ตอนที่ 1
หลังเยี่ยมหลุมศพมารดา อลิซซึ่งเดินทางตามลำพังก็ตัดสินใจกลับโดยรถไฟแต่โชคร้ายถูกลอบสังหารอีกรอบ แต่ครั้งนี้ราชนิกุลสาวไม่ต้องป้องกันตัวเองเพราะมีชายหนุ่มแปลกหน้ามาช่วยไว้
ดวินนั่นเองที่สังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณสถานีรถไฟ สัญชาตญาณแท้ๆทำให้เขาพุ่งตัวไปสกัดพวกคนร้ายและพาหญิงสาวแปลกหน้าวิ่งหนี อลิซไม่มีเวลาถามไถ่ได้แต่วิ่งตามแรงลากจนถึงระยะปลอดภัย
“คุณรู้หรือเปล่าพวกนั้นเป็นใคร” ดวินถามลอยๆ
“ฉันไม่รู้...ขอบคุณมาก”
อลิซไม่สนใจจะทำความรู้จักชายหนุ่มผู้มีพระคุณ เดินหนีดื้อๆเพราะกำลังหงุดหงิดที่อดีตแม่เลี้ยงกับลุงแท้ๆไม่เลิกลอบกัด ดวินได้แต่มองตามหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาลงความเห็นในใจว่าสวยแม้จะเห็นหน้าไม่ชัด ก่อนจะผละไปตามทางของตนบ้างหากไม่ถูกใครบางคน ทักเสียก่อน
หมอดูหญิงชราชาวยิปซีเห็นดวินจากนิมิตพิเศษและแทบอดใจรอไม่ไหวจะทักเมื่อเขาเดินมาใกล้ คำทำนายแปร่งหูที่ว่าโชคชะตาหรือพรหมลิขิตจะชักนำบางสิ่งเข้ามาในชีวิตอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ทำให้นาวิกโยธินหนุ่มส่ายหัว ไม่เคยเชื่อเรื่องทำนองนี้มาแต่ไหนแต่ไรและก็เหมือนหมอดูหญิงชราจะรู้ดีดักคอเสียงเรียบ
“คำถามเกี่ยวกับการจากไปของผู้ให้กำเนิด ความสงสัยว่าทำไมต้องพลัดพรากมาแสนไกล...แน่ใจเหรอว่าลึกๆในใจไม่ได้ตามหา อีกไม่นานคุณจะได้คำตอบนั้น... เป็นคำตอบที่นำมาซึ่งความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ความรับผิดชอบที่ต้องแลกด้วยชีวิต...ไม่ใช่แค่หนึ่งชีวิต ...แต่เป็นสองชีวิต”
ดวินชะงัก คำทำนายเหมือนจะล่วงรู้ถึงชะตากรรมในอดีตโดยเฉพาะเรื่องของบุพการีผู้ล่วงลับดึงความสนใจเขาซึ่งหมอดูชราก็รู้ดี ย้ำให้เขาเชื่อถึงโชคชะตาที่จะมาถึง
“สองชีวิตที่ถูกลิขิตให้มาเจอกัน เป็นความผูกพันที่อยู่เหนือโชคชะตา ชีวิตหนึ่งสูงดั่งฟ้า...อีกชีวิตแกร่งดั่งภูผา...ไม่มีใครฝืนชะตากรรมและพรหมลิขิตได้...ขอให้คุณโชคดี”
ooooooo
พิธีสถาปนาเจ้าหญิงอลิซเป็นองค์รัชทายาทแห่งประเทศฮรีสอซผ่านพ้นด้วยดี คิงเฮนรี่เฝ้ามองหลานสาวคนโปรดด้วยความภาคภูมิใจ ต่างจากเชื้อพระวงศ์คนอื่นโดยเฉพาะเจ้าฟ้าชายอังเดร เจ้าฟ้าหญิงโมนาและเจ้าชายอลันที่เห็นว่าองค์รัชทายาทคนล่าสุดไม่เหมาะสม มีแค่เจ้าหญิงเคธที่มองทุกอย่างด้วยสายตาเรียบเฉย...ไร้ความรู้สึก
หลังพิธีการสำคัญ อลิซพร้อมด้วยเภตราและเจซี หัวหน้าองครักษ์และผู้ช่วยคนสนิทก็เดินทางสู่ประเทศไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญคือเปิดเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับฮรีสอซ นายพลศักดิ์ชาย ผู้บัญชาการหน่วยพิเศษและสหายสนิทรุ่นเดียวกับคิงเฮนรี่รับหน้าที่ต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