ตอนที่ 13
พอดีจำปูนเริ่มขยับตัว ชโลธรจึงต้อนทุกคนออกมา ยกเว้นทศพลให้รับหน้าที่ต่อไป
“หมายความว่าไง”
“เวลาไม่เหลือแล้วไม่ใช่เหรอ อย่าให้โอกาสครั้งนี้หลุดมือไปอีกล่ะ”
ชโลธรสำทับแล้วทิ้งทศพลไว้กับจำปูนสองต่อสอง เมื่อจำปูนลืมตาเห็นทศพลก็รีบสวมกอดเขาด้วยความดีใจ
“อ้าย...อ้ายพล...อ้ายพลโตเป็นๆแม่นบ่ข้อยตายแล้วขึ้นสวรรค์มาพ้อเทวดาจำแลงแปลงกายมาเป็นอ้ายแม่นบ่”
“แม่น...แม่นแล้วเด้อ อ้ายพลโตเป็นๆ ส่วนเจ้าก็ยังบ่ตายเด้อจำปูน”
จำปูนดีใจสุดๆ จูบทศพลฟอดใหญ่โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
ooooooo
เวลาเดียวกันนั้นสมพงษ์กำลังร้อนใจที่ตามตัวจำปีกลับมาได้คนเดียว เขากำชับลูกน้องว่าให้พ่อใหญ่คมรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ถ้ารู้มีหวังเขาโดนยิงทิ้งแน่ ยังไงก็ต้องไปหาจำปูนให้เจอ ถ้าไม่เจอไม่ต้องกลับมา...
จำปูนร้องไห้เสียใจเรื่องพ่อทำสิ่งผิดกฎหมายซึ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้อับอายจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ทศพลก็ช่วยปลอบใจบอกว่าความตายไม่ใช่การแก้ปัญหา ชีวิตเรายังต้องเดินไปข้างหน้า
“ข้อยดีใจหลายที่อ้ายบ่รังเกียจ ตอนที่จำปูนกับจำปีเบิ่ดหวังในซีวิต แต่พอได้อ่านข้อความของอ้าย จำปูนก็ฮู้ได้ทันทีว่าสิต้องมาหาอ้ายพลให้ได้ อ้ายพลจ๋า... อ้ายพลของจำปูน จำปูนคึดฮอดหลาย”
จำปูนพยายามกอดก่าย แต่ทศพลบ่ายเบี่ยงดันตัวออกและตัดสินใจพูดความจริงว่าตนไม่ได้ส่งข้อความนั้นไป ตนยังไม่ได้หย่าเมีย แล้วก็ยังรักเมียอยู่ ที่ต้องโกหกไปเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเธอเพื่อไม่ให้แม่ของตนต้องติดคุกตลอดชีวิต
ความจริงจากปากทศพลทำให้จำปูนเสียใจมาก วิ่งร้องไห้ออกจากห้องจนทุกคนที่รออยู่ข้างนอกต้องรีบขวางไว้เพราะกลัวเธอจะหนีไป ปั้นหว่านล้อมจำปูนให้ใจเย็น มีอะไรค่อยๆพูดกัน แต่ชโลธรกลับต่อว่าทศพลว่าทำไมไม่ทำตามแผน
“ผมโกหกจำปูนไม่ได้ เพราะแค่นี้ชีวิตของจำปูนก็น่าสงสารมากพอแล้ว”
“อ้าย...อ้ายแค่หลูโตนข้อยสำนั่น”
“แม่น แต่ก็เป็นควมหลูโตนที่มาจากควมเป็นห่วง ยามนี่ซีวิตเจ้ากับน้องสาวบ่คือเก่าอีกแล้ว คั่นมื้อนึงข้างหน้าพ่อเจ้าถืกจับ บ่ว่าสิจับเป็นหรือจับตาย ซีวิตเจ้าก็ต้องพ้อแต่ควมทุกข์ยาก อ้ายคงเอาเปรียบเจ้าบ่ได้ดอก”
“แต่ถ้าเพิ่นบ่ยอมฮ่วมมือกับเฮา อีแม่ก็ต้องติดคุกตลอดซีวิตเด้ออ้าย” อีหล่าพูดแล้วจะร้องไห้
“ข้อยเข้าใจแล้ว บ่ต้องห่วงดอก ข้อยบ่อยากให้อีพ่อถืกจับตาย บ่อยากให้แม่ป่องต้องถืกกล่าวหาว่าเป็นคนผิด อยากให้ซอยหยัง ข้อยพร้อมซอยเต็มที่”
“อีหลีติจำปูน”
“แม่นจ้ะอ้าย แต่มีข้อแม้ว่าต้องซอยพาน้องสาวข้อยกลับมานำ แล้วข้อยสิเว้าสุอย่างที่อยากฮู้ให้ฟังเบิ่ด”