ตอนที่ 1
สารัถต์ถามว่าหัวไปกระแทกอะไรหรือเปล่า เธอไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง บอกว่าตนแค่หน้ามืดเท่านั้น แต่ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย...
สารัตถ์ออกมาบอกอคินว่าริศารู้สึกตัวแล้ว บอกว่าเธอแค่เป็นลมหน้ามืดเท่านั้นและฝากขอโทษด้วยที่ทำ
ให้เขาตกใจ สารัตถ์บอกว่าไว้ริศาหายดีแล้วค่อยไป
บินกันใหม่ก็ได้ นึกได้บอกอคินว่ามีบริษัทอื่นเขารับสมัครนักบินนะ น่าจะลองไปสมัครดู อคินตอบทันทีว่าไม่ เพราะตนอยากทำงานกับบลูไคท์มากกว่า
สารัตถ์บอกว่าอีกไม่นานตนคงวางมือไม่บินกับบลูไคท์แล้ว เพราะรู้สึกอิ่มตัวกับงานนี้และอยากลองไปทำอะไรเล็กๆกับริศามากกว่า บอกอคินว่า
“คุณเป็นคนเก่ง อนาคตไกล คุณมีทางเลือก
มากกว่าสายการบินเล็กๆอย่างบลูไคท์ คุณน่าจะลองดูนะ อย่าอยู่ที่เดิมเลย คิดซะว่าเป็นคำแนะนำจากครูบาอาจารย์อย่างผมก็แล้วกัน”
อคินรู้สึกแปลกๆแต่ก็พยักหน้ารับ
ริศาบอกป้านิ่มว่าก่อนที่ตนจะหมดสติ ได้ยินเสียงคนนั้นอีกแล้ว ป้านิ่มตกใจถามว่าเสียงที่เคยได้ยินตอนเด็กๆหรือ เสียงเดิมหรือเปล่า ริศาบอกว่าไม่แน่ใจเพราะมันนานมากแล้วแต่ก็คล้ายมาก
“โอ๊ย...นึกว่าพ้นเคราะห์พ้นโศกไปตั้งแต่ตอนจมน้ำรอบนั้นแล้ว ยังตามมาหลอกหลอนกันอีกเหรอนี่ ไปค่ะ พรุ่งนี้ป้าแอบพาไปรดน้ำมนต์เหมือนตอนเด็กๆนะคะ” ริศาบอกว่าไม่ต้องเพราะตนอาจหูแว่วไปเอง “ถ้ามีอะไรรีบบอกป้าเลยนะ ป้าล่ะห่วงหนูจริงๆ เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ คุณสารัตถ์ไม่ยอมเข้าใจหรอก”
ป้านิ่มบ่นไม่สบายใจ ริศาได้แต่นิ่งคิด
เย็นวันเดียวกันที่ท่าน้ำวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเด็กวัดกำลังสุมหัวกันแอบเล่นไพ่อยู่นั้น กิตติก็ตะเกียกตะกายขึ้นจากแม่น้ำ มีผักตบชวาห้อยรุ่งริ่งมาตามตัว พวกลูกศิษย์วัดร้องโวยวายกันว่าตัวเงินตัวทอง ตัวใหญ่มากเลย กิตติลุกขึ้นสลัดผักตบชวาออก ตะโกน
“คนเว้ย...กูคน...”
ooooooo
วันนี้อคินในชุดกัปตันกำลังจะออกไปทำงาน ถูกย่าเอมอรจับมือจูงไปดูการตบแต่งบ้านเดี่ยวโดยมี
อยุทธลูกชายเดินตามไปห่างๆ
“ย่าครับ วันนี้ผมต้องไปขับเครื่องบินลำใหม่จากเมืองนอกกลับมา เอาไว้ถึงแล้วผมค่อยกลับมาดูก็ได้ครับ” แต่เอมอรก็คะยั้นคะยอให้ไปดูเพื่อให้แน่ใจว่าถูกใจคนอยู่ อคินเกรงใจย่าบอกว่าไปดูแป๊บเดียวนะครับ
ขณะย่าเอมอรพาอคินดูการตบแต่งบ้าน เท้าเหยียบผ้าพลาสติกที่ปูขั้นบันไดลื่นตกลงมา เมื่อพาส่งโรงพยาบาลปรากฏว่าสะโพกหัก อยุทธบอกว่าอคินติดบินไม่ใช่หรือ ไม่ต้องห่วงพ่อจะอยู่ดูแลเอง รีบไปรีบกลับก็แล้วกัน
อคินบอกว่าตนอยากให้คนอื่นบินแทนแต่ไม่มีใครว่างเลยนอกจากพี่สารัตถ์ แต่ตนเกรงใจไม่อยากรบกวน ขณะนั้นเองพยาบาลมาบอกว่า
“คุณอคินคะ คุณเอมอรเรียกหาคุณค่ะ”
คุณย่าบอกอคินว่าย่ากลัวจะไม่ฟื้นไม่อยากเข้าห้องผ่าตัด อคินปลอบว่าคุณย่าต้องฟื้น เพราะคุณย่าพูดตลอดมาว่าจะรอเจอหน้าหลานสะใภ้ รออุ้มหลานก่อน ย้ำทวงสัญญาว่า
“ตั้งแต่ผมโตมาย่าพูดคำไหนต้องเป็นคำนั้นตลอด”
“งั้นรับปากย่า อยู่รอจนย่าผ่าตัดเสร็จ ย่าอยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอหลาน”