ตอนที่ 1
“อำนาจเหนือดวงจิตเป็นดังบุพเพสันนิวาส ที่นำพาดวงใจสองดวงให้มาบรรจบกัน”
ปี พ.ศ.2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นที่เรือนของออกญาโหราธิบดี เมื่อแม่หญิงการะเกด สาวงามที่ออกญาหมายมั่นให้แต่งงานกับลูกชายปากจัดเอาแต่ใจ ขี้อิจฉา ทำให้หมื่นสุนทรเทวาเกลียดจนแทบไม่อยากมองหน้า จึงยื้อเวลาไม่ร่วมหอลงโรงด้วย คุณหญิงจำปาผู้เป็นแม่เข้าข้างลูกชาย คอยคัดค้านสามีไม่ให้เร่งรีบการแต่งงาน
ห่างไปอีกฝั่งแม่น้ำเป็นบ้านออกญาโกษาธิบดีกับคุณหญิงนิ่ม มีบุตรีคือแม่หญิงจันทร์วาด นางมีกิริยามารยาทงามสง่าสมกับรูปร่างหน้าตา นางพอใจในตัวหมื่นสุนทร–เทวา จึงมักทำสำรับอาหารกับคุณหญิงแม่ไปฝากคุณหญิงจำปาบ่อยๆ สร้างความไม่พอใจให้การะเกด
เพลาเย็นใกล้ค่ำ การะเกดรู้ว่าจันทร์วาดจะต้องนั่งเรือพายมากับบ่าวไพร่อีก ด้วยจิตใจเหี้ยมโหดคิดกำจัดเธอให้พ้นทาง จึงวางแผนให้ผิน...บ่าวคนสนิทดำน้ำไปล่มเรือลำที่จันทร์วาดนั่ง แย้ม...บ่าวอีกคนพยายามห้ามอย่างกลัวๆ แต่ไม่อาจเปลี่ยนใจผู้เป็นนายได้
การะเกดเห็นเรือของจันทร์วาดมาแต่ไกล ก็ให้ผินไปจัดการตามที่สั่งและให้แย้มเฝ้าดูว่าสำเร็จไหม ส่วน ตัวเธอทำทีเดินชมนกชมไม้ เผื่อมีบ่าวไพร่คนใดเห็น
แย้มนั่งหลบในพุ่มไม้ใจคอไม่ดี ไม่นานก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายของบ่าวไพร่บนเรือที่ตกน้ำ ช่วยกันพาจันทร์วาดขึ้นฝั่ง มีเพียงอีแดงที่ว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำตาย...แย้มรีบมารายงานการะเกด
“มีแม่หญิงจมน้ำคนหนึ่ง แต่บ่าวไม่เห็นแจ้งว่าเป็นใคร มันพลบแล้วเจ้าค่ะ”
“ก็มันนั่นแหละ มันว่ายน้ำไม่แข็ง...อีผินล่ะ”
แย้มบอกยังไม่โผล่ขึ้นมา ท่าทางแย้มกลัวคนมาเห็น เร่งให้ขึ้นเรือน แต่การะเกดสั่งให้รอผิน แม้ท่าทางจะดูไม่สะทกสะท้านแต่ปากก็ก่นด่าผินตลอด จนผินมาถึงผลัดผ้าเรียบร้อยทิ้งผ้าเปียกถ่วงก้อนหินลงก้นคลอง การะเกดยิ้มกริ่มได้ดั่งใจเดินกลับขึ้นเรือน กำชับบ่าวทั้งสอง
“กูปวดขี้จึงไปเว็จ จำไว้”
สองบ่าวรับคำ ไม่ทันไรเสียงหมื่นสุนทรเทวาถามว่าใคร...ท่ามกลางความมืด การะเกดกับสองบ่าวค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็นชัดๆ
“น้องเองค่ะคุณพี่ น้องลงไปเว็จมาค่ะ” การะเกดทำมือไล่สองบ่าวกลับห้อง
“แม่การะเกด ออเจ้าลงไปเว็จทำไม นี่มันจวนพลบแล้วบ่าวบนเรือนไม่ได้จัดหม้อน้ำมูตรไว้ให้เจ้าถ่ายฤา” หมื่นสุนทรเทวามองด้วยสายตาเกลียดชัง
ต่างจากการะเกดที่มองด้วยความรัก วางท่าสงบเสงี่ยมตอบว่าจัด ท่านหมื่นเสียงเข้มขึ้น
“แล้วยังไงเล่า จัดแล้วทำไมต้องลงไปถ่ายข้างล่าง งูเงี้ยวเขี้ยวขอกัดเข้าจะว่าอย่างไร มิเดือดร้อนกันไปหมดรึ ตั้งแต่ออเจ้าจากหัวเมืองมาอยู่ที่นี่ไม่เว้นเลยที่จะ...ทำไมไม่ถ่ายในหม้อ”
ท่านหมื่นยั้งไว้ไม่อยากพูดแรง การะเกดโกหกว่าปวดหนัก ไม่อยากให้กลิ่นคลุ้งในห้อง ผินกับแย้มจะนอนไม่หลับ ท่านหมื่นไม่อยากเชื่อว่าเธอจะหวังดีกับบ่าว แต่ไม่อยากสนทนาให้มากความ จึงโบกมือไล่กลับเข้าห้องไป
การะเกดวางท่าระเหิดระหงหมายให้ชายมอง ท่านหมื่นมองแต่มองด้วยสายตาเกลียดชัง...ออกญา– โหราธิบดีกับจำปาเดินมา เห็นสายตาลูกชายก็อดถามไม่ได้ว่าเกลียดนางมากหรือ ท่านหมื่นยอมรับ
“ขอรับคุณพ่อ เกลียด คนอย่างนางมีฤาจะห่วงผู้ใด พูดจามุสา”
“การะเกดเป็นคู่หมายของลูก เกลียดอย่างไรก็ต้องร่วมหอลงโรงกับนาง หลีกเลี่ยงไม่ได้” จำปาค้อนสามีที่หาเรื่องมาให้ลูก ออกญาย้ำ “จะประวิงน่ะไม่ได้แล้วนะพ่อเดช แม่การะเกดจะเป็นสาวเทื้อคาเรือนอยู่นี่ เพราะลูกประวิงแล้วประวิงอีกอยู่อย่างนี้...นางอายุเลยยี่สิบปีแล้ว เขาลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน เห็นใจนางบ้างหรือไม่”
“ลูกแสนจะเกลียด เกลียดแสนเกลียด” หมื่นสุนทรเทวายืนกราน
ทันใดมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นที่ท่าน้ำ ทั้งสามหันขวับไปมอง...ที่เชิงบันไดบ่าวชายเข้ามารายงานว่าเรือแม่หญิงจันทร์วาดล่ม อีแดงบ่าวของแม่หญิงจมน้ำตาย ส่วนแม่หญิงมีเรือบ่าวที่ตามมาช่วยเหลือพากลับเรือนแล้ว เจ้านายทั้งสามตกใจแต่ก็โล่งใจที่จันทร์วาดปลอดภัย