ตอนที่ 11
อินทัชจึงขับรถออกไป ยามไปทำงานต่อและอังกาบก็เดินไปอีกมุมหนึ่ง ยืนมองทิวทัศน์รอบๆที่เคยมาเล่นสมัยเด็กอย่างสุขใจ ห่างออกไปไม่ไกล ชายคนหนึ่งนั่งเล่นมือถืออยู่เหมือนไม่สนใจอะไร
ม้าเหล็กเห็นอังกาบอยู่คนเดียวก็ล้วงมีดออกมาพุ่งเข้าหาทันที อินทัชจอดรถเสร็จรีบวิ่งมาเห็นอังกาบยืนอยู่ก็โล่งอก พลันเขาก็เห็นม้าเหล็กถือมีดพุ่งเข้าหาอังกาบที่ยืนหันหลังให้
“นายแม่!!” อินทัชตะโกนเรียก
อังกาบตกใจหันมองเห็นม้าเหล็กถือมีดพุ่งเข้ามาก็ร้องกรี๊ด อินทัชเห็นม้าเหล็กกำลังจะแทงอังกาบ พริบตานั้นชายที่นั่งอยู่ก็พุ่งเข้าเตะมีดในมือม้าเหล็กที่กำลังจะแทงอังกาบกระเด็นไป ม้าเหล็กหันไปเห็นชายชุดดำยืนขวางปกป้องอังกาบก็จะพุ่งเข้าไป
“นายแม่!!” เสียงอินทัชร้องพลางวิ่งเข้ามา ม้าเหล็กเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีไป “นายแม่ไม่เป็นอะไรนะครับ” อังกาบพยักหน้า
อินทัชเห็นม้าเหล็กวิ่งหนีจึงไล่ตาม พอตามทันก็เข้าชกต่อยจนตะลุมบอนกัน จังหวะหนึ่งอินทัชต่อยม้าเหล็กแว่นกระเด็นทำให้เขาเห็นหน้ามันเต็มตา...
“แก!!!!!”
ม้าเหล็กฉวยโอกาสที่อินทัชอึ้งวิ่งหนีไป อินทัชจะตามพอดีมีมอเตอร์ไซค์พุ่งเข้ามารับ มันกระโดดขึ้นรถหนีไปได้ อินทัชมองค้าง เจ็บใจ
หนีไปได้แล้วม้าเหล็กโทร.รายงานสุดาวรรณ สุดาวรรณไม่พอใจที่มันทำงานพลาด แปลกใจสงสัย ว่าใครมาช่วยอังกาบ??
อินทัชกลับมา ชายคนนั้นถามว่าจับคนร้ายได้ไหม อินทัชส่ายหน้าบอกว่ามีคนมาช่วยมันหนีไป ชายคนนั้นว่าเขาคงเตรียมการมาดี อินทัชมองชายคนนั้นอย่างสนใจ ก็พอดีอังกาบขอบคุณที่มาช่วยตน บอกว่าถ้าไม่ได้เขาตนคงตายไปแล้ว
ชายคนนั้นบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของตน อังกาบถามว่าหมายความว่ายังไง
“เจ้านายผมส่งผมมาดูแลความปลอดภัยของคุณครับ”
“เจ้านายคุณเป็นใคร” อินทัชถาม ชายคนนั้นไม่ทันตอบ เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้น
“ฉันเอง!!”
ทุกคนหันมองเห็นสรวิชญ์เดินเข้ามา ทุกคนคำนับเจ้านาย อังกาบกับอินทัชมองสรสวิชญ์ แปลกใจ
ooooooo
วศินนัดหนูดีไปนั่งคุยกันในร้านอาหารเงียบๆ แห่งหนึ่ง วศินสังเกตเห็นหนูดีหน้าเครียดๆ ถามว่า
“คุณหนูดีมีอะไรจะพูดกับผมก็พูดมาเถอะครับ”
หนูดีบอกว่าตนรู้เรื่องเช็ค 3 ล้านที่เขาให้แม่ไปบริจาคโครงการของเจ้าอินมงคลแล้ว สารภาพว่าเงินนั่นตอนนี้เรายังไม่ได้เอาไปบริจาค วศินพูดอย่างรู้เรื่องดีว่าเอาไปใช้หนี้การพนันของคุณวัฒน์หมดแล้ว
“คุณรู้?”
