ตอนที่ 8
บอกว่าไม่ต้องห่วง ไม่มีใครน่าสงสัยเลย มีแต่คุณทิชาที่เพิ่งเข้าไป
“คุณทิชา!!!” กำชัยกับเหมียวตกใจรีบเข้าไป
ในห้องทันที สวัสดิ์กับแป๊ะตามเข้าไปงงๆ
ในห้องโขงพยายามหว่านล้อมทิชาส่งปืนให้ตน ตนจะบอกตำรวจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ทิชาในสภาพไร้สติบอกว่าตนไม่เชื่อเขาอีกแล้ว บอกตัวเองว่าตนต้องจัดการทุกอย่างเองไม่งั้นเดี๋ยวคุณแม่จะโกรธอีก
ขณะโขงพยายามหว่านล้อมจนทิชาเริ่มฟังบ้าง แต่แล้วความคิดก็เปลี่ยนฉับพลันเมื่อเหมียวพรวดเข้ามา ทิชายกปืนจ่อเหมียวทันทีสั่งให้ทุกคนถอยไปให้หมดแล้วลากเหมียวออกไป โขงพุ่งไปคว้ากางเกงในตู้มาเปลี่ยนแล้ววิ่งตามไปเกลี้ยกล่อมทิชาอีก ถูกเธอด่า “ปัญญาอ่อน ใครจะเชื่อพวกแก”
เหมียวที่ถูกทิชาลากไปและเอาปืนจ่อก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมทิชา แต่เธออยู่ในสภาพเหมือนคนบ้า จิก
ผมเหมียวลากไปที่ลานจอดรถบังคับให้เหมียวขับรถตัวเองถือปืนยิงกราดทุกคนที่ตามมา ยามออกมาขวางก็สั่ง
“ชนมันเลย ชน!!!”
โขงตามเจอป้าขี่มอเตอร์ไซค์คร่ำคร่ามีหลานซ้อนท้ายก็วิ่งไปขวางบอกยืมรถหน่อย ปล่อยหลานกับป้าลงแล้วตะบึงคร่อกแคร่กตามรถทิชาที่เหมียวเป็นคนขับไป
ทิชาบังคับเหมียวขับรถไปก็สบถด่าทอโขงที่เลือกเหมียวที่เป็นเด็กข้างถนน สวะ แทนที่จะเลือกตน เหมียวบอกว่าตนกับโขงไม่ได้เป็นอะไรกัน ทิชาตะคอกว่าแต่เขารักเธอ แล้วสั่งเหมียวให้เลี้ยวรถเข้าท่าเรือเหยียบให้มิด เหมียวบอกว่ามันไม่มีทางไปแล้ว ทิชาพูดอย่างสติแตกว่าพุ่งไปให้สุดขอบฟ้าเราจะตายด้วยกัน
เหมียวมองไปเห็นอีกสามร้อยเมตรจะสุดสะพาน เห็นทิชาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย และมัวแต่กังวลกับโขงที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา เหมียวเหยียบคันเร่งพุ่งไปอย่างเร็ว พอใกล้สุดสะพานก็เบรกกะทันหัน ทิชาคว่ำหน้ากระแทกกระจกเลือดอาบ ปืนหลุดจากมือแน่นิ่งไป
เหมียวลงจากรถวิ่งไปหาโขง กอดกันด้วยความดีใจ บอกว่าทิชาอยู่ในรถให้รีบไปดู แต่พอไปเปิดประตูรถ ทิชาหายไปแล้ว มองไปเห็นทิชายืนที่ปลายสะพาน ปืนจี้ที่ตัว เหมียวตะโกนบอกให้พอเถอะ มันจบแล้ว
“มันจะจบเมื่อฉันตาย คุณโขงคอยดูนะ ฉันจะตายให้คุณดูแล้วคุณต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะคุณคือสาเหตุที่ทำฉันตาย”
ผู้กองกำชัยบอกทุกคนอย่าเข้าไปทำให้ทิชารู้สึกว่าจนมุม พัสกรก็บอกให้ตามนักจิตวิทยามาคุยกับทิชา
ooooooo
ทิชาอยู่ในอาการคุมสติไม่อยู่พร่ำแต่จะฆ่าตัวตายให้ทุกคนดู ให้ทุกคนรู้ว่าโลกไม่ยุติธรรมกับตนเลย
โขงบอกว่าโลกก็ไม่ยุติธรรมกับตนเหมือนกัน
“ไม่จริง โลกของใครจะโหดร้ายเท่าฉัน”
ทิชาระบายความคับแค้นใจของตนที่เกิดมาอยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ รู้ว่าที่บ้านทำอะไรก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นตนก็คงตายไปนานแล้ว ต้องเล่นบทนางฟ้าไร้เดียงสา ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่
พัสกรบอกแป๊ะที่ซุ่มดูด้วยกันว่าเกินเยียวยาแล้ว มีแต่ต้องถ่วงเวลาเพื่อเข้าชาร์จเท่านั้น
ทิชาระบายความอัดอั้นว่าตั้งแต่พ่อตายแม่ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่กันเหมือนอย่างเมื่อก่อน แม่เสียสละทุกอย่างเพื่อตนแล้วตนจะดื้อกับแม่ได้ยังไง โขงฟังแล้วเสนอให้มาประกวดเรื่องชีวิตบัดซบกันโดยเอาปืนของทิชามาเป็นเงื่อนไข ชีวิตใครบัดซบที่สุดคนนั้นได้ปืนไป