ตอนที่ 13
ในวันที่ขุนนางไทยเข้ารับอวยยศกับขุนหลวง ปริกชวนการะเกดทำอาหารไว้รอ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้นางไม่มีแก่ใจจะทำ ปริกบ่นแบบนี้ท่านขุนหิวตาย เกศสุรางค์ขำที่ปริกพูดคำสมัยใหม่มากขึ้น ปริกว่าจะไปยุ่งอะไรกับเรื่องเข้าเฝ้าตามธรรมเนียม
“อยากรู้ว่าเป็นไงมั่งน่ะสิ แหม...แปลงเป็นแมลงวันไปกะคุณพี่ได้นะ จะไปเลย”
เย็นวันนั้นบนเรือนออกญาโหราธิบดี ขุนศรีวิสารวาจาได้อวยยศเป็นพระศรีวิสารสุนทร พระวิสุทธสุนทรได้อวยยศเป็นพระยาโกษาธิบดี ทั้งสองนั่งอยู่กับหลวงเรืองณรงค์เดชา เล่าเรื่องในวันนี้ให้การะเกดฟังทั้งหมด แต่ดูท่านางยังมีข้อสงสัย พระศรีวิสารสุนทรรีบดักคอ
“แม่การะเกด ออเจ้าจ้องเอาความใดเพิ่มเติม เราทุกคนเล่าให้ออเจ้าฟังหมดแล้ว”
“เมอร์ซิเออร์ลาลูแบร์หน้าตาเป็นยังไงเจ้าคะ”
“ก็เป็นฝรั่งเศส ออเจ้าถามพิกล” หลวงเรืองณรงค์เดชาเอ่ยยิ้มๆ
เกศสุรางค์อยากรู้ว่าเขาชอบจดบันทึกใช่ไหม ทุกคนมองอย่างสงสัย ออกญาโหราธิบดีบอกว่าเห็นจดตลอดเวลา พระยาโกษาธิบดีแปลกใจว่าการะเกดรู้ได้อย่างไร หญิงสาวอ้ำอึ้งแก้ตัวว่าเห็นคนเป็นทูตชอบจดบันทึก
จวงคลานเข้ามาเรียนว่าสำรับพร้อมแล้ว ทุกคนย้ายไปนั่งล้อมวง คุณหญิงจำปาทักทายทุกคนและเพิ่งรู้ว่าใครได้อวยยศเป็นอะไรบ้าง โดยเฉพาะ
พระวิสุทธสุนทรได้ยศเดียวกับพี่ชายและรั้งตำแหน่งพระคลังด้วย เกศสุรางค์มองพระศรีวิสารสุนทรอย่างปลาบปลื้มยินดี เขาสบตาเคลิ้มๆ หลวงเรืองณรงค์เดชาแกล้งกระแอม ทั้งสองชะงักหลบตากัน พระยาโกษาธิบดีบอกคุณหญิงจำปาด้วยว่า
“พระยาวิไชยเยนทร์ได้อวยยศเป็นเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ รั้งตำแหน่งออกญาอัครมหาเสนาบดี ที่สมุหนายกอีกด้วย”
ออกญาโหราธิบดีได้ยินอย่างนั้นรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ทรงอวยให้มีอำนาจสูงยิ่ง เป็นถึงจักรี หนึ่งในขุนนางจตุสดมภ์ ตำแหน่งนี้ว่างมานานแล้ว...เขาจักวางอำนาจมากกว่านี้อีกสักเท่าใด ชาวเมืองจะเพิ่มความเกลียดชังเขามากขึ้นอีกเท่าใด พอจะคาดคะเนได้ฤๅไม่”
“เสียงลือว่าเขาสึกพระมากมายไปสร้างป้อมสร้างกำแพง ท่านลุงคิดขุนหลวงจักพิโรธฤๅไม่”
ทุกคนนิ่งอึ้งนึกถึงการกระทำอันเลวร้ายของฟอลคอนหรือเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์
ooooooo
พระเพทราชาเข้ามากราบบังคมทูลขุนหลวงด้วยอารมณ์ขุ่นมัวถึงการกระทำของฟอลคอนหรือเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ พระปีย์หมอบอยู่ห่างๆ ขุนหลวงกลับบอกว่าเป็นคนสั่ง ทำให้พระเพทราชาโกรธที่ถึงกับสึกพระมาสร้างป้อม
“พระก็ได้ทำประโยชน์ ไม่ดีฤๅไอ้ทองคำ”
“ปล่อยให้ไอ้ฝรั่งไพร่รังแกชาวบ้านยังไม่พอ ยังทรงให้ท้ายมันรังแกพระสงฆ์องค์เจ้าหรือพุทธเจ้าค่ะ”
“มันเอาไปทำความดี เอ็งก็พูดมากความไปได้”
“จะให้ข้าพุทธเจ้าเข้าใจว่า จักทรงเข้ารีตเหมือนพระปีย์หรือพุทธเจ้าค่ะ”
พระปีย์สะดุ้ง หน้าบึ้ง ขุนหลวงเอ็ดที่มาแว้งลูกชาย แต่พระเพทราชายังรุก...หรือไม่จริง
“ข้าไม่ตอบเอ็ง ไม่ใช่เรื่องเอ็งจะมาคาดคั้นข้า ส่วนไอ้เตี้ยข้าไม่ห้าม เป็นสิทธิ์ของมัน”
“อ๋อ เพราะขุนหลวงต้องทำตามสัญญากับไอ้ทูตเดอร์โชมองต์ ว่าใครจักเข้ารีตนับถือพระเจ้าของมันก็ได้ ขุนหลวงจักไม่ห้าม แถมจักยินยอมให้ไปโบสถ์ของมันด้วย...สัญญาอัปยศ”
“หยุดนะไอ้ทองคำ กูเป็นคนยินยอมให้เซ็นสัญญา กูรู้ว่าควร กูมีเหตุผลบอกมึงหลายครั้ง มึงก็หายอมรับไม่...งั้นมึงก็มาเป็นขุนหลวงเสียเองสิวะ” พระเพทราชาโกรธลุกเดินออกไป ขุนหลวงเรียก “ไอ้ทองคำกลับมานี่ มึงต้องถวายบังคมกูก่อน มึงเป็นข้ากู...มึงอย่าถือดีว่าแม่มึงเป็นพระนมของกูนะเว้ย”