ตอนที่ 17
“เดี๋ยวคนไข้ส่งรถมารับริสาค่ะ พอดีคนไข้ที่สนิทเขาไม่ยอมไปหาหมอแต่ขอให้ริสาไปหา ยังไงริสาจะรีบกลับนะคะ”
“ไปเถอะครับริสา ไม่ต้องรีบกลับ อยู่ดูแลคนไข้ของริสาจนกว่าเขาจะหายดี ไม่ต้องห่วงผม ผมเข้าใจ เดี๋ยวผมดูคนไข้ก่อนนะครับ”
หมอเอกตัดบทและวางสายอย่างเจ็บปวดที่สุดเพราะรู้ว่าอาริสาไปครั้งนี้คือการออกไปจากชีวิตตน...
ooooooo
รถตู้คันหรูของอาม่ามาจอดหน้าบ้านหมอเอกได้ไม่นานอาริสาก็รีบร้อนออกมาพร้อมพูดโทรศัพท์กับสนไปด้วยจึงไม่ได้สนใจคนขับรถที่รอเปิดประตูอยู่
“รถมารับแล้วจ้ะสน ฉันกำลังรีบไป แล้วอาม่าเป็นยังไงบ้าง แน่ใจนะว่าไม่ใช่อาการโรคหัวใจ เอาอย่างงี้เดี๋ยวฉันส่งข้อมูลไปให้ ถ้ามีอาการประเภทนี้รีบโทร.บอกฉันทันทีนะ”
อาริสาขึ้นนั่งบนรถแล้วเสิร์ชข้อมูลในโทรศัพท์มือถือโดยไม่ได้สนใจคนขับที่แต่งตัวมิดชิดมากใส่หมวกและหน้ากากกันฝุ่นปิดครึ่งหน้าไว้ เขาแอบมองอาริสาผ่านกระจกส่องหลังก่อนขับรถออกไปจนกระทั่งถึงอยุธยาซึ่งใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง
ทันทีที่รถจอดหน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ อาริสารีบร้อนลงมาทักสนที่รอรับหน้าแล้วพากันเข้าบ้านเพราะเธอห่วงอาม่ามาก ความเร่งรีบทำให้อาริสาลืมกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือไว้ในรถเสียสนิท เลยสมใจคนขับรถที่ก้าวลงมาถอดหมวกกับหน้ากากออกเผยให้เห็นชัดเจนว่าคือป้องกุลนั่นเอง
เมื่อสนเดินนำอาริสาเข้ามาถึงห้องรับแขกก็บอกว่า “เดี๋ยวคุณริสาขึ้นไปที่ห้องนอนใหญ่ทาง ซ้ายมือเลยนะคะ เดี๋ยวสนไปเตรียมอาหารก่อน”
อาริสาไม่ได้เอะใจคิดว่าอาม่ารออยู่ในห้องนอนจึงตอบรับโดยดีแล้วก้าวขึ้นบันได ส่วนสนรีบวิ่งไปอีกทางที่อาม่าซ่อนตัวมองมาอย่างตื่นเต้น
“ริสาเป็นยังไงบ้าง สงสัยอะไรไหม”
“ไม่สงสัยอะไรเลยค่ะ อาม่าเตรียมใส่ซองรับขวัญหลานสะใภ้ได้เลย”
“แกไปล็อกประตูทางขึ้นเลยนะ หาโซ่ล่ามไว้ได้ยิ่งดี อย่าให้คนข้างบนลงมาได้”
สนกระวีกระวาดไปทำตามคำสั่ง อาม่ายิ้มสนุกลุ้นสุดตัวให้หลานรักปรับความเข้าใจกับอาริสาได้เสียที
อาริสาเปิดประตูห้องนอนใหญ่เข้ามามองหา อาม่ารอบห้องพร้อมส่งเสียงเรียกท่าน แต่ฉับพลันต้องตกใจกับเสียงปิดประตูและเมื่อหันกลับมาก็เห็นป้องกุลยืนอยู่
“เราต้องคุยกัน” ป้องกุลพูดนิ่งๆ แต่อาริสาร้อนรนถามเสียงแข็งว่าอาม่าอยู่ไหน เขาไม่ตอบทำให้เธอขึ้นเสียงด้วยความโมโห
“นี่มันอะไรกัน ตกลงอาม่าไม่ได้เป็นอะไรแต่เธอให้สนหลอกฉันมาใช่ไหม”
“ริสา...ฟังผมก่อน”
อาริสาโกรธจะออกจากห้องแต่ป้องกุลขวาง ประตูอยู่ “ถอย!!”
