ตอนที่ 13
“เสี่ยงอะไร หรือว่า...อย่าบอกนะว่านายจะไปชิงตัวแม่ออกจากคุก ไม่ได้นะนายพล ขืนทำแบบนั้นนายได้ถูกตำรวจวิสามัญแน่”
“เดี๋ยวๆๆ นี่คุณคิดว่าผมจะหลังชนฝาถึงขนาดจะไปชิงตัวแม่ผมจากตำรวจทั้งโรงพักเนี่ยนะ จะบ้าเหรอ ผมไม่ใช่คนเหล็กนะ”
“อ้าว...ก็ฉันเห็นนายรีบเข้ามาเก็บปืนเตรียมพร้อมซะอย่างกับจะไปลุยกับตำรวจทั้งกรม”
“ขืนทำแบบนั้นผมตายตั้งแต่ชักปืนออกมาหน้าโรงพักแล้วคุณ”
“งั้นแผนของอาแหวงคืออะไร บอกฉันมาสิ”
“ผมไม่บอก” ทศพลปฏิเสธเสียงแข็งแล้วจะเดินหนี ชโลธรตัดสินใจในนาทีนั้นกระโดดขี่หลังเขาแล้วล็อกคอแน่น “โอ๊ย!!! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ยผมหายใจไม่ออก”
“ถ้านายไม่บอกฉันมา ฉันจะเกาะนายเป็นปลิงอยู่แบบนี้แหละ จะบอกรึไม่บอก”
“ลงจากหลังผมเดี๋ยวนี้”
“ไม่ลง ไม่ปล่อย”
“โอ๊ยๆๆๆๆ ผมยอมแล้วก็ได้...ยอมบอกแล้ว”
ชโลธรยิ้มพอใจ แต่ทศพลหน้าดำหน้าแดงแทบหายใจไม่ออก ถอยไปนั่งบนเตียงพร้อมเสียงบ่น
“คุณนี่มันบ้าจริงๆ ผมเกือบตายได้เลยนะ”
“ไม่ต้องบ่น รีบๆบอกมา ไม่งั้นโดนฉันกระโดดขี่คอตามหลอกหลอนเป็นผีชัตเตอร์แน่”
“ก่อนจะขู่ผมแบบนี้คำนวณน้ำหนักตัวคุณก่อนรึยัง นี่มันฆ่ากันทางอ้อมเลยนะ”
“ยังมาเล่นลิ้นอีก จะบอกได้หรือยัง”
“บอกแล้วๆ ระหว่างที่ผมไม่เชื่อว่าแผนคุณจะสำเร็จ อาแหวงอยากหาวิธีช่วยเลยไปลองสืบจากพวกบ่อนพนันที่พวกลูกน้องพ่อใหญ่คมเข้าออกบ่อยๆ จนได้ข้อมูลว่ามีนักบัญชีคนนึงเข้าข่ายที่เรากำลังสงสัยอยู่ เคยทำงานฟอกเงินให้พวกนักเลงโต๊ะบอล แต่ถ้าผมอยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็ต้องเสี่ยงเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเอง”
“อ๋อ งั้นที่นายจะขนปืนพวกนี้ไป ก็เพราะว่า...”
“ใช่ครับ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือออกมาได้ไง”
“แต่นายบอกว่าจะไม่ทำอะไรเสี่ยงแบบนี้แล้วไง”
“ผมไม่มีทางเลือก เวลาของแม่ผมเหลือน้อยไปทุกทีแล้ว ผมต้องไปล่ะ”
“เดี๋ยวนายพล...”
“ผมขอร้อง อย่าห้ามผมอีก ผมมีชีวิตแม่กับครอบครัวผมเป็นเดิมพัน” ทศพลพูดจบเดินออกไปอย่างมุ่งมั่น ชโลธรได้แต่ยืนอึ้ง หนักใจและเป็นห่วงเขา
ooooooo
พ่อใหญ่คมไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจตามที่ลูกขอร้อง แต่ให้ลูกทั้งสองคนไปอยู่กับสมพงษ์เพื่อความปลอดภัย เพราะเวลานี้สมพงษ์คือคนที่เขาไว้ใจที่สุด
สมพงษ์มาพร้อมคนขับรถ เขารับตัวสองสาวไปอย่างลิงโลด รับปากรับคำพ่อใหญ่คมว่าจะดูแลพวกเธออย่างดี แต่แค่ระหว่างเดินทางสมพงษ์ก็แสดงความเจ้าชู้แตะต้องเนื้อตัวสองสาว ส่งผลให้โดนเธอแผลงฤทธิ์บีบกล่องดวงใจจนร้องลั่น คนขับรถเลยต้องจอดรถเข้าข้างทาง