ตอนที่ 5
ส่างคำได้เสบียงมาเต็มถุงผ้ากำลังจะมุ่งหน้าเอาไปให้เจ้าจ้อย โดยจอดรถทิ้งไว้ชายป่า แต่เขาโชคร้ายเจอทหารซาอูกลุ่มหนึ่งที่มีอันโตนนำขบวนมา
อันโตนจับส่างคำไว้คาดคั้น และไม่เชื่อว่าเขาจะเอาอาหารไปให้ลูกเมียอย่างที่บอก แต่ถามเท่าไหร่ส่างคำก็ไม่ยอมพูดความจริง ทำให้อันโตนซึ่งเชื่อว่าเสบียงพวกนี้เป็นของเจ้าแสงจันทาเกิดความโมโห ยิงขาทั้งสองข้างของเขาแล้วกระทืบซ้ำจนเจ็บปวดทรมาน แต่ส่างคำก็ยังไม่ปริปากให้พวกซาอูรู้ว่าองค์หญิงอยู่ที่ไหน
“มึงยังปากแข็ง กูจะเฉือนเนื้อมึงออกมาทีละชิ้นๆ จนกว่าจะเหลือแต่กระดูก แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะตาย กูจะไม่ให้มึงตายง่ายๆหรอก กูจะให้มึงอยู่อย่างทรมานจนกว่ามึงจะบอกว่าองค์หญิงอยู่ที่ไหน”
อันโตนจี้มีดไปที่คอส่างคำ แต่จังหวะนั้นส่างคำกลับกระแทกมืออันโตนจนมีดแทงจมมิดคอตัวเองท่ามกลางสายตาอันโตนและทหารซาอูที่ตะลึงค้าง
“สักวันเจ้าหลวงจะต้องกลับมาแก้แค้น ทวงคืนเมืองจาย ฉันขอสาปแช่งพวกแกให้ตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด”
ส่างคำพูดได้แค่นั้นก็สิ้นใจ เขายอมพลีชีพเพื่อปกป้ององค์หญิงเมืองจาย อันโตนฉุนจัดผลักศพส่างคำกระเด็นแล้วสั่งทหารของตน
“ไอ้ทหารนั่นต้องพาองค์หญิงไปตามทางนี้แน่ๆ ตามเร็ว!”
ขณะที่พวกอันโตนกำลังกระเหี้ยนกระหือรือตามมาถูกทาง พสุบอกเจ้าจ้อยว่าเราคงรอส่างคำไม่ได้แล้ว ขืนช้ากว่านี้พวกทหารซาอูอาจจะแกะรอยตามมาทัน
“แล้วถ้าส่างคำตามมาไม่เจอเราล่ะ”
“ส่างคำรู้ว่าเรากำลังจะไปที่ไหน เขาตามเราไปได้ไม่ยากหรอก รีบไปเถอะครับ”
สองคนจับมือกัน พสุเน้นย้ำว่าสิ่งที่เขาทำไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็นความรัก เจ้าจ้อยยิ้มรับอย่างซาบซึ้งตื้นตัน แต่ยุพราชซุ่มมองมาด้วยความโกรธและผิดหวังที่เพิ่มพูนทวีคูณขึ้นในใจ แล้วก้าวตามทั้งคู่ไปเงียบๆ ยากจะรู้ใจว่าเขาประสงค์ดีหรือร้าย...
อันโตนมีวิญญาณภูตพรายรายล้อมคอยนำทาง เขาวิ่งนำจ่อเอและทหารซาอูไปตามทางในป่าราวกับฝูงหมาป่าแวมไพร์ไล่ล่าเหยื่อ แล้วไม่นานนักทั้งหมดก็พบเศษขี้เถ้าบริเวณผาน้ำตก มั่นใจว่ามีการพักค้างแรมก่อกองไฟ แถมสำรวจดีๆยังเห็นรอยรองเท้าเปียกน้ำ
ย่ำพื้นซึ่งรอยยังใหม่ๆ แสดงว่าเพิ่งไปได้ไม่ไกลจากตรงนี้
“ไปเว้ย...รีบตามให้ทัน” จ่อเอตะโกนลั่นอย่างฮึกเหิม
ooooooo
ที่คุ้มจันทรา เจ้าหลวงและมหาเทวีดีใจมากเมื่อมีทหารไทยมาแจ้งข่าวว่า ส่างคำแอบให้คนส่งข่าวมาบอกทางการไทยว่าทหารไทยที่ไปช่วยกำลังพาเจ้าจ้อยมาใกล้ชายแดนไทยที่ติดกับเมืองแพรกแล้ว และขอกำลังไปรอช่วยเหลือด่วน