ตอนที่ 11
ดาริกายังไม่ตัดใจจากชายใหญ่ เธอต้องการให้เขาหันมาสนใจด้วยการใช้เส้นสายของพ่อจนตัวเองได้ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารของภัทรยศ คาดหวังว่าความสวยของตนต้องทำให้หนุ่มทั้งเมืองชื่นชอบ โดยเฉพาะชายใหญ่ผู้ชายที่เธอรักปักใจ
ภัทรยศยินยอมทั้งที่รู้ทันความคิดของดาริกา และรู้ด้วยว่าชายใหญ่ไม่ได้สนใจไยดีอะไรเธอขึ้นมาสักนิด ไม่ว่าเธอจะวางแผนหรือจัดฉากยังไง สถานะที่ชายใหญ่ให้ได้ก็คือน้องสาวเท่านั้น
เช้าวันงานเลี้ยง นวลชวนเอื้อยไปรับชุดที่สั่งตัดไว้ แต่ยังไม่ทันถึงร้านเอื้อยอยากกินก๋วยเตี๋ยวจึงขอแวะก่อน นวลตกลงแต่ให้สาวใช้รออยู่ที่ร้าน ส่วนเธอขอเดินไปรับชุดซึ่งร้านอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ แต่แล้วนวลเดินมาเจอภุมวารีเข้าอย่างจัง
ภุมวารีตกใจรีบวิ่งหนีไปขึ้นแท็กซี่ นวลขึ้นอีกคันตามติด จนกระทั่งไปถึงหน้าบ้านเช่าแต่ภุมวารีวิ่งหลบเข้าบ้าน สั่งพ่อสามีไม่ให้เปิดประตูและห้ามออกไปด้วย
นวลมองหาผู้หญิงหน้าเหมือนตัวเองอยู่นานแต่ไม่พบ พอจะเรียกรถถึงรู้ตัวว่าทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายเสียแล้ว ส่วนเอื้อยเห็นว่านายสาวหายไปนานก็ตามหาอย่างร้อนใจ
ฝ่ายภาสกรที่ตั้งใจไม่ไปงานเลี้ยงเย็นนี้ที่วังของหม่อมย่า แต่ตอนบ่ายเขาเจอสรุจญาติในตระกูลอภัยรัตน์ สรุจคะยั้นคะยอจนภาสกรปฏิเสธไม่ออก และคิดจะชวนขวัญเรือนไปด้วยเพราะเวลานี้เธอคุยกับหมอเรื่องอาการของภานุโรจน์อยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน
เอื้อยกลับมาร้องห่มร้องไห้เล่าให้ชายใหญ่ฟังว่าคุณผึ้งหายไป ชายใหญ่เป็นห่วงและร้อนใจมากเพราะใกล้เวลาต้องไปงานเลี้ยง แต่หญิงเล็กสะใจที่พี่สะใภ้ไม่ได้ออกงาน จึงคิดจะเอาดาริกามาเสียบแทน
ชายใหญ่กับเอื้อยไปแจ้งความคนหาย ตำรวจช่วยติดตามแต่ไม่พบตัว ชายใหญ่จึงยกเลิกไปงานเลี้ยง ท่านพ่อของเขาเกรงใจเจ้าภาพที่อุตส่าห์เชิญเลยชวนหญิงเล็กไปเป็นเพื่อน
ooooooo
ขวัญเรือนประดักประเดิดกับงานเลี้ยงหรูหรา เธอขอรออยู่ในรถแต่ภาสกรไม่ยอม เขาและเธอเข้าไปทำความเคารพหม่อมรัศมีผู้เป็นย่าของภาสกร
หม่อมรัศมีไม่ได้ใจร้ายใจดำกับหลานชาย หนำซ้ำยังถามถึงภานุโรจน์ก่อนจะมอบแหวนวงหนึ่งให้ภาสกรหลังจากได้ฟังว่าน้องชายของเขายังรักษาตัวอยู่
ด้านภุมวารีที่เก็บตัวหลบนวลอยู่ในบ้าน เธอเพิ่งรู้จากทินกรว่าภาสกรไปงานเลี้ยงที่วังอภัยรัตน์กับขวัญเรือน ทินกรพูดจายุแหย่จนภุมวารีเกิดความหวาดระแวงและหึงหวงตามไปที่งานอย่างไร้สติยั้งคิด
ภายในงานเลี้ยง หญิงเล็กหาโอกาสพูดคุยกับภาสกร ส่วนขวัญเรือนเลี่ยงไปอีกทางอย่างเจียมตัว
“ไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะ พี่สะใภ้ฉันถึงทิ้งทุ่นไม่ยอมมาเจอหน้านายที่งาน หรือว่าตาขาว กลัวพี่ชายใหญ่จะจับได้คาหนังคาเขา”
“คุณผึ้งจะมาที่นี่หรือครับ”
“ไม่ต้องมาทำไก๋ ต่อให้พาผู้หญิงอื่นมาบังหน้า มันก็ลบสถานะชายชู้ของนายไม่ได้หรอก”
“ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณหญิงจะคิดยังไงกับผม เพราะคุณหญิงไม่ได้สำคัญกับผมถึงขนาดนั้น จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้ ตามสบาย”
หญิงเล็กเม้มปากขัดใจ เริ่มเปลี่ยนมาใช้ไม้นวม “ฉันรู้ว่าสิ่งเดียวที่นายสนใจก็คือเงิน บอกมาซิว่านังผึ้งมันเลี้ยงดูนายเดือนละเท่าไร ฉันจะให้มากกว่าอีกเท่านึง แลกกับการสารภาพความจริงว่ามันเล่นชู้กับนาย พี่ชายฉันจะได้เป็นอิสระ”
“ผมไม่ต้องการเงินของคุณหญิงแม้แต่สลึงเดียว” ภาสกรพูดเสียงแข็ง ผละจากหญิงเล็กตรงไปหาขวัญเรือนที่กลับจากห้องน้ำพอดี “ไปกราบหม่อมย่ากันเถอะครับคุณขวัญเรือน เราจะกลับกันแล้ว”
ภาสกรพาขวัญเรือนหันหลังกลับ ไม่รู้เลยว่าภุมวารีเพิ่งก้าวเข้ามาในงานสดๆร้อนๆ
“คุณภาส!” เสียงภุมวารีดังก้องทั่วงานจนทำให้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดลง สายตาแทบทุกคู่พุ่งมายังจุดที่ทั้งสามยืนอยู่
“คุณไม่ปริปากบอกฉันซักคำว่ามีงานเลี้ยงที่วัง แต่กลับพามันมาเชิดหน้าชูตา มันหมายความว่ายังไง”
ภุมวารีแผดเสียงไม่สนใจว่าจะมีใครมองอยู่หรือไม่ เธอก้าวพรวดเข้ามาถึงตรงหน้าคนทั้งสองแล้วเงื้อมือตบขวัญเรือนดังฉาด
“นังขวัญเรือน ฉันนึกแล้วว่าแกมันไว้ใจไม่ได้ ทำเงียบๆหงิมๆ แต่ก็แอบลักกินขโมยกิน ฉันไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้แกมาเป็นเมียน้อยผัวฉัน อีหน้าด้าน” ด่าเสร็จตบขวัญเรือนซ้ำอีกฉาด ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน