ตอนที่ 14
คืนนี้ ยชญ์กับปกรณ์นั่งปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดกับภาพที่ปกรณ์เห็นขณะนั่งสมาธิ ยชญ์ถามว่าตอนนี้ครูเทิดกำลังถูกอำนาจไสยดำย้อนกลับมาเล่นงานอย่างนั้นหรือ แล้วเราจะช่วยได้ไหม
ปกรณ์บอกว่าไม่มีใครช่วยได้ เพราะครูเทิดเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้เอง สิ่งที่ตนหนักใจก็คือตนก็ไม่รู้วิธีแก้อาคมไสยดำเหมือนกัน ยชญ์อึ้ง เครียด ปกรณ์บอกอีกว่า
“เพราะฉะนั้นคำสาปที่ลงไว้ในบทเพลงท่วมธรณีจะยังคงอยู่ คุณยชญ์คงไม่สามารถนำเพลงไปใช้ในการประกวดได้นะครับ เพราะวันที่ประกวดตรงกับวันเพ็ญพอดี”
ยชญ์ฟังแล้วยิ่งเครียด หนักใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นยชญ์โทร.นัดเมไปพบกันที่ร้านกาแฟประจำ มิ่งที่ตั้งใจซ้อมเพลงจริงจังมากแม้แต่เวลาอาบน้ำก็ยังซ้อมร้องในห้องน้ำ เห็นเมจะออกไปข้างนอกถามว่าจะไปไหน เมบอกว่ามีธุระนิดหน่อยไว้เจอกันตอนบ่ายที่ห้องซ้อม มิ่งมองอย่างสงสัย
เมรีบไปพบยชญ์ที่ร้านกาแฟตามนัด ฟังยชญ์เล่าเรื่องที่คุยกับปกรณ์ให้ฟังแล้วถามว่านายคิดยังไง
ยชญ์ย้อนถามว่าแล้วเธอล่ะ เมบอกว่าไม่รู้ แต่ตนไม่อยากให้มีใครตายอีก และถ้ามิ่งรู้ก็คงไม่ยอมร้องเพลงแน่ๆ
แล้วเมก็แปลกใจคาดไม่ถึงเมื่อเห็นมิ่งตามมาที่ร้านกาแฟเพราะสังหรณ์ใจว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมา พากลแน่ เมื่อยชญ์เล่าเรื่องราวให้ฟังแล้ว เขาตำหนิตัวเองว่า
“ทุกอย่างเป็นความผิดของพี่เอง พี่ตัดสินใจแล้วเราจะถอนตัวจากการประกวด”
“อย่าเพิ่งเลยค่ะพี่ยชญ์”
ยชญ์มองหน้ามิ่งอย่างไม่เข้าใจ มิ่งพูดต่ออย่างจริงจังว่า
“เราจะถอนตัวตอนนี้หรือถอนตัววันประกวดก็มีค่าเท่ากัน มิ่งเชื่อว่าทั้งคุณปกรณ์ ทั้งครูเทิดคงกำลังหาวิธีอยู่ เพราะฉะนั้นพวกเราซ้อมต่อเถอะค่ะ”
ยชญ์กับเมมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึงกับการตัดสินใจของมิ่ง
จริงอย่างที่มิ่งคิด ปกรณ์กับอิงอรพากันไปหาหลวงพ่อที่วัด รู้จากเด็กวัดว่าท่านออกธุดงค์และไม่ได้บอกด้วยว่าจะกลับเมื่อไร
ปกรณ์จึงนึกขึ้นได้ว่าหลวงพ่อจะออกธุดงค์ทุกปีกว่าจะกลับอีกทีก็ช่วงเข้าพรรษา อิงอรตกใจ พึมพำ...
“ก็อีกเป็นเดือนน่ะสิคะ แล้วเราจะทำยังไงกันดี”
ปกรณ์ก็ได้แต่อึ้ง คิดหนัก
ooooooo
การซ้อมเพลงยังคงดำเนินต่อไป มิ่งตั้งใจซ้อมอย่างดี แต่อยู่ๆยชญ์ก็เข้ามายกมือห้าม
“หยุดก่อน”
พอนักดนตรีและนักร้องหยุด ยชญ์มองหน้าเมตำหนิการสีซอสามสายของเมว่าซ้อมคราวก่อนเธอเคยสีได้ดีกว่านี้ เมมองหน้ายชญ์นิ่งไม่พูดอะไร
มิ่งถามเมว่าเป็นอะไรไป เมไม่ตอบแต่ขอตัวไปห้องน้ำเดี๋ยว
ยชญ์ตามออกไปถามว่าเป็นอะไร เมบอกว่าตนไม่มีสมาธิ
“ฉันเข้าใจเธอนะเม ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอต้องตัดความกังวลออกไปก่อน ถ้าเธอเป็นแบบนี้เธอจะเครียดแล้วเธอก็จะไม่มีสมาธิในการเล่นดนตรี มันเป็นเรื่องธรรมดา”
“แต่ฉันกลัว”
“นี่ไม่ใช่เธอ...เมญากรที่ฉันรู้จักไม่ยอมแพ้หรือกลัวอะไรง่ายๆแบบนี้”
ยชญ์จับบ่าทั้งสองข้างของเมบีบเบาๆ พูดอ่อนโยน
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ ความสูญเสียที่เธอเคยได้รับ ไม่ว่าจะเป็นพี่โฉม หรือแพร แต่ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
เมกะพริบตาถี่ๆกลืนน้ำตา พึมพำขอบคุณยชญ์ เขาจึงชวนกลับไปซ้อมต่อกัน
ooooooo