ตอนที่ 14
“ไม่ได้ เรื่องนี้จำต้องสะสางให้กระจ่างชัด” พระเจ้าตากตวาดสวนทันที ขันทองกับม่วงหน้าเสีย พระยาพลเทพดีใจจนออกนอกหน้า พระยาตากยิ้มบางๆพูดต่อไปว่า “เพียงแต่ผู้ให้การช่วยเหลือพ่อขันทองนั้นเป็นผู้ที่ฉันรู้จักดี ฉะนั้นคงสะสางได้ไม่ยากนัก”
“ผู้ใดหรือพระเจ้าข้า” ขันทองอยากรู้มาก
“คนที่ให้พ่อขันทองปลอมตัวเป็นขันที เพื่อหาคนทุรยศแลให้การช่วยเหลือตลอดมา...ก็คือฉันเอง”
ทุกคนตกใจมากเพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ขันทองถึงกับอึ้งงันไปเลย
พระเจ้าตากหน้านิ่งเมื่อนึกถึงเรื่องราวครั้งกระโน้น...
ooooooo
พระเจ้าตากเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังเมื่อ 6–7 ปีก่อนว่า...
“พวกเจ้าคงไม่รู้ว่าศึกพระเจ้าอลองพญา ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ร่วมสู้ศึกด้วย แต่เพลานั้นฉันเพิ่งเป็นเจ้าเมืองตาก ยังไร้บารมีไม่มีคนรู้จัก ทำให้มีผู้จดจำเรื่องนี้ได้ไม่มาก แลในศึกครั้งนั้นเองที่ฉันได้รู้จักกับเสือขุนทอง”
กลางวันวันหนึ่งขุนทองเอากลักลายผีเสื้อให้พระยาตากดู มีข้อสังเกตว่าลายนี้คงไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามแต่คงเป็นการบ่งบอกถึงใครบางคน และสิ่งที่อยู่ในกลักก็ต้องใช้ความรู้ในเชิงอักษรชั้นสูงจึงจะถอดได้ย่อมต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง พระยาตากคาดว่าอาจเป็นได้ว่ามีผู้ทุรยศลอบส่งความลับทางทหารให้ฝ่ายอังวะ
ขุนทองบอกว่าท่านเจ้าคุณคิดตรงกับตน เสียดายที่ตนถอดกลอักษรไม่ได้ แต่ตนมีศิษย์ผู้พี่บวชเป็นพระอยู่รูปหนึ่งมีสติปัญญาความรู้มาก หากเสร็จศึกตนจะเอาไปให้หลวงพี่ท่านช่วยดู เราคงได้รู้ความลับเป็นแน่
พระยาตากถามว่าเรื่องนี้นอกจากตนแล้วมีใครรู้อีก ขุนทองบอกว่าท่านเจ้าคุณสีหราชเดชะ ท่านเป็นคนซื่อสัตย์แต่โผงผางไม่รอบคอบ ตนจึงมากราบเรียนเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าคุณรู้อีกคนเผื่อตนเป็นอะไรไปก็ไหว้วานท่านเจ้าคุณช่วยสานต่อ เมื่อพระยาตากพยักหน้า ขุนทองพูดด้วยสีหน้ากังวลว่า
“แลกระผมมีลูกชายบวชเป็นเณรอยู่คนหนึ่ง ขอท่านเจ้าคุณโปรดเมตตาดูแลลูกชายกระผมด้วย”
“เสือขุนทองวางใจเถิด ฉันให้สัญญาว่าจะช่วยเหลือลูกชายของเสือขุนทองสุดกำลังความสามารถของฉัน” พระยาตากเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น และเล่าต่ออย่างสลดใจว่า...
“แลในคืนนั้น เสือขุนทองก็ถูกฆ่าตาย แต่ฉันติดพันศึกอยู่กว่าจะรู้เรื่อง ออกญาสีหราชเดชะก็เอากลักหนีไปแล้ว ฉันเพียรติดต่อออกญาสีหราชเดชะให้ร่วมมือกัน แต่ออกญาก็ระแวงทุกคน ปกปิดร่องรอยจนฉันไม่สามารถติดต่อได้ ประจวบกับตอนนั้นพ่อขันทองสึกออกมา ฉันจึงให้คนไปติดต่อพันหาญกับพ่อขันทองเพื่อช่วยเหลือแลให้ช่วยสืบหาตัวคนผิด แต่การปลอมตัวเป็นขันทีนี้ เป็นผลบังเอิญที่ฉันไม่ได้คิดไว้แต่ต้น แต่กลับได้ผลดีเกินคาด”