“ครับ ผมรู้ แล้วก็ส่งเงินไปบริจาคกับเจ้าอินมงคลแทนไปแล้วด้วย” หนูดีหน้าเจื่อนถามว่าแล้วเขาจะเอายังไง วศินตอบหน้านิ่งว่า “ผมสิ ต้องถามว่าคุณจะเอายังไง?”
ที่สวนสาธารณะ...อังกาบถามสรวิชญ์ว่ารู้ได้ยังไงว่าตนจะถูกทำร้ายถึงได้ส่งคนมาช่วย สรวิชญ์ตัดบทว่าเรื่องนั้นเธอไม่ต้องรู้ แต่ว่าเธอมีอะไรจะพูดกับตนก็พูดมาเถอะ วันนี้ตนจะฟังเธอจนจบ เห็นอังกาบดีใจ ก็พูดต่อเชิงตำหนิตัวเองว่า
“พี่ขอโทษนะ ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยฟังเธอเลย...แต่ก่อนอื่น พี่ขอถามเธอก่อนได้ไหม” อังกาบถามว่าพี่วิชญ์อยากรู้อะไรหรือ “เมื่อ 10 ปีที่แล้วเธอเจอวศินได้ยังไง”
“ภาไม่คิดว่าพี่วิชญ์จะอยากรู้”
“เขาเป็นลูกพี่นะภา พี่ตามหาเขามาตลอด 10 ปี ทำไมพี่จะไม่อยากรู้”
อังกาบมองหน้าพี่ชายน้ำตาคลอ...คิดถึงอดีต...
วันนั้นอังกาบกับประมวลนั่งรถหรูที่มีนายชดคนขับรถคนใหม่เป็นคนขับเพื่อไปดูที่ดินที่มีการประกาศขาย อังกาบเห็นท่าทางนายชดล่อกแล่กเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลาก็กระซิบถามประมวลที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ว่า แถวนี้มีคนจะขายที่จริงๆเหรอ ประมวลบอกว่าเห็นนายชดว่าอย่างนั้น
ทันใดนั้นนายชดก็เหยียบเบรกทันทีจนทั้งสองตกใจ มองไปที่หน้ารถก็ยิ่งตกใจเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ที่ซ่อนอยู่กรูออกมาขวางหน้ารถและนายชดก็ดับเครื่อง เผยโฉมหน้าเป็นคนร้าย สั่ง...
“ลงจากรถ เจ้านายผมอยากคุยกับคุณ”
ประมวลมองไปเห็นเสี่ยเจริญยืนอยู่ในกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมวลตกใจถามนายชดว่าเป็นคนของเสี่ยเจริญหรือ นายชดไม่ตอบแต่ดึงกุญแจรถเปิดประตูลงจากรถไป
“ไอ้เสี่ยเจริญมันคงโกรธที่ผมไปขัดผลประโยชน์มัน” อังกาบถามว่าเอาไงดี? “หนี!! ถ้าไม่หนี มันฆ่าเราแน่” ประมวลค่อยๆเปิดประตูรถลงไปกับอังกาบ แต่พวกเสี่ยเจริญยืนอยู่ทั้งหน้ารถและหลังรถ ประมวลตัดสินใจพาอังกาบวิ่งหนีออกด้านข้าง เสี่ยเจริญสั่งลูกน้องไล่ตามทันที
ห่างออกไปเล็กน้อย...เป็นหมู่บ้านที่ป้าชื่นอยู่ วศินกับแตนกำลังเดินมาทั้งตกใจเมื่ออังกาบกับประมวลวิ่งพรวดออกมาจากข้างทางร้องขอความช่วยเหลือบอกว่ามีคนตามจะฆ่าเรา แตนกลัวบอกวศินว่าอย่ายุ่งดีกว่า แต่วศินบอกให้สองคนนั้นไปหลบหลังพุ่มไม้ ทางนี้ตนจะจัดการเอง ประมวลกับอังกาบจึงไปหลบที่หลังพุ่มไม้
แตนบอกวศินว่าเราจะเดือดร้อนไปด้วยนะ วศินสั่งแตนให้ทำตามที่ตนบอก ก็พอดีพวกเสี่ยเจริญวิ่งมาถึง ถามวศินว่าเห็นผู้ชายกับผู้หญิงท่าทางรวยๆ วิ่งมาทางนี้ไหม วศินบอกว่าเห็น แล้วชี้ไปอีกทางหนึ่ง
แต่ขณะนั้นเอง อังกาบเห็นงูกำลังเลื้อยมาทางพวกตน อังกาบตกใจตัวแข็งทื่อ ประมวลกระซิบให้พยายามอดทนไว้