ตอนที่ 13
รัชดาอนาถใจโทร.รายงานศุภวาท เขากลับรู้ก่อนเพราะเพื่อนส่งข่าวว่าอัสดมเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นเดือนหน้า บริษัทตนเป็นคู่แข่งจึงโดนสกัด รัชดายุให้สู้อย่ายอม แต่ศุภวาทหนักใจเพราะเซ็นสัญญาไว้แล้วว่าจะต้องให้พนักงานเห็นชอบ แม้จะรู้ว่าข้อเรียกร้องนั้นมาจากอัสดม
ถวิกาเดินมาได้ยินที่ศุภวาทพูดโทรศัพท์ เธอโกรธแทนยุให้เขาเอาคืนก่อม็อบบ้าง แต่ศุภวาทคิดว่าถ้าทำแบบนั้นตนก็กลายเป็นคนขี้โกงเหมือนอัสดม ถวิกาไม่สนใจพยายามยุ
“วิธีการไม่สำคัญ สำคัญที่ผลของมันค่ะ”
“คนเราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ได้ดีก็แสดงว่าทำดี ได้ชั่วก็แสดงว่าทำชั่ว”
“ทำชั่วได้ดีมีถมไปค่ะ!” ถวิกาไม่ละความพยายาม
“ทำชั่วได้ดีคือคำพูดหลอกตัวเองของคนชั่ว...ผมจะแก้ปัญหาในแบบของผม”
ถวิกาหงุดหงิดที่เห็นศุภวาทดีเกินไป ไม่ได้ดั่งใจเสียเลย
ooooooo
ค่ำนั้นโจมานอนค้างกับถวิกา เธอจึงเล่าเรื่องที่อัสดมขี้โกงและศุภวาทก็ดีเกินไปให้ฟัง โจบ่นเรื่องของตัวเองว่าปีนี้โดนภาษีไปหลายหมื่นจนน้ำตาเล็ด ถวิกานึกบางอย่างได้ เธอเคยเห็นอัสดมทำบัญชีแล้วเก็บสมุดบัญชีในเซฟที่บ้านอย่างแน่นหนา เธอยังแซวว่าเป็นรายชื่อกิ๊ก
วันต่อมาสรรพากรมาถึงบริษัทอัสดม บอกว่ามีคนโทร.แจ้งว่าเขาเลี่ยงภาษี โสภาได้ยินตกใจไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน อัสดมให้โสภาออกไปและคุยกับสรรพากรลำพัง ถามว่าใครแจ้งแต่สรรพากรไม่อาจบอกได้...อัสดมให้พนักงานบัญชีเอาสมุดบัญชีมาให้ตรวจสอบ สำทับว่าตนมีบัญชีเล่มเดียว ไม่ได้มีสองเล่มอย่างที่ถูกกล่าวหา แล้วขอตัวออกไปประชุมลูกค้าโดยให้โสภาดูแลต่อ โสภายิ่งสงสัยเพราะวันนี้เจ้านายไม่มีประชุมที่ไหน
อัสดมมาไล่ต้อนผู้จัดการฝ่ายบัญชี เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนแจ้งสรรพากร พอดีถวิกาส่งไลน์เข้ามาเยาะว่าโดนสรรพากรบุกหรือยัง หนุ่มใหญ่จึงรู้ต้นตอ ไม่ทันไรเธอก็โทร.เข้ามา
“กล้าดียังไงถึงกล่าวหาฉัน!” อัสดมโวยทันที
“กล่าวหาอะไร เอาความจริงมาแฉ! สมุดบัญชีที่บ้านน่ะ ให้สรรพากรซะ เพราะถึงยังไงเขาก็ต้องรู้อยู่ดี” ถวิกาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย โดยมีโจสะใจอยู่ข้างๆ
ด้วยความโกรธ อัสดมพลั้งปากว่ารู้ได้อย่างไร เมียตนยังไม่รู้ ทำให้ถวิกาคิดแผนร้ายต่อไปว่าไม่จำเป็นต้องพูดกับเขาแล้ว ควรพูดกับชลิตามากกว่า อัสดมร้อนใจรีบโทรศัพท์หาภรรยา บอกว่าถวิกาเพิ่งโทร.มาป่วน
ถ้าเธอโทร.ไปหาอย่ารับ แล้วเขาก็รีบกลับบ้าน