม่ลูกในข้อหาทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่าป่อจา และพยายามฆ่ามหาเทวีกับพสุ
“ขอบคุณครับหมวด ขอให้จับตัวได้เถอะ ขนาดคนในครอบครัวยังคิดฆ่าได้ลงคอ แม่ลูกจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตแบบนี้ไม่ควรปล่อยเอาไว้ เดี๋ยวจะไปทำร้ายคนอื่นเข้า”
“ครับ ตอนนี้ผมวอประสานกับตำรวจในพื้นที่ให้ออกติดตามตัวแล้วครับ”
“หวังว่าคงไม่หนีออกนอกประเทศไปเสียก่อน”
“ทั้งสองคนไม่มีทางหนีออกนอกพื้นที่ได้เด็ดขาดครับ ผมห่วงก็แต่พสุ ตอนนี้เจ้าจ้อยทำยาถอนพิษไปถึงไหนแล้ว” เผ่าเทพชะเง้อแล้วเดินผละไป
ยุพราชสีหน้าวิตกกังวล บอกอกานซิงห์ว่าตนจะไปช่วยเจ้าจ้อยปรุงยาให้เสร็จ
“พ่อดีใจที่เจ้ากลับมา”
“เฮาเสียใจที่ทำให้พ่อผิดหวังในตัวลูกคนนี้”
“พ่ออาจเคยผิดหวังเจ้าในวันนั้น แต่ในวันนี้มันถูกลบล้างหมดแล้ว การที่เจ้ากลับใจมาช่วยหมวดพสุให้เอายาถอนพิษไปช่วยมหาเทวีได้ทันมันยิ่งใหญ่สำหรับพ่อแล้วลูก” อกานซิงห์ตบไหล่ลูกชายอย่างภูมิใจ