ตอนที่ 13
ณ วัดบางบาป พระวิษณุกับหลวงพ่อนั่งสมาธิสวดภาวนาอยู่ด้วยกัน พลันมีแสงสีขาวปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างเรืองรอง หยด หยาดและแม่เยื้อนก้มกราบลาพระสงฆ์ทั้งสองรูป พระวิษณุลืมตาขึ้นเห็นกิฟท์เดินเข้ามาพร้อมกับเอาของมาถวาย หยดมองเธอก่อนจะค่อยๆก้มลงกราบ หยาดกับแม่เยื้อนมองอย่างตื้นตัน ขณะที่พระวิษณุหมดห่วง ในที่สุดหยดก็หลุดพ้นจากบ่วงกรรมทั้งปวง
ooooooo
หลายเดือนต่อมา...
ละครนางบาปได้เข้าชิงรางวัลละครยอดเยี่ยมรวมทั้งกิฟท์ได้เข้าชิงนักแสดงนำหญิงจากงานนาฏราช
รินจึงต้องขึ้นเครื่องจากภูเก็ตมาร่วมงานนี้
บรรยากาศภายในงานนาฏราชเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักแสดงและผู้คนในวงการบันเทิงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง กิฟท์ซึ่งเป็นตัวเต็งจะได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงก้าวเข้ามาในงานพร้อมกับต้น นักข่าวต่างรุมสัมภาษณ์เธอถึงความรู้สึกที่ได้เข้าชิงรางวัลนี้
“ก็ดีใจนะคะเพราะเรื่องนี้กิฟท์ก็ผูกพันกับตัวละครมาก กำไลคือกิฟท์กิฟท์คือกำไลค่ะ ละครเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงอะไรกิฟท์เยอะมากเลย”
“ต้นล่ะคะ ไม่ได้เสนอชื่อ คิดไหมคะว่าเพราะเราย้ายช่องมาเขาเลยสกัดดาวรุ่ง”
“คงไม่หรอกครับ ผมอาจจะยังเล่นละครพีเรียดไม่เก่งก็ได้ อาจไม่เข้าใจตัวละครมากพอ” ต้นพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็อดนึกถึงวิษณุไม่ได้ อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก
รินเดินเข้ามาในงานพร้อมกับปาล เจอบอลที่เพิ่งมาถึง ช่วยกันแซวว่าเดี๋ยวนี้เก่งใหญ่แล้ว ได้ข่าวว่าขึ้นเป็นผู้กำกับ
“โห...ซีรีส์วัยรุ่นเล็กๆเองพี่”
“ถ้าพี่ณุรู้คงภูมิใจในตัวบอลมากเลย” รินตบไหล่บอลเบาๆ จากนั้นทั้งสามคนพากันเดินไปหาที่นั่ง...
แม้กิฟท์จะพลาดรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่ละครนางบาปไม่พลาด ได้รางวัลละครยอดเยี่ยม
ไปครอง รินขึ้นไปรับรางวัลมือไม้สั่นทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น จากนั้นก็ขึ้นกล่าวขอบคุณสำหรับรางวัลทรงเกียรตินี้
“นี่เป็นละครเรื่องแรกของคนสารคดีอย่างพวกเรา...เราเพิ่งรู้ว่ามันยากแค่ไหน ภาพของละครที่ทำให้คนหัวเราะ สนุก เบื้องหลังของมันไม่ใช่อย่างที่เห็นเลย หลายครั้งที่เราถามตัวเองว่าทำไปทำไม เราต้องเหนื่อยขนาดนี้เพื่ออะไร แต่การได้รางวัลนี้ มันช่วยตอบคำถามที่เราเคยสงสัย ทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมันมีความหมาย และจริงๆคนที่ควรจะยืนอยู่ตรงนี้เพื่อรับรางวัลที่สุดก็คือพี่ณุ” รินนิ่งเงียบไปอึดใจก่อนจะกล่าวต่อ