ตอนที่ 11
วศินพาหนูดีไปที่ริมน้ำสวย หนูดีลงจากรถเดินไป เขารีบคว้ามือไว้ หนูดีถามว่าเขาทำแบบนี้ทำไม
“ผมขอโทษ แต่เวลานั้นผมคิดไม่ออกว่าจะพาคุณออกจากสถานการณ์แบบนั้นได้ยังไง” หนูดีถามว่าหมายความว่ายังไง “คุณไม่รู้เหรอว่าคุณอ้นกำลังจะขอคุณแต่งงาน?”
หนูดีส่ายหน้า วศินถามว่างั้นที่ตนดึงเธอออกมาคือตนทำผิดหรือ?? ถามวัดใจว่าถ้าตนไม่ทำแบบนั้นแล้วเธอจะตอบรับหรือปฏิเสธ หนูดีไม่ตอบแต่ทำเสียงไม่พอใจว่า “ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“ทำไมจะไม่ใช่” วศินเสียงแข็งจนหนูดีมองขวับ เขาหาข้ออ้างกลบเกลื่อนความรู้สึกลึกๆของหัวใจที่มีต่อหนูดีว่า “ก็คุณเป็นลูกหนี้ผม คุณต้องใช้หนี้ผมให้หมดก่อนถึงจะใช้ชีวิตเป็นของตัวเองได้ คุณไม่มีสิทธิ์แต่งงานตอนนี้”
พูดจบก็ยิ้มอย่างเป็นต่อ หนูดีมองหน้าเขาไม่พอใจมาก ครู่หนึ่งอ้นโทร.เข้ามือถือหนูดีถามว่าไอ้วศินมันทำอะไรหนูดีหรือเปล่า มันพาหนูดีไปไหน และทำไมมันต้องพาหนูดีออกจากงาน
หนูดีบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไร แต่มีเรื่องจะคุยกับตน อ้นถามว่าเรื่องอะไรทำไมถึงต้องลาก
หนูดีออกจากงานด้วย พอหนูดีบอกว่าเรื่องหนี้ อ้นก็สบายใจขึ้นเพราะกลัววศินจะพูดเรื่องตนกับลลิดา แต่ไม่วายเสี้ยมว่า
“หนูดี อย่าลืมนะคะว่าไอ้วศินมันเคยทำให้หนูดีเสียใจมาก่อน...หนูดีอย่าเชื่อใจมันมาก ไม่ว่ามันจะพูดจะบอกอะไรหนูดีอย่าเชื่อมันนะ”
“ค่ะ...หนูดีไม่ลืม...พี่อ้นไม่ต้องห่วงค่ะ”
แล้วหนูดีก็บอกวศินว่า “ฉันจะกลับบ้านแล้ว” แล้วเดินไปที่รถเลย วศินถอนใจแล้วเดินตามไป
ooooooo
ฝ่ายอินทัชก็ถูกวินพัตราต่อว่า ไหนบอกว่าสองคนนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ไง อินทัชย้อนถามว่าแล้วคุณน้อยทำไมถึงกล้าทำแบบนั้น?
วินพัตราทำไขสือถามว่าตนทำอะไร อินทัชถามว่าการชวนคุณหนูดีกับคุณอ้นมาเป็นพรีเซนเตอร์งานการกุศล แน่ใจหรือว่าคุณน้อยไม่มีเจตนาอื่นแฝงอยู่ด้วย วินพัตรายอมรับว่าตนเป็นคนเสนอให้คุณอ้นขอคุณหนูดีแต่งงานเอง เพราะอยากให้พ่อเลี้ยงตัดใจจากคุณหนูดีเพราะเขาหมั้นกันอยู่แล้ว ถามว่าตนทำผิดอะไร
“คุณน้อยคิดผิดแล้วล่ะครับ เรื่องของพวกเขาสองคนมีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าที่คุณน้อยหรือผมรู้... ถึงเขารักกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่รักกันนี่ครับ สิ่งที่คุณน้อยทำ สำหรับผู้ชายมันยิ่งเป็นการกระตุ้นทำให้อยากเอาชนะ”
“น้อยไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น น้อยไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
“คุณน้อยเคยได้ยินไหมครับ ความรักมักวิ่งหนีคนที่ไล่ตามมัน ต่อให้คุณน้อยพยายามไขว่คว้าตามเท่าไหร่ก็ยิ่งเจอแต่ความว่างเปล่า แต่ถ้าคุณปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถึงเวลาความรักจะเข้ามาหาคุณเอง”
“ไม่จริงหรอก อินทัชโกหกน้อย ถ้าคุณหนูดีไม่กลับเข้ามาในชีวิตพ่อเลี้ยง น้อยก็อาจจะมีหวัง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าน้อยยิ่งนิ่งเฉย ก็เหมือนปล่อยพ่อเลี้ยงให้เขา น้อยไม่ยอมแพ้หรอก”
พูดแล้วเดินออกไปเลย อินทัชมองตามอย่างผิดหวัง...
