ตอนที่ 11
“น้าเป็นแม่ยังไม่เชื่อเลย แล้วเวศน์เอาอะไรมามั่นใจ”
“ก็เพราะเห็นจากแม่น้องไงครับ น้องนกรับทั้งบุคลิก รสนิยมและนิสัยหลายอย่างจากน้าวิ แต่แค่มีประสบการณ์ชีวิตน้อยกว่าทำให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ตอนนี้น้องมีคุณนัยและอนาคตก็อาจจะมีโซ่ทองคล้องใจ บางอย่างอาจได้มาเรียนรู้จากการมีครอบครัวของตัวเองนี่แหละ”
“มันก็จริงนะ...ถ้าน้าไม่มียัยนกก็คงเคว้งคว้างเหมือนกัน เป็นแม่ม่ายผัวหย่าในวัยสี่สิบปลาย แก่เกินจะเดตใคร”
“เดตกับผมก็ได้นี่ครับ”
วิสาขาเลิกคิ้ว ใจเต้นแรงกับคำพูดทีเล่นทีจริงของเขา โชคดีที่วงศ์เวศน์พูดแก้อึดใจต่อมา
“ทุกวันนี้เราก็เดตกันอยู่แล้วนี่ครับ...น้าวิ...ผมแล้วก็แม่ผม”
“เวศน์เอ๊ยเวศน์น่าสงสารจริง แทนที่จะได้ไปเดตกับสาวๆต้องมาเดตกับแม่ๆ”
ooooooo
ลัคนัยมาหาหมอเป็นเพื่อนพิมลแขเช่นเคย เห็นท่าทางเซื่องซึมก็เดาว่าเธอคงกดดันที่ต้องเก็บเรื่องตั้งท้องเป็นความลับกับตัวเอง...บอกใครไม่ได้แม้แต่แม่แท้ๆ
“คุณยังปิดคุณแม่เรื่องท้องอยู่อีกเหรอ”
“อือ...แต่สงสัยแม่กลับจากทัวร์ยุโรปคราวนี้คงปิดไม่อยู่แล้ว...ท้องโตขนาดนี้”
“เขารู้ก็ดีเหมือนกันจะได้พาคุณไปส่งคืนให้น้าวัชโดยที่ผมไม่ต้องคะยั้นคะยอ”
“แม่ไม่ส่งแขคืนหรอกตราบใดที่แขยังเป็นตัวทำเงินให้ เด็กคนนี้ต่างหากที่จะถูกส่งคืนแลกกับทรัพย์สินมหาศาลจากการหย่า แต่ก็ถือว่าลงตัวแหละเพราะตอนนี้คุณวัชก็มีทั้งลูกทั้งภรรยาคอยดูแลอยู่แล้ว”
พิมลแขพูดเหมือนปลงตกก่อนถามถึงชีวิตแต่งงานของลัคนัย
“แล้วนัยล่ะ...ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง มีความสุขดีไหม”
“ดี...ดีจนรู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตแล้ว”
สีหน้ามีความสุขของลัคนัยทำให้พิมลแขพลอยยิ้ม
“คนดีๆอย่างนัยสมควรแล้วจะมีความสุข...เพื่อนคนนี้ดีใจด้วยนะ”
เหมือนชนกเฝ้าดูแลพ่อไม่ห่าง พยายามทุกทางให้พ่อเดินได้อีกแต่ธวัชดูไม่มีกำลังใจ ลัคนัยรู้ดีว่าเป็นเพราะธวัชคิดถึงพิมลแขแต่ไม่อยากดุภรรยาคนสวยให้เสียบรรยากาศจึงแนะนำให้พาธวัชไปทำกายภาพนอกบ้าน
ธวัชดูร่าเริงขึ้นเล็กน้อยที่ได้ออกข้างนอกแต่ก็ดูฝืนๆในสายตาลัคนัย เหมือนชนกจับมือพ่อทำกายภาพแต่เขาก็หมดกำลังใจดื้อๆเมื่อเห็นสายตาผู้คนรอบข้าง
“นก...พ่ออยากกลับบ้านแล้ว พ่อเหนื่อย”
“แต่เราเพิ่งมาถึงเองนะคะ ทำไม...”
เหมือนชนกพูดไม่จบก็กวาดตามองรอบตัว เห็นสายตามากมายจดจ้องพ่อก็โมโห
“ไม่เห็นต้องสนใจคนพวกนี้เลยค่ะพ่อ...ไม่มีมารยาท!”
“ไม่สนไม่ได้หรอก คนป่วยอย่างพ่อไม่ชอบให้ใครมองด้วยสายตาแบบนั้น”
“พ่อไม่ใช่คนป่วยค่ะ พ่อกำลังจะหาย อย่างน้อยตอนนี้ก็นั่งได้ ยืนได้”
“แต่พ่อเดินไม่ได้...แบบนี้ไม่ให้เรียกว่าคนป่วยแล้วจะเรียกว่าอะไร...เอาวีลแชร์มาที”
ไพพรรณที่ตามมาดูแลจะคว้ารถวีลแชร์ให้แต่เหมือนชนกห้ามไว้
“ก็หัดเดินสิคะ ถ้ายังเดินไม่ได้จะพาไปหาหมอปรึกษาเรื่องทำกายภาพ ไม่ใช่ท้อแล้วเรียกหาแต่วีลแชร์แบบนี้!”
“ก็มันเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับคนพิการอย่างพ่อไง!”
เหมือนชนกสะดุ้งกับคำว่าพิการแต่ไม่ทันปลอบธวัชก็โพล่ง