ตอนที่ 1
เกศสุรางค์พยายามจับความหมายที่ท่านหมื่นพูด พอจะรู้สึกได้ว่าเขาเกลียดเจ้าของร่างนี้มาก เธอจะเดินกลับห้อง แต่เดินผิดทาง เสียงท่านหมื่นเอ็ดว่าไม่ใช่ทางนั้น เธอสะดุ้งแก้เก้อ
“เอ้า ยังอยู่อีก ก็จะไปพักไงคะ อย่างที่คุณพ่อของคุณบอก...ไปห้อง” ท่านหมื่นชี้ว่าทางโน้น “ทางโน้นน่ะทางไหน อ๋อ...เออจริง จำไม่ได้ เอ๊ย ยังไม่ได้จำ”
บ่าวไพร่พากันงง ท่านหมื่นก็แปลกใจ สงสัยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของการะเกดมาก
หมื่นสุนทรเทวานั่งคุยกับออกญาโหราธิบดีถึงอาการที่แปลกไปของการะเกด ท่านหมื่นแน่ใจว่าการะเกดทำให้อีแดงตายจริง ถึงไม่ตายก็มีอาการสติวิปลาสจากมนต์กฤษณะกาลี
ด้านเกศสุรางค์นั่งตรึกตรองอยู่ในห้อง เริ่มมั่นใจแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน จึงสำรวจทรงผมและการแต่งตัวของผินกับแย้มที่คอยปรนนิบัติด้วยท่าทางสั่นกลัวทั้งคู่ เห็นทรงผมปีกตัดเกรียนลงน้ำมันจนเห็นขอบตั้ง สองข้างหูมีจอนผมยาว ข้างหลังผมสั้นแค่ต้นคอ ผิวคล้ำหน้าตาไทยแท้ ฟันดำเป็นมัน กินหมากจนปากมีสีแดงคล้ำ
หวนคิดถึงตอนอยู่บ้านกับแม่และยาย เธอมักจะเก็บมะม่วงมาจิ้มกะปิกิน ยายแปลกใจที่เก็บลูกอ่อนๆ มากินไม่กลัวเปรี้ยว แม่จะบอกยายว่าเธอไม่กลัว เกศสุรางค์อธิบายกับยายว่า กินเปรี้ยวจะได้ไม่อ้วนเดี๋ยวไม่สวย
ยายจะโอบกอด บอกว่าอ้วนแบบนี้สวยที่สุดสำหรับยายกอดได้เต็มไม้เต็มมือดี แล้วทุกคนก็หัวเราะไปด้วยกัน
เกศสุรางค์น้ำตาริน คิดถึงวันต่อมาที่ยายนวลฝันว่ามีคนมาเอาตัวหลานไป สิปางบอกว่าเรืองฤทธิ์มาพาหลานไปอยุธยา ยายส่ายหน้าไม่ใช่ แล้วยายก็พูดถึงที่หมอดูเคยดูว่า เกศสุรางค์จะอายุสั้น ถึงฆาตตอนอายุยี่สิบห้า สิปางไม่เชื่อ...แต่ตอนนี้เกศสุรางค์เชื่อแล้ว อยากบอกให้แม่กับยายรู้ว่า วิญญาณตนมาอยู่สมัยอยุธยา ตนมาอยู่ในร่างการะเกด มันช่างเหมือนเรื่องเพ้อเจ้อจริงๆ
เกศสุรางค์ลองหยิกแขนตัวเองแล้วร้องโอ๊ย ขึ้นมาด้วยความเจ็บ ผินกับแย้มสะดุ้งกลัวกอดกันกลม เกศสุรางค์ต้องเข้ามาใกล้ให้ทั้งสองจับตัวว่ายังอุ่น ไม่ใช่ผี ทั้งสองขยับหนี เธอโวย
“จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม พูดให้รู้เรื่องกันบ้างสิ...เธอไม่สิ เอ็ง เอ็งสองคนชื่ออะไร”
สองบ่าวบอกชื่อแล้วไหว้ปลกๆ “เจ้าแม่อย่ามาหลอกหลอนบ่าวเลยนะเจ้าคะ”
“หลอกได้ไง ข้ายังไม่ตาย...”
“แม่นายท่านยังไม่ตายได้กระไรเจ้าคะ ยามนั้นตะวันดับกลางแจ้งราวกับเกิดอาเพศ บ่าวดูแล้วแม่นายไม่หายใจตั้งหลายเพลา...บ่าวกำลังจะไปแจ้งคุณหญิง แม่นายท่านถึงได้ขยับตัว”
เกศสุรางค์พยายามทำให้ผินกับแย้มเชื่อว่าตนไม่ใช่ผี แค่หลงลืม แล้วเธอก็เกิดอาการปวดปัสสาวะ จึงถามว่า “เรียกว่าอะไรนะที่จะไปฉี่เนี่ย”
“อ๋อ เว็จเจ้าค่ะ...ที่เยี่ยวที่ขี้เจ้าค่ะ”
“ขี้เยี่ยวตรงๆ โต้งๆเลยเหรอ เออดีเหมือนกัน มันส์ดี” เกศสุรางค์หลุดคำพูดยุคตัวเอง
ผินกับแย้มทำหน้างง พอดีเสียงเคลื่อนไหวที่นอกชาน สองบ่าวบอกว่าสงสัยท่านหมื่นจะมีแขก ได้ยินว่าหมื่นเรืองจะมาเยือน เกศสุรางค์หูผึ่ง อยากเห็นหน้าว่าชื่อนี้จะหน้าตาอย่างไร แต่ผินห้ามไปดูเพราะเป็นหญิงจะส่องผู้ชายไม่ได้...แย้มจะพาไปเว็จ เกศสุรางค์แอบขำกับคำพูดตรงๆของคนโบราณ ถ้าเป็นสมัยตนคงโดนยายตีปาก
แต่พอมาเห็นเว็จก็แทบทรุด เพราะเป็นเพียงหลุมที่ขุดไว้ มีไม้กระดานพาด มีพุ่มไม้ล้อมรอบ แย้มเตือนให้เดินระวัง ด้วยความที่ปวดหนัก เกศสุรางค์จำต้องปฏิบัติการณ์ตามคนโบราณ แต่พอเสร็จกิจก็ไม่รู้จะเอาอะไรเช็ด จึงร้องถามผินกับแย้มมีกระดาษไหม ทั้งสองงงจะเอาไปทำไม ผินกับแย้มจะเข้าไปหา เกศสุรางค์ร้องลั่น ...ไม่ต้อง พี่ผิน พี่แย้ม
สองสาวทำหน้าเหวอ เกศสุรางค์จึงถามปกติเรียกอะไร ทั้งสองบอกเรียกอีผิน อีแย้ม เธอส่ายหน้าขอเริ่มใหม่ เรียกพี่ผิน พี่แย้ม ทั้งสองยิ่งแปลกใจที่แม่นายลืมขนาดนี้...เมื่อไม่มีกระดาษ เกศสุรางค์จึงใช้ผ้านุ่งที่สวมมาเช็ด แล้วเดินโหย่งผ้าออกมาบอกสองบ่าวว่าจะต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้
สองบ่าวรีบเตรียมเครื่องของที่ต้องใช้เวลาอาบน้ำ มีทั้งมะขามเปียก ขมิ้น ไพล ผ้าถุงผ้าห่มเวลาเดินกลับ...
เกศสุรางค์แอบซักผ้าถุงตัวเองในน้ำ ถามผินกับแย้มว่า ปกติขับถ่ายเสร็จแล้วใช้อะไรเช็ด สองบ่าวตอบว่าใบไม้ เธอตาโพลง