ตอนที่ 11
นวลเงียบไปอย่างเสียดาย ยังค้างคาใจเรื่องการตามหาผู้หญิงหน้าเหมือนตัวเอง
ฝ่ายภุมวารีที่หนีไปจากภาสกรแล้วปักหลักอยู่ในโรงแรม เธอเสียใจและน้อยใจภาสกรอย่างมาก ตัดสินใจใช้เศษแก้วกรีดแขนจนหมดสติก่อนที่ผู้จัดการจะเข้ามาเห็น หลังจากเคาะเรียกอยู่นานแต่เธอไม่ยอมเปิดประตู
ภาสกรรู้เรื่องรีบมาที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าภรรยาของเขาปลอดภัย ตอนนี้ให้ยานอนหลับไว้ อีกสักพัก คงรู้สึกตัว เมื่อภุมวารีตื่นมาเห็นภาสกรก็ถามประชดว่า ห่วงตนด้วยหรือ
“คุณผึ้ง...ห่วงสิครับ ผมกลับไปที่นครปฐม เพราะคิดว่าคุณหนีกลับไปที่บ้าน แต่ก็ไม่พบ แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้จะไปตามคุณที่ไหน ผมรู้ว่าคุณผึ้งโทร.มาที่ทำงาน แต่ผมรับสายไม่ทัน ผมขอโทษนะครับ”
“ผึ้งคิดว่าคุณคงจะโล่งใจเสียอีก ถ้าผึ้งไปจากคุณเสียได้”
“เมื่อคืนผมแทบหลับตาไม่ลงด้วยซ้ำเพราะเป็นห่วงคุณ กลับบ้านเรากันนะครับ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ห่วงคุณ นายโรจน์ก็ถามหาคุณ คุณขวัญเรือนก็ไม่สบายใจ”
ภุมวารีหน้าตึงเมื่อได้ยินชื่อขวัญเรือน ภาสกรรู้ทันทีว่าเธอยังไม่หายเคืองใจ พยายามอธิบายว่าตนกับขวัญเรือนไม่ได้มีอะไรกัน แต่ภุมวารีไม่เชื่อเพราะเขาทำให้เธอหวาดระแวงเสียแล้ว นอกจากจะไล่มันออกไปจากบ้าน ถ้าทำไม่ได้เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาดูดำดูดีเธออีก และตราบใดที่ขวัญเรือนยังเสนอหน้าอยู่ในบ้าน ตนไม่มีวันกลับไปเหยียบที่นั่นแน่
ภาสกรพูดไม่ออก เดินคอตกออกไป ภุมวารีฟุบหน้า ร้องไห้กับหมอนเสียใจที่สามียังเห็นแก่ขวัญเรือน
เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านเช่า นักเลงทวงหนี้กลุ่มเดิมบุกมาเอาตัวภานุโรจน์กับขวัญเรือนไปเป็นตัวประกันหลังจากไม่พบทินกร เมื่อภาสกรกลับมาพบข้อความที่มันเขียนไว้ก็มุ่งหน้าไปที่บ่อนนายแสวง แต่โดนพวกมันชกต่อยแล้วไล่ให้กลับไปเอาเงินค่าไถ่มาห้าหมื่น
ภาสกรอับจนต้องบากหน้ากลับมาหาภุมวารีที่โรงพยาบาล หญิงสาวโกรธมากเพราะเขาไม่ไล่ขวัญเรือนตามคำขู่ แล้วยังมาขอเงินไปไถ่ตัวภานุโรจน์ แต่พอเห็นน้ำตาของสามีที่ก้มกราบอย่างหมดท่าลูกผู้ชาย เธอใจอ่อนยวบร้องไห้ตามด้วยความสงสาร
ooooooo
คืนเดียวกันนี้นวลกับเอื้อยกลับมาที่บ้านนครปฐมโดยนายจวนขับรถไปรับ แต่ไม่เจอเกรียงไกรและสวาท เพราะทั้งคู่ไปดูงานที่สิงคโปร์
เมื่อเอื้อยถามหาแม่ตัวเอง จวนบอกว่าคุณท่านเอายายเฟื้อไปด้วย นอกจากนี้จวนยังพูดด้วยว่ายายเฟื้อเจอกับคุณผึ้งเมื่อสองวันก่อน นวลสงสัยแต่ไม่ถามต่อหน้าเอื้อย แอบไปคุยกันสองคน
“ยายเฟื้อบอกว่าเมื่อวานซืนคุณผึ้งกลับมาเอาเครื่องเพชรที่บ้าน แล้วก็ทะเลาะกับคุณสวาทจนบ้านแทบแตก”
“ฉันน่ะเหรอ ทะเลาะกับคุณสวาท”
“คุณผึ้งจำไม่ได้หรือครับ...คุณผึ้งกลับมาที่บ้านสองสามครั้งแล้ว ส่วนใหญ่ก็มาเอาเครื่องเพชรของคุณแม่ คุณผึ้งจำไม่ได้จริงๆหรือครับ”
นวลไม่ตอบ แต่ทำหน้าพิศวง หลังจากนั้นเธอกลับมาที่ห้องนอน นั่งทบทวนเหตุการณ์หลายอย่างจนเริ่มปะติดปะต่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในหัว ความคิดกระจ่างขึ้นในใจว่าตัวเองอาจจะไม่ใช่ภุมวารี
รุ่งเช้านวลชวนเอื้อยไปที่หลังตลาดตรงจุดเกิดเหตุที่เธอถูกทำร้ายตามคำบอกเล่าของตำรวจที่เอื้อยรู้มา
“ทำไมฉันถึงถูกหลอกมาทำร้ายที่นี่ได้ บ้านหม่อมหลวงภาสกรอยู่แถวนี้หรือ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่นายคนนั้นคงจะลวงคุณผึ้งว่าจะพาหนีไปพระนคร ก็เลยนัดให้มาเจอที่นี่ คุณผึ้งถามไปทำไมคะ แล้วทำไมต้องกลับมารื้อฟื้นเรื่องพวกนี้อีก ให้มันแล้วไปเถอะค่ะ”
นวลหันมองหน้าเอื้อย ในใจเกิดคำถามมากขึ้นทุกที แต่ยังเก็บอาการไว้
“ฉันอยากรู้เรื่องเก่าๆน่ะจ้ะ เผื่อมันจะทำให้ฉันหายข้องใจกับอะไรหลายๆอย่าง”
สองคนกลับมาขึ้นรถที่นายจวนจอดรถอยู่หน้าตลาด จักรเห็นนวลเต็มตาแต่ไม่กล้าเข้าไปหา เพราะยังจำถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามครั้งก่อนได้ขึ้นใจ โดยไม่รู้เลยว่า นั่นคือคำพูดของภุมวารีลูกสาวเศรษฐี ไม่ใช่นวลคนนี้
ooooooo