ตอนที่ 13
พระยาตากตกใจถามว่าจะให้ตนตั้งตัวเป็นเจ้ารึ พันหาญเห็นด้วยว่าเป็นวิธีที่ดี การจะพิสูจน์บุญได้ก็มีแต่ตั้งตนเป็นเจ้าเท่านั้น ถ้ามีผู้เชื่อถือในบุญ
ของท่านเจ้าคุณก็จะมีผู้สวามิภักดิ์มากขึ้นโดยไม่ต้องเกณฑ์ทหาร
พระยาตากถามว่าพระพุทธเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ตนทำเช่นนั้นไม่เท่ากับกบฏหรือ ม่วงบอกว่ามีคนตั้งตนเป็นเจ้านับสิบกลุ่มแล้ว ท่านเจ้าคุณทำบ้างก็ไม่เห็นเป็นกระไร
“คนอื่นอยากเป็นกบฏก็เป็นไป แต่ไม่ใช่ฉัน” พระยาตากยืนยัน
“แต่มันจำเป็นนะขอรับ ถ้าไม่ทำเราก็จะไม่มีกำลังพอที่จะกู้บ้านกู้เมือง ขอท่านเจ้าคุณเห็นแก่ส่วนรวมด้วยเถิดขอรับ” หลวงพิชัยติง พระยาตากคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำว่า
“เอาเช่นนี้เถิด ฉันจะตั้งตนขึ้นเพียงแค่ชั้น
พระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่เสมอด้วยพระพุทธเจ้าอยู่หัว ฉันยอมได้เท่านี้”
“เพียงเท่านี้ก็พอแล้วขอรับ” ม่วงดีใจมาก
รุ่งเช้าที่ลานกว้างในค่ายพระยาตากที่ระยอง พระยาตากเดินเข้าปะรำพิธีที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ มีภิกษุ 9 รูปสวดมนต์ให้ศีลให้พรอยู่ในปะรำพิธี พระยาตากเดินไปคุกเข่ากราบพระ แล้วไปยืนที่โต๊ะหมู่บูชา พนมมือ กล่าวด้วยเสียงอันดังทรงพลังว่า
“ตัวข้าพเจ้า พระยาตาก ขอตั้งจิตอธิษฐานต่อเทพยดาฟ้าดิน แลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงว่าการตั้งตนขึ้นเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ก็เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีให้
คนไท แลทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้จำเริญรุ่งเรืองสืบไปจนครบห้าพันปี เพื่อที่สมณชีพราหมณ์จะได้ปฏิบัติกิจอันควรอันชอบ และจะขอถวายแผ่นดินที่กอบกู้มาได้ในภายหน้าเป็นพุทธบูชาให้เห็นเป็นประจักษ์ ขอเทพเทวาโปรดเป็นพยาน”
ทันใดนั้นเกิดพายุพัดแรงไปทั่วบริเวณ ต้นตาลคู่ขนาดใหญ่สองต้นถูกลมหมุนจนม้วนไขว้พันกันเป็นเกลียว และทันใดพายุก็หยุดหมุน สงบราวกับไม่เคยเกิดพายุเลย แต่ต้นตาลก็ยังพันกันเป็นเกลียวไม่คลายออก
ผู้คนพากันตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลันมิ่งก็ชูมือขึ้นตะโกนก้อง
“เจ้าตาก...เจ้าตาก...เจ้าตาก...”
แล้วทุกคนก็ตะโกนตามมิ่งจนเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ
พระยาตากชักดาบจากฝักชูขึ้นฟ้าอย่างสง่างาม เป็นการประกาศตนต่อหน้าทหารหาญทั้งปวง
ooooooo
1 เดือนผ่านไป...
ที่กำแพงกรุงศรีอยุธยา เนเมียวสีหบดีขี่ม้ามาถึง เมื่อทหารรายงานว่าเราขุดถึงฐานกำแพงอโยธยาแล้ว กำลังรอคำสั่งจากท่านแม่ทัพอยู่ เนเมียวสีหบดี
สั่งเฉียบขาดทันที
“เผา”