ตอนที่ 1
“เมื่อคืนคุณสรวิชญ์ไม่กลับไปนอนที่ห้อง ไม่รู้ไม่สบายรึเปล่า โทร.มาก็ไม่รับ”
สุดาวรรณเห็นอ้อถือกุญแจพวงใหญ่หาลูกไม่เจอสักที เลยระดมเคาะประตู เรียกรัว คุณสรวิชญ์ๆๆๆ
วศินรู้สึกตัวตกใจเมื่อพบตัวเองนอนกอดศพสรวิชญ์อยู่ ตกใจยิ่งกว่านั้นเมื่อเห็นปืนในมือตน! เขาโยนปืนทิ้งอย่างขวัญเสีย เป็นจังหวะที่ประตูเปิดผลัวะพอดี!
พอเห็นภาพในห้อง ทุกคนตกใจสุดขีด อ้อถลาเข้าจับชีพจรสรวิชญ์ดูลมหายใจบอกแม่ว่าคุณพ่อตายแล้ว พวงมณีร้องกรี๊ด สุดาวรรณกับอติศักดิ์อึ้ง ร้องอย่างรับไม่ได้ว่า ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ คุณสรวิชญ์ต้องไม่ตาย อ้อถามวศินน้ำตาอาบหน้าว่า
“มันเกิดอะไรขึ้นคะพี่วศิน พี่วศินทำอะไรคุณพ่อ” วศินยังไม่ทันพูดอะไร อติศักดิ์ก็ตวาดลั่น
“แกฆ่าคุณพ่อไอ้วศิน!!” วศินบอกว่าตนไม่ได้ทำ “หลักฐานชัดขนาดนี้ยังจะปฏิเสธอีกเหรอ”
“ทำไมถึงทำแบบนี้วศิน...นี่พ่อนะ พ่อแท้ๆ ของเธอ” สุดาวรรณเสียงสะท้านด้วยความผิดหวัง วศินบอกว่าตนไม่ได้ทำจริงๆ พวงมณีก็สวนทันควันว่า
“ไม่จริง แกโกหก!! แกฆ่าคุณสรวิชญ์ตาย!! เพราะแกแค้นคุณสรวิชญ์ที่ทิ้งแกกับแม่ใช่ไหม”
อติศักดิ์ขยี้ซ้ำทันทีว่าใครๆก็รู้ว่าเขาเกลียดพ่อตัวเอง พวงมณีรวบรัดว่า “แกกลับมาเพื่อแก้แค้นคุณสรวิชญ์จริงๆ!!”
พวงมณีมองวศินอย่างโกรธจัด อ้อมองอย่างไม่อยากเชื่อ สุดาวรรณมองอย่างผิดหวัง และอติศักดิ์หรืออ้นมองวศินด้วยสายตาเคียดแค้น!
ooooooo
ไม่นานบ้านศิริเสนีทั้งในบ้านและนอกบ้านก็เต็มไปด้วยความโกลาหล วุ่นวาย ทั้งตำรวจที่มา ญาติพี่น้องและผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบรรดานักข่าว
ภควัฒน์กับภัควดีสองพี่น้องวิ่งแทรกผู้คนเข้ามา พอดีหน่วยกู้ภัยกำลังลำเลียงศพของสรวิชญ์ที่ห่อด้วยผ้าขาวออกมา ภควัฒน์ร้องบอกน้องสาวว่า “คุณลุงสรวิชญ์ตายแล้วจริงๆ!!” อึดใจเดียวตำรวจก็คุมตัววศินที่ถูกใส่กุญแจมือเสื้อเปื้อนเลือดเดินหน้านิ่งออกมา
“นายวศิน???...” ภัควดีอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ วศินมองหน้าเห็นความผิดหวังในแววตาเธอ
พริบตาเดียวนักข่าวก็กรูกันเข้าไปถ่ายรูปและสัมภาษณ์วศิน ทั้งถามว่าเขาฆ่าพ่อตัวเองจริงไหม... เพราะเรื่องมรดกใช่ไหม...ตำรวจพยายามกันวศินไปที่รถ พลันก็มีเสียงตะโกนถาม
“คุณเกลียดพ่อตัวเองใช่ไหมคะ”
วศินชะงักกึก หันมองร่างไร้วิญญาณของพ่อ ...ก่อนจะหวนคิดถึงเรื่องราวทั้งหมดในอดีต...
