ตอนที่ 11
สีหน้ายิ้มแย้มของดวินเหมือนจำไม่ได้เรื่องที่เคยตัดรอนเธอทำให้อลิซปรี๊ดแตก
“นายพูดถึงอะไร...เราจำไม่ได้! เราลืมทุกอย่างไปหมดแล้วเพราะมีคนบอกเราว่าไม่ต้องจำเราก็เลยไม่จำ แล้วคนพูดก็บอกเองว่าเขาจะลืม เราก็หวังว่าเขาจะลืมได้เหมือนที่พูด”
ดวินหน้าจ๋อยยอมสงบปากสงบคำก่อนผละไปหาเสบียงอาหารในหมู่บ้านเพราะใกล้ถึงเวลาที่อลิซต้องกินแล้ว แต่เพราะยังหาอลันไม่เจอ เสบียงอาหารที่เจซีเตรียมมาก็ร่อยหรอ เขาเลยต้องตระเวนหาอาหารในหมู่บ้านแทน แต่เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่มีตลาด ทั้งเขากับเธอจึงต้องทำงานแลกอาหารซึ่งอลิซก็ให้ความร่วมมือดี
แรงงานของดวินกับอลิซแลกอาหารได้ส่วนหนึ่ง นาวิกโยธินหนุ่มสละให้กินก่อนแต่ราชนิกุลสาวไม่ยอมบังคับให้กินด้วยกัน บรรยากาศงดงามรอบด้านทำให้บรรยากาศอึมครึมระหว่างสองหนุ่มสาวดีขึ้นโดยเฉพาะอลิซที่ถึงกับลืมตัวระบายความอึดอัดใจ
“ตั้งแต่เรากลับมาฮรีสอซ ช่วงเวลาที่เราเกลียดที่สุดคือตอนนี้...ตอนอาหารมื้อค่ำ เราต้องนั่งโต๊ะอาหารใหญ่โตแล้วกินข้าวคนเดียว เราคิดถึงโต๊ะอาหารเล็กๆที่บ้านนาย คิดถึงระเบียงบ้านบนดอย...คิดถึงการมีคนนั่งกินอาหารด้วย”
ดวินสะเทือนใจมาก เข้าใจความรู้สึกเธอดี พึมพำตอบเสียงแผ่ว
“กระหม่อมก็...ไม่ต่างกัน”
ooooooo
เคธแอบได้ยินเจซีคุยโทรศัพท์กับดวินจนรู้ว่าอลิซแอบหนีไปนอกวังเพื่อตามหาอลัน ราชนิกุลสาวฉวยโอกาสนี้เรียกเฮเดสมาพบและออกคำสั่งให้เขาตามฆ่าอลิซและอลันก่อนที่คนในวังจะไหวตัว
อลิซไม่รู้ตัวว่าจะถูกลอบสังหารอีกครั้ง เข้าพักในบ้านชาวนาแถบนั้นพร้อมดวิน บรรยากาศดีๆคืนมาอีกครั้งและเธอก็อดใจไม่ไหวต้องถามเรื่องเสาวณี
“เราถามหน่อย...นายมาที่นี่แม่นายไม่ว่าเหรอ”
“แม่เป็นคนบอกให้กระหม่อมมาด้วยตัวเองก่อนมาท่านยังอวยพรให้กระหม่อมด้วย”
“แม่นายเนี่ยนะ...ทำไม”
“เพราะท่านรู้ว่าถ้ากระหม่อมไม่ได้มา กระหม่อมจะรู้สึกผิดตลอดชีวิต...กระหม่อมต้องขอประทานอภัยกับสิ่งที่พูดในโบสถ์วันนั้น กระหม่อมเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าพระองค์”
“เสียใจแล้วพูดแบบนั้นทำไม”
“ถ้าเลือกได้กระหม่อมก็ไม่อยากทำแต่ภาวะตอนนั้นกระหม่อมเลือกไม่ได้จริงๆ”
“เราเข้าใจ...ชีวิตคนเราต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้เลือกตั้งมากมาย ถ้าเราเลือกได้จริงๆเราอยากเลือกเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องมาเจอปัญหาที่เจออยู่ทุกวันนี้”
“แต่ปัญหาทำให้เราเข้มแข็งและทำให้กระหม่อมได้รู้จักพระองค์ดียิ่งขึ้น”