ตอนที่ 5
“แบบนี้เกิดมหาเทวีใช้อำนาจไล่เจ้าอุ่นคำกับเจ้าขุนออกจากคุ้มจันทรา จะทำอย่างไรเจ้าค่า”
“กล้าไล่เฮาเหรอ” เจ้าอุ่นคำโวยเสียงแหลม แต่เจ้าขุนแสงเรืองเชื่อมั่นว่าเจ้าหลวงไม่มีวันยอมให้มหาเทวีทำอะไรเราได้ “ถูกต้องแล้วลูก เพราะเจ้าหลวงมีหนี้ที่ต้องชดใช้ให้เราอยู่ และมันก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว รอแค่ให้เจ้าจ้อยมาถึงคุ้มจันทราเสียก่อน”
“ถ้าเจ้าจ้อยมาถึงคุ้มแล้ว เจ้าหลวงจะต้องชดใช้หนี้อย่างไรหรือเจ้าค่า”
“ก็ชดใช้ด้วยการให้เจ้าจ้อยอภิเษกสมรสกับเจ้าขุนยังไงล่ะ แล้วลูกชายคนเดียวของฉันก็จะขยับฐานะขึ้นเป็นเขยใหญ่ของเจ้าหลวงเมืองจาย...และฐานะว่าที่เจ้าหลวงเมืองจาย”
“แต่ว่าตอนนี้เมืองจายเราถูกพวกซาอูยึดอำนาจไปแล้วนะเจ้าค่า เจ้าขุนจะกลับไปเป็นเจ้าหลวงได้ยังไง”
“แกนี่มันพวกยึดติดจริงๆ การเป็นเจ้าหลวงเมืองจายไม่จำเป็นต้องกลับไปอยู่เมืองจาย อยู่เมืองไทยก็เป็นเจ้าหลวงเมืองจายมีคนยกมือไหว้นับหน้าถือตาเหมือนกัน ขอให้มียศถาบรรดาศักดิ์ติดตัวไว้เถอะ เราจะอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นในโลกนี้ อยู่อย่างสบาย”
เจ้าอุ่นคำเพ้อฝันไปไกล เจ้าขุนแสงเรืองก็พลอยยิ้มยืดฝันหวานไปด้วย...ส่วนอีกเรือนที่เจ้าหลวงกับมหาเทวีอยู่ เจ้าหลวงกำลังจะร่างจดหมายถึงกงสุลอังกฤษและองค์การสหประชาชาติเพื่อร้องขอความคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนที่ถูกรัฐบาลซาอูลิดรอนอย่างไม่เป็นธรรมและโหดเหี้ยม ซึ่งเป็นหนทางกอบกู้เมืองจายกลับมาให้เร็วที่สุด มหาเทวีเห็นด้วยอย่างยิ่งและขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหลวงทำสำเร็จตามปรารถนา
ooooooo
ค่ำแล้ว เจ้าจ้อยกับพสุอาบน้ำเล่นน้ำกันจนหนำใจก่อนจะกลับมาในชุดใหม่แล้วนั่งฉอเลาะดูแลกัน และกันด้วยความรักที่ต่างก็มีให้กันจนล้นใจ
พสุปากหวานใส่จนเจ้าจ้อยเขินอาย แล้วเขายังตบท้ายว่าคืนนี้อาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่เขามีบุญได้ใกล้ชิดเจ้าจ้อยแบบนี้ ถ้ากลับไปถึงเมืองไทยแล้ว เราจะได้เจอกันอีกไหม?
“ต้องได้เจอกันสิ”
“สัญญานะครับ”
“เฮาสัญญา ทันทีที่ถึงเมืองไทย เฮาจะปลดพันธะเรื่องหมั้นกับเจ้าปี้ขุนแสงเรือง การแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น แล้วเฮาจะบอกเรื่องของเรากับเจ้าพ่อเจ้าแม่”
“ผีเสื้อเป็นพยานแล้วนะครับ”
พสุทำมือเป็นสัญลักษณ์ของผีเสื้อ เจ้าจ้อยยิ้มรับและทำมือแบบเดียวกัน...
รุ่งเช้า พสุรู้สึกตัวลืมตาขึ้นอย่างเมื่อยขบไปทั้งแขน แต่พอเห็นเจ้าจ้อยนอนหนุนแขนหลับสบาย ความเมื่อยนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้ง