ตอนที่ 1
“ยินดีด้วยครับทั้งกัปตันมือเก่าและมือใหม่” เสียงศรันย์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของศรุตดังแทรกเสียงปรบมือแล้วไปยืนแทรกติดกับพ่อ เบียดอคินกระเด็นไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อคินอึ้งๆแต่ยอมถอยเพราะไม่อยากแข่งกับใคร ศรันย์ยิ้มให้ริศาแล้วฉวยมือขึ้นมาจูบ
ริศาตกใจทำตัวไม่ถูก เผลอหันมองอคินว่าเขาเห็นหรือเปล่า ศรันย์หัวเราะร่วน ขอโทษทุกคนที่มาร่วมงานช้าไปหน่อยเลยทำให้พ่อลำบากดูแลทุกคนอยู่คนเดียว แล้วพูดอวดบารมีประกาศศักดาว่า
“อีกไม่นาน...หลังจากคุณพ่อวางมือแล้ว ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลบุคลากรทุกท่านแทนคุณพ่อครับ”
ทุกคนในงานอึ้ง ศรุตสีหน้าไม่พอใจแต่เกรงใจลูกเลยตัดบทชวนทุกคนตามสบาย สารัตถ์พยายาม
จะสบตาศรุต แต่เขาหลบตาตลอด สารัตถ์ได้แต่อึ้งๆ เห็นศรุตเดินเลี่ยงไปทางหนึ่งจึงส่งสายตาให้อคินมาอยู่เป็นเพื่อนริศา แล้วสารัตถ์ก็เดินไปคุยกับศรุตที่มุมหนึ่ง
อคินเดินไม่ทันถึงริศาก็ถูกศรันย์โผล่มาตัดหน้า ตัดพ้อต่อว่าที่ริศาไม่ค่อยตอบไลน์ตน ริศาสงวนท่าทีและถ้อยคำ ศรันย์คุยโวอวดมั่งอวดมีถามว่าริศาชอบนาฬิกาไหม ตนสะสมนาฬิกา ยกมือให้ดูบอกว่าเรือนนี้ยี่สิบล้าน มียี่สิบเรือนในโลก จะสั่งทำให้ริศาเป็นพิเศษ
ริศาบอกว่าตนไม่ชอบนาฬิกาก็เปลี่ยนเป็นเสนอเครื่องประดับ ถามว่าตุ้มหูเพชรน่าจะดีไหม ถือวิสาสะหยิบปอยผมริศาทัดหู ริศาอึดอัดมากพยายามหาทางหนีออกจากเขา
กิตติ ช่างนิสัยเหลือขอที่สารัตถ์ช่วยให้ทำงานที่บลูไคท์แต่ติดนิสัยขี้จิ๊ก ยืนอยู่ไม่ไกลจากศรันย์กับริศานักได้เห็นและได้ยินศรันย์คุยโว ริศามองหาอคินซึ่งเขาก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่อย่างไม่พอใจ ริศามองอย่างขอความช่วยเหลือ แต่อคินเห็นสายตาท้าทายของ
ศรันย์ก็ทำไก๋หันไปเลือกอาหาร ศรันย์หันไปเอาอกเอาใจริศา ถามว่าอยากทานอะไรบ้าง ตนช่วยถือให้และชวนไปนั่งด้วยกัน
ooooooo
สารัตถ์คุยกับศรุตอย่างเคร่งเครียด บอกว่าตนดูงบประมาณการเช่าซื้อเครื่องบินลำใหม่มันสูงผิดปกติ ถามว่าเขาตรวจสอบหรือยัง ศรุตบอกว่าเรื่องนี้ตนให้ศรันย์ดูแล แต่มันก็ไม่น่าจะมีอะไร
“ศรุต ผมรู้ว่าคุณรักลูกมาก แต่ถ้าปล่อยให้ศรันย์ทำงานอย่างนี้ต่อไป ไม่นานมันคงพัง ผมมองอนาคตบริษัทแล้ว ผมวางมือไม่ลงเลย”
ศรุตตกใจถามว่าพูดอย่างนี้ได้ไง เราสู้กันมา
ตั้งเท่าไหร่แล้ว
“ใช่...ผมปลุกปั้นปลุกปล้ำกับบริษัทนี้มานาน จนไม่อยากอยู่จนถึงวันที่มันจะล่มจม มันหลายครั้งแล้วที่ผมเห็นความผิดปกติ เมื่อไหร่มีเวลาเราต้องคุยกันเรื่องนี้ ผมมีหลักฐานอยากให้คุณดู”
“มีหลักฐานด้วยเหรอ” ศรุตเสียงไม่ปกติ
ทันใดนั้น The fox เดินเข้ามาทักศรุตว่า “ผมตามหาเจ้าภาพเสียทั่วงานเลย คุณศรุต” ศรุตตกใจเล็กน้อยแต่กลบเกลื่อนได้ทันที ยิ้มทัก...
“อ่อ...คุณเฟอร์ดินาน ยินดีที่มางานนี้ได้ครับ” แล้วแนะนำแก่สารัตถ์ว่าเฟอร์ดินาน ซาลองยา มิสเตอร์เอฟ เป็นนักธุรกิจการบินจากประเทศเพื่อนบ้าน”
“ผมต้องขอขโมยตัวคุณศรุตไปหน่อยนะครับ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” The fox เอ่ยแล้วลูกน้องก็ล้อมหน้าล้อมหลังศรุตพาออกไปอีกทาง สารัตถ์มองตามด้วยความสงสัย