ตอนที่ 14
ที่เรือนเล็ก สินเห็นราตรีที่วางมาดนางพญาดอมดมดอกไม้อารมณ์ดี ไม่โกรธทั้งที่รู้ว่าเทิดกำลังไปเจอดวง ถามอย่างสงสัยว่า
“ทำไมคุณราตรียังใจเย็น ปล่อยให้พวกมันเจออีดวงง่ายๆล่ะขอรับ”
“จะบีบก็ตาย จะคลายก็...ไม่รอด พวกมันต้องไสยดำของกู ยังไงพวกมันก็หนีกูไม่พ้น กูแค่หลอกให้ตายใจ สร้างความหวังให้มันได้อยู่กันพร้อมหน้า แล้วค่อยพรากมันจากกัน มันจะต้องเป็นทุกข์เจ็บปวดทรมานเสียยิ่งกว่ากู”
ราตรีบีบดอกไม้ในมือจนแหลกและถูกไอดำจนแห้งสลายกลายเป็นผง กัดฟันกรอดจิกตาอย่างอาฆาตมาดร้าย
วันหนึ่งที่ท่าน้ำ ราตรีเอาเงินปึกใหญ่ให้สิน สินตกใจถามว่า
“คุณราตรีเอาเงินมาให้ฉันทำไมขอรับ”
“กูให้มึงก็เพื่อซื้อความภักดี...ทำงานกับกูมึงจะมีเงินทองใช้ไม่มีวันหมด มึงจะยอมพลีกายถวายหัวให้กูไหม” สินตอบทันทีว่ายอม คุณราตรีจะให้ทำอะไรบอกมาได้เลย “มึงทำยังไงก็ได้ ให้พี่เทิดกับอีดวงผิดใจกัน ถ้ามึงทำสำเร็จ กูจะตกรางวัลให้มึงสิบเท่า”
สินตาวาวด้วยความโลภ ราตรีเห็นแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วสินก็วางแผนยุแหย่หลอกล่อ จนดวงกับกล้าถูกเทิดเข้าใจผิดว่าทั้งสองเป็นชู้กัน จนอาฆาตแค้นตามล่าตามล้างกันตลอดมา...
เทิดกับพุกตามเสียงร้องไห้ของดวงไปจนดวงเห็นเงารางๆ ถามว่า “นั่นใคร?” พอเห็นชัดว่าเป็นเทิดกับพุกก็ร้องอย่างตื่นเต้นดีใจ ถามว่าตนไม่ได้เลอะเลือนจนเห็นภาพหลอนใช่ไหม
“แม่ดวงไม่ได้เลอะเลือนไปดอก นี่ฉันกับ
พี่เทิดจริงๆ” พุกบอก เทิดรีบก้าวเข้าหาดวง
ดวงทรุดกราบเทิด เทิดตกใจประคองดวง ถาม “แม่ดวงจะทำอะไร”
“ฉันกราบขอโทษ ที่ทำให้พี่เทิดต้องเสียใจ พี่เทิดอโหสิกรรมให้ฉันด้วยเถิด”
“พี่เสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษแม่ดวง ที่เข้าใจผิดแม่ดวงกับไอ้กล้ามาตลอดจนทำเรื่องเลวร้ายอย่างที่พี่ไม่กล้าเอ่ยปากขอให้แม่ดวงยกโทษให้ได้เลย”
ดวงมองเทิดอย่างคาดไม่ถึง มองพุกเชิง ถาม พุกรีบบอกว่า
“พี่เทิดรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว และที่ดั้นด้นมาถึงนี่ก็เพื่อจะมาช่วยแม่ดวงออกไป”
ดวงร้องไห้ดีใจโผกอดเทิด ต่างกอดกันร้องไห้
พุกมองภาพตรงหน้า ทั้งดีใจและสะเทือนใจจนน้ำตาซึม...
ooooooo
ยชญ์กับเมนัดปรึกษากับปกรณ์และอิงอรที่ร้านกาแฟ ปกรณ์ฟังยชญ์กับเมแล้วตอบอย่างหนักใจว่า
“ผมก็ไม่แน่ใจว่าอาถรรพณ์ของเพลงท่วมธรณีหมดลงหรือยัง จริงอยู่ตอนนี้ครูเทิดเข้าใจทุกอย่างและไม่ได้มีความแค้นต่อใครอีกแล้ว ถ้าครูเทิดไปช่วยแม่ดวงออกมาได้ คำสาปทุกอย่างก็น่าจะถูกทำลายลง”
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะว่าตอนนี้ครูเทิดไปช่วยคุณดวงได้หรือยัง”
“ผมจะลองติดต่อดวงวิญญาณของครูเทิดดู ได้เรื่องยังไงผมจะรีบส่งข่าวพวกคุณทันที”
“ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้น ช่วงนี้ผมจะได้ให้ทุกคนซ้อมกันไปพลางๆก่อน”
ยชญ์บอกแล้วมองหน้ากับเมอย่างมีความหวัง
เมื่อกลับไปที่คณะศิลปกรรม เมเห็นยชญ์สีหน้าหนักใจ จึงบอกเขาว่าถ้าไม่สบายใจลองไปคุยกับด็อกเตอร์สำราญทำเรื่องขอเปลี่ยนเพลงดีไหม ยชญ์บอกว่ายังไงก็ไม่ทัน ตนเครียดเพราะกำลังคิดว่าจะให้ใครมาร้องเพลงแทนแพรต่างหาก
“ถ้าเรื่องนี้ นายไม่ต้องห่วงเลย วงของเรามีตัวแทนอยู่แล้ว”
ยชญ์มองหน้าเมอย่างแปลกใจ
เมื่อมาที่ห้องซ้อมดนตรี เมคุยกับมิ่ง มิ่งร้องตกใจถามว่า “แกจะให้ฉันเป็นคนร้องเพลงเหรอ”
พอเมบอกว่าใช่ มิ่งปฏิเสธพัลวันว่าตนร้องไม่ได้หรอก
“แกอย่ามาสตอไอ้มิ่ง พวกเราทุกคนรู้ว่าแกร้องได้” แล้วหันไปถามเพื่อนๆว่า “ใช่ไหมพวกเรา”
“ใช่ๆ” เพื่อนๆตอบรับพร้อมเพรียง มิ่งทำหน้างง ยชญ์มองอย่างไม่เข้าใจ แต่เมจ้องมิ่งเขม็งอย่างคาดคั้น