“ไม่! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องใครก็ออกไปจากบ้านหลังนี้ไม่ได้”
เมื่อออกทางประตูไม่ได้อาริสาวิ่งไปที่หน้าต่างและพยายามเปิดแต่ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนไปหลบอยู่ในห้องน้ำล็อกกลอนแน่นหนาร้องห้ามไม่ให้เขาเข้ามา
“ริสาออกมาเถอะ” ป้องกุลขอร้อง
“ไม่! เธอเลวมากนะที่หลอกฉันมาที่นี่ คิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะยอมเหรอ รู้จักฉันน้อยไป ฉันจะอยู่ในนี้จนกว่าจะมีคนมาช่วย” ว่าแล้วเธอล้วงกระเป๋ากางเกงหาโทรศัพท์ พร้อมๆกับเสียงป้องกุลดังจากหน้าห้องน้ำ
“มือถือคุณลืมไว้ที่รถน่ะ”
อาริสาหน้าเสียแต่ไม่ยอมแพ้ ตะโกนลั่น “ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ฉันโดนจับตัวมา”
“ ริสาอย่าตะโกน เดี๋ยวตัวที่อยู่ในห้องน้ำจะตกใจนะ”
อาริสาชะงักไปนิดก่อนร้องถามว่าตัวอะไรพูดพลางก็มองสำรวจภายในห้องน้ำจนกระทั่งเจอตุ๊กแก สามตัวที่ผนัง
“อ๊าย!!!” เธอกรีดร้องด้วยความตกใจแล้วเปิดประตูพรวดพราดออกมาโดยไม่ทันสังเกตดีๆว่ามันคือตุ๊กแกปลอม เรียกว่าเธอหลงกลป้องกุลเข้าอย่างจัง แถมยังพาตัวเองพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอย่างง่ายดาย
“ปล่อยฉัน!!”
“ริสาใจเย็นๆ แล้วฟังผมก่อน”
อาริสาไม่ยอมฟัง เห็นว่าตัวเองดิ้นไม่หลุดจึงเปลี่ยนเป็นดันเขาไปทางประตูห้องแทน
“ริสาเบาๆ เดี๋ยวกระเทือนถึงลูก ริสาทำไมแรงเยอะอย่างนี้เนี่ย”
อาริสาดันป้องกุลจนออกจากห้องได้แล้วตัวเองก็จะวิ่งหนีออกไปด้วยแต่ไม่สำเร็จ โดนเขาคว้าตัวไว้แต่เธอก็ยังดิ้นรนหนีกลับเข้าห้องแล้วล็อกประตูไม่ให้เขาเข้ามา
“ฟังผมอธิบายก่อน” ป้องกุลขอร้องพร้อมเคาะประตูระรัว
“ไม่ฟัง! ยิ่งเธอหลอกฉันมา ฉันยิ่งไม่อยากฟังเธอ”
“ก็ถ้าไม่ทำอย่างนี้คุณจะยอมมาเจอผมไหม ออกมาเถอะริสา เราออกมาคุยกันดีๆเถอะนะ”
อาริสายืนพิงประตูด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ
เอามือกุมท้องไว้อย่างระวัง และตะโกนโวยวายว่ายังไงก็ไม่ยอมออกไป
“ทำไมถึงดื้ออย่างนี้เนี่ย แน่ใจนะว่าจะอยู่ในห้องนั้น ไม่กินข้าว คนท้องหิวบ่อยไม่ใช่เหรอ”
เขาพูดปุ๊บ เธอท้องร้องปั๊บจนเขาได้ยินเลยอดขำไม่ได้ บอกว่าเหมือนในละครเลย
“ไม่ต้องมาขำ ยังไงฉันก็ไม่ออกไป”
“จะกินน้ำในห้องน้ำประทังชีวิตเหรอ”
“ใช่!!”
“แล้วไม่กลัวตุ๊กแกเหรอ”
“ตุ๊กแกยังไม่น่ากลัวเท่าเธอหรอก”
“ผมไม่ได้ขู่นะ ห้องนั้นมีอะไรที่น่ากลัวกว่าตุ๊กแกอีก”
“ไม่ต้องมาหลอกฉัน ฉันไม่ใช่เด็ก”
“ผมไม่ได้หลอก ผมแค่บอกตามที่เจ้าของบ้านเขาเล่ามา ห้องนี้เขาเรียกว่าห้องเจ้าที่กระซิบ แขกที่มาพักใครโวยวายหรือหงุดหงิดเนี่ยเจ้าที่ไม่ชอบ เขาจะมา...ผมไม่เล่าต่อแล้วกัน เดี๋ยวริสากลัว”
อาริสาเริ่มขนลุก หันไปเห็นภาพถ่ายคนโบราณอยู่ด้านหลังก็อุทานตกใจ ป้องกุลแทบหลุดขำ ร้องบอก
“ถ้าริสาเปลี่ยนใจอยากออกมาคุยเมื่อไหร่...บอกนะ”
“ฉันไม่คุยอะไรทั้งนั้น ฉันจะออกต่อเมื่อเธอ
พาฉันกลับบ้าน”
“ตามใจ” พูดจบป้องกุลแกล้งเดินไปจากหน้าห้อง
อาริสาหวาดๆกลัวๆ แถมหิวจนท้องร้องโครกคราก แล้วยังเครียดด้วยว่าจะหนีป้องกุลได้ยังไง?
ooooooo