เรื่องราวเริ่มต้นหลังจาก เดือนพัตรา (พิมประภา ตั้งประภาพร) เดินทางกลับจากนิวยอร์ค เพื่อมาจัดการพิธีศพของ คุณยายประพิมพ์ (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) เมื่อมาถึงเดือนพัตราได้เจอกับ ศิถี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่บ้านเก่าแก่ บอกทางตำรวจได้ปิดคดีนี้เรียบร้อยแล้วและสรุปคดีว่าคุณยายประพิมพ์ฆ่าตัวตาย แต่เดือนพัตราไม่เชื่อเช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจที่ยังจะไม่เผาศพคุณยายจนกว่าจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอ นายหัววรงค์ (บิลลี่ โอแกน) นายกเทศมนตรีให้การดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับเดือนพัตราอย่างเต็มที่ในการทำคดี เดือนพัตราเข้ามาอยู่ที่บ้าน “รัชดาพิพัฒน์” มรดกตกทอดของคุณยาย เพื่อสืบหาตัวคนร้ายโดยการช่วยเหลือของผู้กองมรุต (ชนะพล สัตยา) ที่แอบชอบเดือนพัตราและต้องแอบทำคดีนี้อย่างลับๆ ด้วยมูลค่าของบ้านรัชดาพิพัฒน์จึงทำให้นายหน้าค้าที่ดินหลายคนต้องการครอบครองบ้านหลังนี้ แม้แต่ รัตนพรรณ (ศิริพิชญ์ วิมลโนช) , ทองมาตย์ (เจจินตัย อันติมานนท์) และ หันตรา (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) พยายามเข้าไปเจรจาซื้อขายที่ดินกับเดือนพัตรา แต่ก็ไม่เป็นผลเลยซักครั้ง และทุกคนก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการตายของคุณยาย เดือนพัตราแน่ใจว่าผู้ที่ต้องการครอบครองบ้านและที่ดินผืนนี้ล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น ทุกคนต่างก็วางแผนเพื่อที่จะครอบครองบ้านหลังนี้ให้ได้ จนทำให้เดือนพัตราต้องตกอยู่ในอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็รอดมาได้ทุกครั้งด้วยความช่วยเหลือจาก เหมหิรัญญ์ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ชายหนุ่มลึกลับ ที่มาจากดินแดนที่เรียกว่า “อุตรกุรุทวีป” และเธอก็ได้ค้นพบว่า ที่ชั้นใต้ดินของบ้านมีทางลับที่เชื่อมกับอีกดินแดนหนึ่ง โดยสามารถเดินทางข้ามผ่านไปได้ด้วยผ้าลูกไม้สีดำที่เรียกว่า “ผ้าลูกไม้ลายสนธยา” เหมหิรัญญ์ได้มาคอยช่วยเหลือเดือนพัตราจากการถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง จนเกิดความรู้สึกดีกับเดือนพัตรามากเช่นเดียวกับเดือนพัตรา เหมหิรัญญ์จึงตัดสินใจฝ่าฝืนกฏของอุตรกุรุทวีปที่ห้ามให้มนุษย์ทั้งสองทวีปพบกัน เหมหิรัญญ์มาอยู่ใน “ชมพูทวีป” หรือโลกมนุษย์ กับเดือนพัตราเพื่อช่วยเหลือเรื่องการสืบหาคนร้าย โดยขับเคี่ยวกับผู้กองมรุตที่ดูไม่ค่อยชอบหน้าเหมหิรัญญ์เท่าไหร่นัก รวมถึง วโรชา (กัญญกร พินิจ) ที่คอยตามหึงมรุตอยู่ไม่ห่าง