ตอนที่ 11
เสี่ยเจริญขอบใจวศินที่ชี้ทางที่สองคนนั้นหนีไปสั่งลูกน้องให้ตามไป แต่พอพวกนั้นจะวิ่งไป งูเจ้ากรรมก็เลื้อยมาถึงตัวอังกาบ อังกาบตกใจสุดขีดร้องกรี๊ดวิ่งออกจากที่ซ่อน พวกเสี่ยเจริญหันขวับวิ่งกลับมาทันทีกรูกันจะเข้าจับประมวลกับอังกาบ ถูกวศินโดดขวางต่อสู้กับพวกมันพลางบอกให้ทั้งสองรีบหนีไป
ขณะป้าชื่นกำลังคุมชาวบ้านเร่งขนข้าวที่เก็บเกี่ยวจะเอาไปส่งโรงสีนั้น ชาวบ้านคนหนึ่งก็ขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆเข้ามาหาป้าชื่นหน้าตาตื่น ป้าชื่นถามว่ามีอะไรหรือ!?
เวลาเดียวกัน วศินเห็นประมวลกับอังกาบลังเลก็เร่งให้หนีไป ประมวลบอกอังกาบให้หนีไปแล้วตัวเองวิ่งกลับไปช่วยวศินต่อสู้กับพวกเสี่ยเจริญ วศินเห็นประมวลกลับมาก็ถาม
“คุณกลับมาทำไม”
“ฉันทิ้งเธอเอาไว้ไม่ได้”
แล้วทั้งสองก็ช่วยกันต่อสู้กับพวกมัน ประมวลถูกรุมต่อยจนล้มลง เสี่ยเจริญสั่งเหี้ยม “ฆ่ามันซะ!” ลูกน้องมันล้วงมีดออกมาจะแทงประมวล ทันใดนั้นวศินพุ่งเข้าไปแย่งมีดได้ ระหว่างกำลังชุลมุนนั้น เสี่ยเจริญก็เข้าไปแทงวศินจนทรุดฮวบ
ประมวลรีบเข้าประคองวศิน แตนก็วิ่งเข้าไปดู ลูกน้องถามเสี่ยว่าจะเอายังไงต่อ เสี่ยสั่งฆ่าให้หมดเพราะมันขวางทางเจริญของตน
ประมวลลุกขึ้นบอกว่าจะฆ่าก็ฆ่าตนคนเดียวคนอื่นไม่เกี่ยว แต่เสี่ยไม่สนใจสั่ง “จัดการมัน”
ขณะพวกลูกน้องเสี่ยย่างสามขุมเข้าหาวศินนั่นเอง เสียงปืนดังขึ้นนัดหนึ่ง ทุกคนชะงักหันมอง เห็นป้าชื่นกับพวกชาวบ้านกระโดดลงจากรถกระบะเก่าๆ ป้าชื่นถือปืนยืนอย่างเท่ ส่องปืนไปยังเสี่ยเจริญประกาศกร้าว
“ตอนนี้ตำรวจกำลังมาแล้ว ปล่อยตัวหลานชายฉันนะ ถ้าพวกแกไม่อยากตาย”
เสี่ยเห็นชาวบ้านมากันมากมายพวกตนสู้ไม่ได้แน่จึงสั่งลูกน้องหนี สิ้นเสียงเสี่ยพวกลูกน้องก็วิ่งกันตัวใครตัวมัน ป้าชื่นกับชาวบ้านวิ่งไปช่วยวศิน ป้าชื่นถามว่าเป็นไงบ้าง แม้วศินจะเจ็บมากแต่ก็กัดฟันบอกป้าว่าตนไม่เป็นไร ถามว่าแล้วป้าชื่นมาได้ยังไง?
“ชาวบ้านมันจำวศินได้ว่าอยู่กับป้า เห็นว่ากำลังมีเรื่องกันเลยไปตามป้ามาช่วยน่ะ”
“ขอบคุณนะครับป้า...ขอบ...” วศินพูดไม่ทันจบก็หมดสติไป
วศินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเข้าห้องไอซียู ทุกคนไปรอฟังข่าวอยู่อย่างเป็นห่วง จนวศินรู้สึกตัวป้าชื่นกับอังกาบเข้าไปเยี่ยม อังกาบพูดอย่างซาบซึ้งใจว่าตนกับสามีต้องขอบใจเธอมากที่ช่วยเราเอาไว้
ป้าชื่นบอกว่าจะโทร.บอกคุณวรกิจ วศินรีบห้ามบอกว่าไม่อยากให้คุณลุงเป็นห่วง
ระหว่างนั้นอังกาบเห็นป้ายชื่อคนป่วยที่หัวเตียง “วศิน วงศ์เดือนวาด” มองหน้าวศินถามว่ารู้จักผู้หญิงที่ชื่อ วาด วงศ์เดือนวาด ไหม วศินพยักหน้าบอก “แม่ผมเองครับ”
“ถ้างั้น...เธอก็คือลูกชายวาดกับพี่สรวิชญ์น่ะสิ!!!”
วศินพยักหน้า อังกาบขนลุกทั้งตัว อึ้ง แปลกใจและดีใจระคนกัน วศินมองหน้าอังกาบที่ยิ้มให้ตัวเองอย่างสนิทสนม...นึกแปลกใจ
นั่นคือเหตุการณ์ในอดีตที่อังกาบเล่าให้สรวิชญ์ฟังว่าตนพบกับวศินได้อย่างไร...
ooooooo
อังกาบเล่าต่ออีกว่า หลังจากที่ตนรู้ว่าวศินเป็นลูกของพี่แล้วก็ชวนไปอยู่ด้วยในฐานะลูกชายของตนกับคุณประมวล สรวิชญ์บอกว่าโชคดีที่วศินได้เจอเธอและขอบใจที่ดูแลวศินเป็นอย่างดี
“วศินเป็นคนเก่ง ฉลาด เขาช่วยงานภากับคุณประมวล ทำให้ไร่เราผ่านวิกฤติมาได้หลายครั้งจนมาไกลขนาดนี้ ภาว่าภาโชคดีต่างหากที่ได้เจอวศิน” สรวิชญ์รับว่าเพราะตนลูกถึงได้หนีไปอีกครั้งแบบนี้ “พี่วิชญ์รู้ไหมที่วศินกลับมาที่นี่อีกครั้งเพราะอะไร” สรวิชญ์มองหน้าอังกาบอย่างอยากรู้ “เพราะพี่ไง...วศินบอกภาว่าเขาจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ถ้าไม่ได้ พูดกับพี่ให้เข้าใจ”
สรวิชญ์ถามว่าเขายังให้โอกาสตนอยู่อีกหรือ? อังกาบถามว่าเขารู้เรื่องหุ้นบริษัทที่วาดเซ็นโอนให้ก่อนที่จะตายไหม ถามว่า “ภาถามจริงๆเถอะ มีใครรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกบ้าง”
คำถามของอังกาบทำให้สรวิชญ์นึกถึงตอนที่สุดาวรรณเอาเอกสารโอนหุ้นที่วาดเซ็นมาให้ แต่ยังไม่พูดอะไร จนอังกาบเรียกเตือน เขาถามว่า “เรื่องที่เธออยากพูดกับพี่มีแค่นี้ใช่ไหม”
“พี่วิชญ์...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ต้องสูญเสียคนสำคัญในชีวิต พี่ไม่เคยคิดบ้างเลยหรือว่าทำไม ทั้งภา ทั้งวาด แล้วก็วศินถึงเดินออกจากบ้าน”
“ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง”
“ใช่! พี่ผิด แต่ไม่ใช่ทั้งหมด พี่ลองคิดดูให้ดีๆว่าใครที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้กันแน่”
สรวิชญ์ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นเพราะสุดาวรรณ แต่ยังไม่ยอมรับเพราะไม่อยากให้อังกาบกับวศินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะอันตรายมาก เลยตัดบทบอกว่า
“เธอกลับเชียงรายไปเถอะภา ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ พาวศินกลับไปด้วย พี่ไปล่ะ”
พูดแล้วเดินออกไปเลย อังกาบพยายามเรียกแต่เขาก็เดินออกไปโดยไม่หันมอง อังกาบมองพี่ชายอย่างผิดหวัง
ฝ่ายสุดาวรรณเดินวนไปมาอย่างไม่สบายใจ จนได้ยินเสียงรถของสรวิชญ์เข้ามาก็รีบไปนอนซมที่โซฟา สรวิชญ์เข้ามาถามว่าคุณยังไม่หายอีกเหรอก็ทำหน้าจ๋อยพยักหน้า ถามว่าเขาคุยกับน้องภาเป็นยังไงบ้าง