ในปี พ.ศ.2538 เวลานั้นเขาเพิ่งอายุได้ 5 ขวบ...จำได้ว่าวันนั้นเมื่อตื่นนอนกลางวันเขาเดินออกมาตามหาแม่ เจอถวิลที่หน้าบ้าน ถวิลบอกว่าแม่กำลังคุยธุระกับพ่อ ให้เขาอยู่เล่นกับป้าที่นี่ดีกว่า วศินตอบรับอย่างว่าง่าย
ที่ห้องนั่งเล่นบ้านศิริเสนี...บรรยากาศตึงเครียดมาก เมื่อสรวิชญ์ปาขวดยากล่อมประสาทลงพื้นอย่างเกรี้ยวกราดต่อหน้าวาด ตวาดถาม “นี่มันอะไร!”
ในห้องนั้นนอกจากสรวิชญ์แล้วยังมีสุดาวรรณภรรยาเอกของสรวิชญ์และพวงมณีน้องสาวนั่งอยู่ด้วย
วาดมองขวดยาถามว่ายาอะไร พวงมณีบอกว่ายากล่อมประสาท เธอน่าจะรู้จักดี วาดถามหน้าซื่อๆว่าคุณเอามาจากไหน สรวิชญ์โพล่งอย่างโกรธจัดว่า
“ฉันเจอในห้องนอนคุณแม่ ถามหมอแล้วหมอของคุณแม่บอกว่าไม่เคยจ่ายยานี้ให้คุณแม่เลย เธอเอายานี้ให้แม่ฉันกินใช่ไหมวาด?!”
วาดบอกว่าตนไม่เคยเห็นยานี่มาก่อนเลย สุดา-วรรณสำทับว่าเราเจอขวดยานี้ในห้องคุณแม่ ย้ำว่า
“เธอเป็นคนเดียวที่ดูแลเรื่องอาหารการกินแล้วก็ยาของคุณแม่ เธอจะไม่รู้ได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้เลยจริงๆค่ะว่ายานี่มาอยู่ในห้องคุณท่านได้ยังไง แต่คุณท่านไม่ได้กินยาตัวนี้แน่ๆค่ะฉันรับรองได้”
“คนก็ตายไปแล้ว ศพก็เผาไปแล้วจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าท่านไม่ได้กินยานี้จริงๆ” พวงมณีแทรกขึ้นขึงขัง
วาดถามว่าคุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง พวงมณีจะพูดแต่ถูกสุดาวรรณขัดขึ้นว่าให้คุณสรวิชญ์จัดการเอง พวงมณีจึงเงียบไป สรวิชญ์โพล่งถามว่า
“วาด เธอเอายากล่อมประสาทนี้ให้แม่ฉันกิน แล้วให้แม่ฉันเซ็นยกสมบัติของท่านให้เธอใช่ไหม?!” วาดตกใจไม่คาดคิดว่าสรวิชญ์จะพูดแบบนี้ สรวิชญ์ตะคอก “ใช่ไหมวาด?!! บอกมา!!!”
วาดยืนยันว่าไม่ใช่ ตนไม่เคยคิดอยากได้สมบัติหรืออะไรจากคุณท่านเลยแม้แต่น้อย
พวงมณีเย้ยว่านี่ขนาดไม่คิดคุณท่านยังยกหุ้นบริษัททั้งหมดแถมเงินอีก 50 ล้านให้เธอกับลูก ถ้าเธอคิดอยากได้ พวกตนคงหมดตัวไปแน่ๆ...เธอนี่น่ากลัวจริงๆนะวาด
วาดถูกรุมบีบคั้นหนัก จึงหันไปยืนยันกับสรวิชญ์หวังให้สามีเชื่อตนว่า
“คุณสรวิชญ์คะ...วาดไม่รู้ว่ายาขวดนี้ไปอยู่ในห้องของคุณท่านได้ยังไง แต่วาดสาบานได้ว่าวาดไม่เคยเอายาแบบนี้ให้คุณท่านกินแน่ๆ คุณรู้จักวาดมานาน น่าจะรู้ว่าวาดเป็นคนยังไงดีที่สุด”
สรวิชญ์สีหน้าอ่อนลง สุดาวรรณเห็นดังนั้นรีบเสี้ยมต่อทันที พูดกับวาดเสียงอ่อนโยนว่า ตนเข้าใจคนเป็นแม่ เธอคงต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก พูดอย่างเข้าใจหัวอกแม่เหมือนกันว่า
“ถึงแม้เธอจะไม่เคยคิดทำมาก่อน แต่คนเป็นแม่ก็ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่างอยู่แล้ว!!”
Powered by Froala Editor