ตอนที่ 13
เช้าวันใหม่ ถวิกาเห็นศุภวาทเริ่มใช้มือขวาทานอาหารได้สะดวกขึ้นก็ดีใจ ชวนเขาไปฉลองกินข้าวดูหนัง ถือเป็นเดตแรก ไม่ทันจะไปตำรวจโทร.เชิญเธอกับโจไปให้ปากคำที่โรงพัก
ศุภวาทเรียกทนายความมาที่โรงพักด้วย ทางอัสดมกับชลิตาก็มีทนายความมาด้วย ชลิตาหัวเราะเยาะที่ถวิกาโดนจับพิมพ์ลายนิ้วมือบ้าง ถากถางว่าเวรกรรมตามทัน ถวิกาตอกกลับ
“ใช่ เวรกรรมมีจริง เธอจับพี่ฉันไปทำแท้ง เธอก็เลยแท้งลูก!”
ชลิตาหน้าเสียมองหน้าอัสดมให้ช่วย เขาจึงโวยเธอไม่มีหลักฐานอย่ากล่าวหา ทนายความอัสดมเตือนจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท พอโจโดนเรียกชื่อจริงว่านักรบให้มาพิมพ์ลายนิ้วมือ ชลิตาหันไปหัวเราะว่าไม่น่าชื่อนักรบ น่าจะชื่อนักขุดทอง โจเดือดจะพุ่งเข้าใส่ชลิตา ตำรวจขวางจึงพากันล้มทั้งคู่ โจโดนข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน อีกข้อหาเพราะตำรวจเจ็บ
รัชดารู้เรื่องรีบมารอถวิกาที่บ้านศุภวาท เธอยังโกรธเขาจึงพูดออกไปว่าไม่ต้องห่วงเพราะแฟนตนหาทนายความเก่งๆมาสู้คดีแล้ว รัชดาหน้าเหวอที่ถวิกายอมรับเต็มปากว่าเป็นแฟนกับศุภวาท ถวิกาย้ำว่าศุภวาทเป็นคนดี ส่วนเขาเคยดี ชายหนุ่มย้อนถาม
“ดีของคุณคืออะไร? ให้ท้ายคุณเวลาคุณทำตัวแย่ๆเหรอ ถ้ายังงั้นผมขอเป็นคนเลวในสายตาคุณ” ถวิกาสวนว่าเขาเป็นอยู่แล้ว รัชดาน้อยใจ “นี่คุณไม่เห็นความหวังดีของผมเลยเหรอ”
“หวังดีด้วยการหักหลังฉันเนี่ยนะ!”
รัชดายืนกรานว่าไม่เคยหักหลัง แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นฝีมือพี่สาว ถวิกาเบื่อจะเถียงด้วยจึงเดินหนีมาออดอ้อนศุภวาทให้รัชดาเห็น ศุภวาทถือโอกาสขอเธอแต่งงานต่อหน้ารัชดา เธอชะงักอึกอัก อ้างว่าเราเพิ่งคบกัน เขาเข้าไปโอบกอดเธอพร่ำพูดว่า
“เวลาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ผมรู้ตั้งแต่แรกที่เจอวาว...วาวคือคนที่ใช่ ผมสัญญา ผมจะเป็นสามีที่ซื่อสัตย์ เป็นพ่อที่ดีให้ลูกของเรา”
รัชดายืนอึ้งทุกข์ใจอย่างมาก ในขณะเดียวกันถวิกาก็อึดอัดใจอยู่ในอ้อมกอดศุภวาท
ooooooo