ฝ่ายอ้นแค้นใจลลิดา ไปหาที่คอนโดฯตบหน้าเธออย่างแรงถามว่าคิดจะทำอะไร กล้าจะแฉตนในงานจริงๆหรือ ลลิดาตอบอย่างท้าทายว่าถ้าพ่อเลี้ยงไม่ลากหนูดีไปตนแฉแน่
อ้นจะตบอีก แต่ต้องเอามือลงเมื่อลลิดาท้าว่าถ้าตบตนอีก ตนก็จะไม่ทนแล้ว อ้นปรามว่าอย่าคิดว่าตนจะเอาผู้หญิงอย่างเธอมาเป็นเมีย หรือถึงตนทำ แม่ตนก็ไม่ยอมแน่
“ถ้าชีวิตลิดาต้องพัง ทุกคนก็ต้องพังด้วย!!!”
“เธอต้องการอะไรว่ามา”
“ทะเบียนสมรส” ลลิดาโพล่ง อ้นตกใจถามว่าอะไรนะ “พี่อ้นก็แค่ให้ค่าเลี้ยงดูลิดากับลูก แล้วไปจดทะเบียนสมรสกับลิดาก็พอ หลังจากนั้นไม่ว่าใครจะถาม ลิดาจะไม่พูดถึงพ่อของลูกในท้องเลย”
“มากไปแล้วนะลิดา!!”
ลลิดาไม่แยแสบอกว่าตามใจ เพราะตนคิดว่าถ้าเขาอยากแต่งงานกับหนูดีนี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขาจดทะเบียนสมรสกับตนให้เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นตนจึงจะยอม
“คิดดูให้ดีๆนะคะพี่อ้น แค่ทะเบียนสมรสหนูดีคงไม่อยากได้หรอก แต่มันสำคัญกับลูกลิดา” พูดแล้วเอามือลูบท้อง “พี่อ้นเอากลับไปคิดก่อนก็ได้ แต่อย่าช้านักนะเพราะถ้าท้องลิดาโตขึ้น แล้วหนูดีถาม ลิดาคงต้องบอกความจริง” พูดแล้วเอามือลูบท้องอีก
อ้นโมโหทำอะไรไม่ได้ก็หุนหันออกไป ลลิดามองตาม หยุดลูบท้องแล้วหัวเราะเยาะอย่างสะใจ
ooooooo
วันนี้ลูกน้องทองเติมเข้าไปบอกเขาขณะเดินตรวจบ่อนว่ามีข่าวเกี่ยวกับพ่อเลี้ยงชัชชน พลางยื่นมือถือให้ดูข่าว พอทองเติมเห็นข่าวก็หัวเราะก๊ากบอกว่าสงสัยต้องโทร.หาเมียเก่าตนสักหน่อยแล้ว
ทองเติมโทร.ไปเยาะเย้ยเรือนแก้วไหนว่าเอาไอ้พ่อเลี้ยงนั่นอยู่แน่ ได้ข่าวว่ามันไปแย่งคู่หมั้นคนอื่นในงานนี่ ถามว่ามีอะไรจะให้ช่วยก็บอก ตนอยากให้มีผัวใหม่เสียทีจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินค่าเลี้ยงดู
“ไม่ต้องหรอกย่ะ แค่ผู้หญิงหน้าตาจืดๆสองคนฉันจัดการเองได้”
ทองเติมเยาะเย้ยเรือนแก้วให้โมโหแล้ววางสาย เรือนแก้วหงุดหงิดแล้วไปลงที่หนูดี...
“นังหนูดี...นี่แกกล้าหลอกใช้ฉันเป็นสะพานไปอ่อยพ่อเลี้ยงใช่ไหม ได้...แล้วจะได้เห็นดีกัน”