ตอนที่ 10
นิ่มนวลตัดสินใจเด็ดขาดหนีลัคนัยอีกครั้ง เธอเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ลูกชายคนเดียวและไปกราบลามาลินีที่วัด แต่อีกฝ่ายกลับถดเท้าหนีอย่างไม่ไยดี
“ต่อให้แกกราบฉันอีกกี่ร้อยกี่พันครั้งฉันก็ไม่มีวันอภัยให้แก”
“นิ่มไม่หวังให้คุณท่านให้อภัยในสิ่งที่นิ่มกับลูกทำ แต่นิ่มแค่อยากมากราบคุณท่านสักครั้งก่อนที่จะไม่มีโอกาส”
คำพูดแปลกๆของนิ่มนวลสะกิดใจมาลินีแต่ทิฐิทำให้ไม่มองหน้า นิ่มนวลสะอื้นไห้อย่างหนัก
“ขอบคุณคุณท่านที่ให้ชีวิตเด็กกำพร้าคนนี้ อบรมเลี้ยงดูอย่างดี ถ้าเด็กคนนี้รักดีสักนิด เชื่อฟังสิ่งที่คุณท่านสั่งสอนชีวิตคงไม่เป็นแบบนี้...แต่ในเมื่อย้อนเวลาไม่ได้ก็จะไม่มาให้รกหูรกตา...รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...นิ่มลาล่ะค่ะ”
นิ่มนวลก้มกราบทั้งน้ำตาและผละไป ทิ้งมาลินีให้ยืนนิ่งไม่แม้แต่ชายตามองอดีตเด็กในอุปการะ เสียงร้องไห้ของอีกฝ่ายกำลังทำให้เธอคลั่งแต่เมื่อหันไปมอง ...นิ่มนวลก็หายตัวไปแล้ว
ลัคนัยพาเหมือนชนกกลับกรุงเทพฯคืนวันเดียวกัน วิสาขารออยู่แล้วที่บ้านธวัชด้วยความร้อนใจพร้อมจดหมายลาของนิ่มนวล เมื่อลัคนัยรู้เรื่องก็หน้าเสียและซึมไปเลยหลังจากนั้น จนเหมือนชนกเป็นห่วง
เหมือนชนกนั่งมองสามีรื้อกระเป๋าเดินทางอย่างอดทน จนแล้วจนรอด...ลัคนัยก็ไม่ยอมอ่านจดหมายของนิ่มนวลแถมทำท่าจะทิ้งผ้าซิ่นของฝากเมืองเหนือที่เขาตั้งใจซื้อฝากแม่ คุณหนูขี้วีนต้องแย่งมาถือไว้
“จะทิ้งลงเหรอ...ผ้านี่นายตั้งใจเลือกมาฝากคุณแม่เองกับมือเลยนะ”
“เก็บไว้ก็เปล่าประโยชน์ครับ ในเมื่อคนที่อยากจะให้ไม่อยู่แล้ว”
“ไม่สมกับเป็นนายเลย บอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีอะไรบนโลกนี้สมควรถูกทิ้ง”
แววตาลัคนัยอ่อนแสงลง ยอมให้ภรรยาถือผ้าไว้ เหมือนชนกยิ้มบางๆและพับผ้าซิ่นอย่างเรียบร้อย
“ถ้านายไม่อยากเก็บก็ไม่เป็นไร ฉันจะเป็นคนเก็บให้เองจนกว่าเราจะหาคุณแม่เจอและมอบให้ท่าน”
“แล้วถ้าไม่เจอล่ะครับ”
“ยังไม่ได้พยายามจะพูดว่าไม่เจอได้ยังไง”
เหมือนชนกหยิบจดหมายของนิ่มนวลยื่นให้ลัคนัย
“เราอาจจะเจอเบาะแสอะไรในนี้ก็ได้”
ลัคนัยรับจดหมายแม่มาถือไว้ จ้องไม่วางตาแต่
ไม่ยอมเปิดอ่าน เหมือนชนกจะผละไปเพราะคิดว่าเขาต้องการเวลาส่วนตัวแต่เขาก็ยื้อไว้เพราะอยากให้เธออยู่ด้วย
เหมือนชนกไม่ขัดขยับไปนั่งข้างๆตอนเขาเปิดอ่านจดหมายของนิ่มนวล
“นัยลูกรัก...หลายปีมานี้แม่ได้แต่ฝันว่าจะได้เห็นลูกอีกสักครั้ง แล้วฝันของแม่ก็เป็นจริง...แม่ไม่ได้แค่เห็นแต่ได้อยู่ใกล้ ได้สัมผัส กอดลูกกับคนที่ลูกรักไว้ด้วยแขนของแม่ เป็นครั้งแรกที่ความจริงสวยงามกว่าความฝัน แม่จะจดจำมันไว้ตราบเท่าที่แม่ยังหายใจ”
ลัคนัยน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงความรู้สึกของแม่
ยามเขียนจดหมายฉบับนี้
“บุญแม่น้อยนักลัคนัย ไม่ได้อยากพบลูกเพียงเพื่อจากแต่ในเมื่อเลือกไม่ได้แม่ก็ขอจากไปแบบไม่ต้องเป็นภาระให้ลูกหรือใครต้องลำบาก ไม่มีอะไรต้องห่วง ...แม่ดูแลตัวเองมานาน กับเวลาที่เหลืออยู่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง ปล่อยแม่ไปตามทางของแม่และจงใช้ชีวิตของลูกให้เป็นสุขเหมือนกับว่าแม่คนนี้ไม่เคยกลับมา...แม่รักลูกนะลัคนัย”