ตอนที่ 15
“ฉันว่าคนที่ควรเสียใจคือคุณกับชู้รักของคุณมากกว่า”
ทนายโฉดไม่พอใจสั่งให้ดาญ่าหุบปากไปเลย ไม่ได้มรดกก็อย่ามาพาล เธอไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องพาลในเมื่อพินัยกรรมที่เหิมเพิ่งอ่านไปนั่นเป็นของปลอม พินัยกรรมฉบับจริงเขียนด้วยลายมือคุณพ่ออยู่นี่ พลางชี้ไปที่พินัยกรรมในมืออารยะ เหิมกับวัชรีถึงกับอ้าปากค้าง
“คุณพ่อเขียนจดหมายระบายความในใจพร้อมกับทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมาแล้วเอาไปเก็บไว้ในเซฟธนาคารอย่างดีพร้อมเครื่องเพชรและสมุดบัญชีเงินฝากของคุณแม่ที่เก็บไว้ให้ฉัน”
อารยะอ่านพินัยกรรมฉบับจริงซึ่งผิดกับฉบับที่เหิมอ่านให้ฟังอย่างสิ้นเชิง ฉบับนี้ยกทุกอย่างให้ดาญ่าลูกสาวคนเดียวของเจ้าของมรดก แถมยังกำกับไว้ด้วยว่าพินัยกรรมทุกฉบับที่ได้ทำขึ้นก่อนหน้านี้ให้ถือว่าเป็นโมฆะ
“ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าขณะเขียนพินัยกรรมฉบับนี้ มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ปราศจากการบังคับและหลอกลวง ลงชื่อ นายภิมุข วศวงศ์”
เหิมโวยวายว่าอารยะกับดาญ่าร่วมมือกันทำพินัยกรรมปลอมฉบับนี้ขึ้นมา อารยะยืนยันว่าพินัยกรรมฉบับที่อยู่ในมือตัวเองเป็นฉบับจริงซึ่งเขียนด้วยลายมือคุณภิมุข เหิมยังกล้าหลับตาพูดว่าเป็นของปลอมอีกหรือ ยอมรับดีกว่าไหมว่าพินัยกรรมในมือเขาต่างหากที่เป็นของปลอม ทำขึ้นเพื่อฮุบมรดกของดาญ่าให้วัชรี แถมยังยักยอกเงินในบริษัทเอกธนกิจโดยทำเป็นเอาไปลงทุนตั้งบริษัทในอเมริกาทั้งที่ไม่มีบริษัทเหล่านั้นอยู่จริง
“พวกแกใส่ความฉัน มีหลักฐานอะไร” เหิมใช้เสียงดังข่ม เทวัตไม่เกรงกลัวพ่ออีกต่อไป หากถามหาหลักฐานพวกตนเตรียมไว้พร้อมหมดแล้วในกระเป๋าเอกสารใบนี้ ขอให้ท่านยอมรับจะดีกว่า
เหิมไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น อ้างไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา ดาญ่าไม่ได้มีหลักฐานแค่ยักยอกเงินบริษัทเท่านั้น ยังมีใบเสร็จสั่งซื้อยาที่เหิมกับวัชรีใช้วางยาแม่ของตนด้วย แล้วหยิบใบเสร็จปึกใหญ่ขึ้นมาวาง วัชรีร้อนตัวปฏิเสธลั่นว่าไม่ได้สั่ง
“ใช่ คุณไม่ได้สั่งแต่คุณใช้ให้นายรังสรรค์สั่ง เพื่อเอามาให้แม่ฉันกิน คุณฆ่าแม่ฉัน”
ดาญ่าปาใบเสร็จใส่วัชรี ทันใดนั้นผู้กองกมลพร้อมตำรวจอีกหลายนายกรูกันเข้ามาเชิญเหิมไปโรงพัก เนื่องจากพบหลักฐานว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของจักริน ร่วมมือกับจักรินสังหารพิมพัตราลูกสาวคนเล็กของวิจารณ์อีกทั้งยังสร้างหลักฐานเท็จโยนความผิดให้ฤกษ์จนต้องติดคุกนาน 28 ปี นอกจากนี้ยังลักพาตัวลูกชายของพิมพัตรากับฤกษ์เอามาเลี้ยง
“เท่านั้นยังไม่พอ พ่อยังพยายามฆ่าพ่อฤกษ์ของผมอีก ใจคอพ่อทำด้วยอะไรถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้”