ตอนที่ 13
จำปูนกับจำปีฉวยโอกาสนี้ลงจากรถวิ่งหนี แต่ไปได้ไม่ไกลจำปีข้อเท้าพลิกเจ็บจนไปต่อไม่ไหว จึงให้จำปูนหนีไปคนเดียวโดยให้โทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย แล้วให้หาทางหยุดพ่อให้ได้ เพราะคิดว่าถ้าพ่อโดนตำรวจจับยังดีกว่าพ่อต้องตายจาก
จำปีโดนสมพงษ์กับลูกน้องตามจับตัวกลับมาได้ แต่จำปูนหนีรอด แต่แล้วเธอไปหมดสติกลางถนนขณะพยายามหาสัญญาณโทรศัพท์เพื่อจะโทร.เข้าเครื่องแม่ป่องแล้วมีรถกระบะคันหนึ่งพุ่งเข้าใส่
ด้านทศพล แสวง และเสือที่พากันออกไปสืบหานักบัญชีของพ่อใหญ่คมซึ่งแสวงได้ข้อมูลมาว่าเป็นเจ้าของโต๊ะบอลในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไม่คิดว่าทั้งสามคนจะพลาดเข้ามาในดงนักเลงแล้วเลยเกิดทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่ทศพลจะหัวไวทำทีว่าพวกตนเป็นนักร้องที่พ่อใหญ่คมส่งมาสร้างความสนุกสนานให้ลูกค้า
ทศพลตั้งใจว่าร้องรำทำเพลงพอเป็นพิธี เสร็จแล้วจะจรลี แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะนักเลงโตคนหนึ่งยังตามเอาเรื่องเสือจนเกิดตะลุมบอนกันมั่วไปหมด โชคดีชโลธรขับรถตามมาช่วยพวกทศพลหนีไปก่อนที่จะโดนรุมยำ
ชโลธรพาพวกทศพลกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย โดยมีปั้นกับอีหล่ารออยู่ ระหว่างนั่งรถมาด้วยกันชโลธรไม่พูดอะไรสักคำ พอมาถึงบ้านก็ทำท่าจะเดินหนี ทศพลเลยต้องคว้ามือเธอไว้
“เดี๋ยวสิครับคุณหนู อย่างน้อยให้ผมขอบคุณบ้างได้ไหม”
ชโลธรยืนนิ่ง ทศพลยิ้มกว้างแล้วกอดเธอหน้าตาเฉย
“ขอบคุณมากนะครับ ถ้าคุณไม่ไปช่วยผมกับพวก ผมคงเหลือแต่วิญญาณที่กลับมาได้ แบบนี้สมควรได้รางวัล” พูดจบเขาจะหอมแก้มขอบคุณ แต่โดนเธอสกัดด้วยการดึงหูอย่างแรง
“ยังกล้าพูดอีกเนอะ ทั้งที่เตือนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง”
“โอ๊ยๆๆ แต่แผนของอาแหวงเกือบสำเร็จแล้วจริงๆนะ ถ้าไม่เกิดแอ็กซิเดนต์นิดหน่อย”
“บ่นิดหน่อยดอกโต เกือบถืกรุมยำตีนตายแล้วต่างหาก งานหนี่ต้องโทษอาแหวงผูเดียว”
“ป๊าด...อีหยังก็โทษข้อย อุตส่าห์หาทางซอย ฮ่วย!”
“นั่นไง ครั้งนี้ฉันถูก นายผิด จะยอมรับได้รึยัง นี่แน่ะ” เธอดึงหูเขาอีกที แต่ทศพลก็ยังปากแข็ง
“ไม่ครับ ผมยังไม่ยอมรับ คุณแค่ช่วยผมให้รอดกลับมาแต่ปัญหาของแม่ผมก็ยังหาทางออกไม่ได้เหมือนเดิม”
“ไผว่าล่ะอ้าย ปัญหาของอีแม่กำลังสิมีทางออก แล้วต่างหากล่ะ”
“หมายความว่าจังได๋อีหล่า”
อีหล่ายิ้มกริ่ม ควงแขนชโลธรเดินนำหน้าพาทุกคนเข้าไปในห้องที่มีจำปูนนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง แล้วช่วยกันเล่าเรื่องราว
“มีชาวบ้านไปเจอจำปูนยืนขวางอยู่กลาง ถนนจนเกือบจะขับรถชน แต่หักหลบได้ทัน ส่วนจำปูนก็ตกใจจนหมดสติ ชาวบ้านไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เห็นโทรศัพท์ตกอยู่เลยเอามาดูเบอร์ที่กำลังจะโทร.ออก”
“ก็คือเบอร์ของอีแม่”
“พอฉันรู้เข้า ฉันก็เลยรีบไปพาจำปูนมานี่แหละ”
“โชคเข้าข้างเฮาแท้ แล้วจำปีล่ะ ปกติสองคนนี่ต้องอยู่โตติดกันตลอดบ่แม่นเบาะ”
“ยังไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้เลยค่ะ เพราะตั้งแต่พาตัวมาจำปูนก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย คงต้องรอให้ฟื้นก่อนแล้วค่อยถาม”