ตอนที่ 14
ทางจันทบูรส่งพระสงฆ์ 4 รูปมาเชิญพระเจ้าตากไปปรึกษาหารือเรื่องกู้บ้านกู้เมืองที่จันทบูร พระเจ้าตากขอจัดการงานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนแล้วจะไปจันทบูรพร้อมด้วยพระคุณเจ้าทั้งสี่
เมื่อพันหาญนำพระสงฆ์ทั้งสี่รูปไปจำวัดแล้ว ขันทองบอกพระเจ้าตากว่าเรื่องนี้ตนไม่ใคร่ไว้ใจนัก
หลวงพิชัยเห็นด้วย แต่เราไม่มีทางเลือก หากเราจะเทียบเคียงกับชุมนุมต่างๆที่เข้มแข็งเราก็ต้องร่วมมือกับจันทบูรเท่านั้น พระเจ้าตากยิ้มบางๆบอกว่าอย่าห่วงเลย ตนเรียกชาวบ้านละแวกนี้มาถามแล้ว พระคุณท่านทั้งสี่เป็นพระภิกษุที่มีชื่อเสียงในเมืองระยองและจันทบูรจริง ผู้ถือศีลย่อมไม่โป้ปด คงเป็นบุญของบ้านเมืองมากกว่าที่ทำให้พระยาจันทบูรเปลี่ยนใจ
ความจริงคือพระยาพลเทพหนีไปจันทบูรและสมคบกับพระยาจันทบูรใช้พระสงฆ์ออกหน้าไปเชิญพระเจ้าตากจะได้ไม่ระแวง
พระยาจันทบูรถูกพระยาพลเทพและขุนแผลงฤทธิ์ยุยงก็ยิ่งฮึกเหิม ขุนแผลงฤทธิ์อาสาจะนำทัพไปซุ่มโจมตีเอง สัญญากับพระยาพลเทพว่า ครานี้จะต้องล้างอายให้จงได้
“ดีมากท่านขุน ฆ่าพวกมันเสียให้สิ้น โดยจำเพาะอ้ายพระยาตากกับลูกชายอ้ายเสือขุนทอง ต้องให้พวกมันตายโดยไม่มีแม้แต่แผ่นดินกลบหน้า” พระยาพลเทพอาฆาตแค้น
ooooooo
หลังจากพระเจ้าตากได้คุยกับพระคุณเจ้าทั้งสี่ขณะฉันเช้าแล้ว มีข้อติดใจหลายประการจึงตัดสินใจจะไปจันทบูร สั่งพันหาญให้ดูแล ‘พังคีรีบัญชร’ ซึ่งจะใช้เป็นช้างทรงให้ดี
พระเจ้าตากสั่งขันทองให้เลือกทหารมีฝีมือพร้อมเครื่องศาสตราวุธหนึ่งพันตามตนไปจันทบูร ขันทองติงว่าหากถูกจันทบูรวางกำลังดักจะรุกก็ไม่ได้จะถอยกลับก็ยาก พระเจ้าตากตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า
“หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับไม่มีกระไรจะเสีย แม้ต้องเสี่ยงด้วยชีวิตก็ต้องหักเอาจันทบูรให้จงได้”
แมงเม่ารู้ข่าวจึงเอาปืนสั้นที่ม่วงให้ไว้ป้องกันตัวให้ขันทอง ขันทองไม่รับเพราะอยากให้แมงเม่าเก็บไว้ป้องกันตัว แมงเม่าพูดก่อนเดินหนีไปด้วยความเขินว่า
“ฉันรู้ว่าพี่ห่วงฉัน...เอ่อ...แต่ถ้าพี่เป็นกระไรไปฉันก็อยู่ต่อไปไม่ได้เหมือนกัน”
ขันทองมองตามแมงเม่าไปยิ้มกริ่ม นัยน์ตาเป็นประกายก่อนที่จะเอาปืนที่แมงเม่าให้ไว้ขึ้นแนบอก
เมื่อสุ่นไปอยู่กับนายกองอังวะก็หาทางกำจัดทั้งนายกองและกล้า ยุนายกองว่ากล้าซ่อนสมบัติไว้มากมายที่ให้นายกองไว้เป็นเพียงส่วนน้อย ตนสามารถหาทองมาให้นายกองน้ำหนักเท่าตัวเองได้ นายกองตื่นเต้นดีใจมากทั้งหวังรวยและอยากได้ความดีความชอบ