ตอนที่ 14
พระยาพลเทพถูกจับมายังค่ายพระเจ้าตาก ที่ระยอง ยืนปฏิเสธพัลวันต่อหน้าพระเจ้าตากว่าตนมาเพื่อช่วยท่านเจ้าคุณแต่กลับต้องมาเจอเช่นนี้หรือ
“บังอาจ” ม่วงตวาด “เพลานี้พระองค์ไม่ใช่พระยาตากอีกแล้ว หากแต่ได้ตั้งสัตย์ขึ้นเป็นพระบรม วงศานุวงศ์ เจ้ายังไม่คุกเข่าลงอีกรึ”
พระยาพลเทพรีบคุกเข่าลงพนมมือประจบทันที ขอประทานอภัยจากพระเจ้าตาก แต่ยืนยันว่าที่ตนทูลมาทั้งหมดเป็นความสัตย์ ชี้หน้าขันทองด่าว่าโป้ปดมดเท็จใส่ความ ตนหาได้ทุรยศต่ออโยธยาไม่
“พ่อขันทอง เล่าไป” พระเจ้าตากบอกขันทอง ขันทองพนมมือขึ้นเล่าว่า
“ข้าพระเจ้าปลอมตัวเป็นขันที แฝงเข้ามาอยู่ในราชสำนักเพื่อสืบหาตัวคนทุรยศจนได้กลักของออกญาสีหราชเดชะมา...หลังจากแก้กลบทในกลักได้จึงรู้รายชื่อผู้ทุรยศทั้งหมดในครั้งศึกพระเจ้าอลองพญา” ขันทองชี้หน้าพระยาพลเทพ “มันผู้นี้เป็นหนึ่งในนั้น และหาใช่แต่ศึกพระเจ้าอลองพญาไม่ แม้ศึกในครานี้ มันก็ยังลอบส่งข่าวให้อังวะเช่นกัน”
“อย่าทรงฟังพระเจ้าข้า มันยอมรับเองว่าเป็นจารบุรุษ คนเช่นนี้จะเชื่อถือได้อย่างไร ดีร้ายอาจเป็นไส้ศึก ของอังวะมาใส่ความข้าพระเจ้า” พระยาพลเทพโต้ พระเจ้าตากไม่สนใจถามขันทองว่า
“พ่อขันทอง พ่อเป็นลูกเต้าเหล่าใครรึ”
“ข้าพระเจ้าเป็นบุตรเสือขุนทองพระเจ้าข้าแลมันผู้นี้ยังหลอกพ่อของข้าพระเจ้าไปให้อังวะฆ่าตายอีกด้วย”
พระยาพลเทพตกใจหน้าซีดเผือด พระเจ้าตากบอกพระยาพลเทพว่าลูกชายของเสือขุนทองย่อมไม่ใช่ไส้ศึกกระมัง พระยาพลเทพยังตะแบงเอาตัวรอดว่าถึงไม่ใช่ไส้ศึกแต่ยังเชื่อไม่ได้ การปลอมตัวเป็นขันทีลอบเข้าไปในฝ่ายในนานปี หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจวาสนา พวกโจรป่าโจรไพรจะทำได้อย่างไร ตนเห็นว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง พระเจ้าตากจึงให้ขันทองเล่าต่อ ขันทองเล่าด้วยสีหน้าเครียดว่า
“ข้าพระเจ้าเคยกราบทูลแล้ว ว่าข้าพระเจ้าไม่รู้ตัวผู้ให้การช่วยเหลือจริงๆ มีผู้ติดต่อและให้เงินทองกับน้าพันหาญมาอีกที ข้าพระเจ้าเพียงแต่ส่งข่าวให้เท่านั้นพระเจ้าข้า”
พระยาพลเทพเห็นทางรอดชี้ว่าขันทองพูดจาคลุมเครือไม่ควรเชื่อถือ และตนขอให้สัตย์สาบานว่าไม่ได้ทุรยศต่อแผ่นดินอโยธยาแม้แต่น้อย หากผิดคำพูดขอให้ตายต่อหน้าคมหอกคมดาบอย่าได้ตายดี
ม่วงเป็นห่วงขันทองพนมมือขึ้นพูดช่วยขันทองว่า
“แม้พ่อขันทองจะพูดคลุมเครือ แต่ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นคนสัตย์ซื่อ เพียงแต่ไม่รู้ตัวผู้ให้การช่วยเหลือ คงไม่ถือเป็นสำคัญดอกพระเจ้าค่ะ”