ตอนที่ 8
แผนถ่วงเวลาเริ่มโดยเหมียวเล่าชีวิตของตนต่อด้วยโขง แต่ทิชาไม่อาจทนฟังได้กรี๊ดว่า พวกเขาทนได้เพราะพวกเขามีความสุข มีความรัก พวกเขามีทุกอย่างแต่ตนไม่มี
เวลาเดียวกันผู้กองกำชัยก็นำคุณนายระวีมาบอกว่าคุณนายต้องช่วยหว่านล้อมอย่าให้ทิชาคิดสั้น แต่พอคุณนายมาถึงก็ด่าทิชาว่าคิดบ้าอะไร ตนติดตะรางอยู่สถานีตำรวจ รอให้ไปเยี่ยมไปประกัน แต่ที่ไหนได้กลับมาทำตัวเป็นคนขี้แพ้จะฆ่าตัวตายแลกความรักแบบนี้
“ถุย! อายเขามั่งไหม ทุเรศจริงๆ ฉันขอถูกประหารชีวิตตายไปเลยยังดีกว่าได้มาเห็นแกทำตัวย่อยยับบัดสีแบบนี้” กำชัยเตือนว่าตนให้มาพูดให้กำลังใจลูก “กำลังใจบ้าบออะไร อยากตายให้มันตายๆไปเลย เอาซี้ทิชา ฉันมันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ลูกตายอีกสักคนมันจะเป็นไรไป”
พัสกรลากตัวคุณนายระวีออกไป แต่คุณนายก็ยังหันมาตะโกนด่า
“ที่ไอ้โขงมันเปิดโปงทำลายฉันจนป่นปี้ก็เพราะใคร ไม่ใช่เพราะแกเหรอ ที่ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน มันสมควรตายแล้ว เป็นฉันฉันก็จะฆ่าตัวตายให้มันสาสมกับความโง่!”
ทิชายกปืนจ่อหัวตัวเอง แม้ทุกฝ่ายจะเตรียมพร้อมแต่ทุกอย่างก็ช้ากว่าทิชา พอเสียงปืนระเบิดขึ้นทิชาล้มทั้งยืนเลือดสาดกระจาย คุณนายระวีช็อก โขงกอดร่างทิชาไว้เลือดเธอชุ่มตัวเขาไปด้วย
ทุกคนเศร้าสลดกับภาพตรงหน้า...คุณนายระวีกรีดร้องเอาหัวโขกพื้นปังๆจนตำรวจต้องเข้ายึดตัวไว้
เมื่อนำตัวมาถึงโรงพัก ผู้กองบอกตำรวจว่าไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายตัวเองอีกแต่ต้องเฝ้าระวัง อย่าเผลอ
ผู้กองสั่งตำรวจให้พาคุณนายไป แต่หันมาเจอพวกยายไร ยายหวาน ยายแจ๊วพากันเอาของเยี่ยมมาแสดงความเสียใจที่ลูกสาวตาย คุณนายชะงัก ยายหวานบอกว่า
ความทุกข์ของแม่ไม่มีอะไรเกินกว่าที่เห็นลูกตายก่อนตายไปต่อหน้า
ยายแจ๊วก็อโหสิให้ เห็นผู้กองกำชัยที่ทำหน้าฉงน คุณนายระวีชะงัก ยายแจ๊วพูดอย่างจริงใจว่า
“วันนี้ลูกสาวของเขาเองฆ่าตัวตาย ฉันคิดว่าเขาได้ชดใช้กรรมของเขาแล้ว ไหนต้องไปติดคุกอีกหลายปี ฉันเลยมาอโหสิให้เขา เกิดชาติหน้าฉันใด ฉันไม่ขอจองเวร จะไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกัน ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลย ...แล้วถ้าที่ฉันอโหสิ มันจะมีบุญกุศลอะไร ก็ขอให้บุญนั้นช่วยพานางน้อยหน่าหลานฉันให้กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ”
คุณนายระวีได้ยินที่ยายแจ๊วพูดทุกคำน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา ทรุดลงพนมมือเอ่ยเสียงเครือ
“ลูกทิชา...อโหสิให้แม่ด้วย...”
ooooooo
หลังเหตุการณ์ โขงกลับไปนั่งเศร้าที่บ้านครูจันทรา โทษตัวเองว่าไม่น่าจัดฉากทำเป็นสาหัสแล้วให้ทิชาจนมุมแบบนั้น ตนน่าจะคิดแบบนักสังคมสงเคราะห์มากกว่าจะคิดแบบตำรวจที่อยากจับคนร้ายได้คาหนังคาเขา
ครูจันทราปลอบว่าโขงเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนที่จะช่วยคนทั้งเมืองได้ คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เอาเลยคิดวนไปให้เต็มที่ จะเสียใจ จะลงโทษตัวเองอย่างไรจัดให้เต็มที่ แต่อย่าเกินคืนนี้
โขงถามว่าจำกัดเวลาด้วยหรือ ครูบอกว่าจะซ้ำเติมตัวเองไปอีกนานเท่าไรก็แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ ทำได้แค่เอามาเป็นบทเรียน ดังนั้น “เอาคืนนี้ให้จบเหอะ แล้วพรุ่งนี้จะได้เดินหน้าทำอย่างอื่นต่อไป”
ขณะนั้นเองป้านิดกับพัสกรก็พาเหมียวเข้ามา เหมียวไหว้ครูจันทราอย่างอ่อนน้อม ครูเอ่ยปลื้มว่า
“ได้เจอตัวจริงซะทีนะมณเหมียว”