ตอนที่ 12
พอวศินคุยกับอ้อเสร็จ อินทัชบอกว่ายังมีอีกเรื่องนึง วันนี้คุณวัฒน์เอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว วศินพยักหน้าบอกว่า หวังว่าเขาจะไม่กลับไปเล่นการพนันอีก อินทัชฟังแล้วเอ่ยชื่นชมว่า
“ผมนับถือน้ำใจพี่จริงๆ” วศินถามว่าอะไรของนาย “ก็พี่ช่วยคนที่เคยทำไม่ดีกับพี่มาก่อน พี่ทำได้ไง ผมยังไม่รู้เลยว่าถ้าเป็นผมจะทำใจให้อภัยแล้วทำแบบพี่ได้ไหม”
“ฉันไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอกอินทัช ที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพื่อคนที่ฉันรักต่างหาก”
วศินมองหนูดีที่ทำงานอยู่กลางไร่ชาอย่างมีความสุข เขาพลอยยิ้มมีความสุขไปด้วย
“ความจริงที่ฉันเอาตัวหนูดีมาอยู่ที่นี่ เรียกว่าเลวซะด้วยซ้ำ แต่จะให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอมทำทั้งนั้น ถ้ามันจะช่วยยื้อเวลาของคุณหนูดีเอาไว้ได้ ถ้ามันทำให้ฉันมีโอการักคุณหนูดีต่อไปได้ ถึงใครจะมองว่าเลว ฉันก็ยอม!!”
อินทัชมองวศินอย่างเข้าใจและเห็นใจ...
ooooooo
เย็นแล้ว หนูดีเดินอยู่ในไร่ชา ยามว่างจากงานก็อดคิดถึงคำพูดของหลายคน ทั้งแตน วินพัตรา และแม้แต่อ้นที่บอกก่อนเธอจะเดินทางว่าอย่าลืมว่าหนูดียังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นพี่ อย่าทำอะไรที่มันน่าละอายทีหลัง
ขณะนั้นเองวศินเดินเข้ามาพูดเหมือนชวนคุยว่า
“ตรงนี้เป็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดของไร่เลยนะครับ ผมก็ชอบที่นี่”
หนูดีหันมองหน้าเขาตัดสินใจบอกว่าตนมีเรื่องจะขอ วศินบอกว่าคุณหนูดีอยากได้อะไรบอกตนมาได้เลย
“ฉันไม่อยากทำงานเป็นผู้ช่วยคุณแล้ว ฉันขอทำงานใช้หนี้คุณตำแหน่งอื่นได้ไหมคะ”
วศินอึ้ง ถามอย่างเจ็บปวดว่า “คุณไม่อยากอยู่ใกล้ผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ค่ะ ให้ฉันทำงานอะไรก็ได้ ลำบากกว่านี้ก็เอา แต่ฉันขอไม่เป็นผู้ช่วยคุณ”
“ได้!! งั้นผมจะทำตามที่คุณขอ”
พูดจบวศินเดินออกไปทั้งน้อยใจ เสียใจมาก หนูดีมองตามแล้วหันหลังกลับด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน
นาทีนี้...เหมือนทั้งสองเดินห่างกันออกไปอีกครั้ง เหมือนกับพระอาทิตย์ตกดินที่กำลังจากลา...
ooooooo
อ้นกลับถึงบ้านเจอสุดาวรรณยืนอยู่อย่างไม่สบายใจถามแม่ว่าคุณแม่ยังไม่นอนอีกหรือ สุดาวรรณพยักหน้า อ้นถามว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?
“พักนี้คุณพ่ออ้นท่าทางแปลกๆเหมือนจะไม่อยากอยู่ใกล้แม่เลย” อ้นถามว่าคุณแม่คิดมากไปเองหรือเปล่า “เซ้นส์ของผู้หญิงไม่ค่อยพลาดหรอกนะอ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นเมีย แม่ว่าต้องมีอะไรแน่ๆ”
พูดแล้วนึกขึ้นได้ถามอ้นว่าแล้วที่บริษัทมีอะไรแปลกๆไหม อ้นบอกว่าเท่าที่เห็นไม่มี สุดาวรรณบอกว่าแต่ยังวางใจไม่ได้
“ถ้างั้นอ้นจะช่วยดูคุณพ่อที่บริษัทอีกแรงครับ”
สุดาวรรณจะไปนอน อ้นเรียกไว้ พอแม่หันมาถามว่ามีอะไรหรือเปล่า อ้นกลับบอกว่าไม่มีอะไร ตนจัดการเองดีกว่า
“แม่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรนะ แต่ถ้าไม่ไหวบอกแม่ แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้”
“ครับ”
พอสุดาวรรณเดินไป อ้นก็บอกกับตัวเองว่า
“แค่ผู้หญิงคนเดียวอย่างยัยลิดา ทำไมเราจะจัดการเองไม่ได้”
ฝ่ายลลิดาอยู่ที่คอนโดมองนาฬิกาลุ้น พอนาฬิกาจากมือถือเตือนว่าครบกำหนดเวลา ลลิดาก็รีบหยิบชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่วางอยู่มาดู ปรากฏว่าเห็นหนึ่งขีดไม่ท้อง!!
ลลิดาโยนที่ทดสอบการตั้งครรภ์ทิ้งถังขยะที่มีชุดทดสอบทิ้งอยู่แล้วหลายอัน บ่นอย่างหงุดหงิด
“ทำไมไม่ท้องสักทีวะ!...”
ลลิดาผิดหวัง หงุดหงิดหัวเสีย บอกตัวเองว่า
“ต้องท้องก่อนพี่อ้นจะจับได้ ทำยังไงดี???”
ooooooo
คืนนี้หนูดีนอนไม่หลับ คิดถึงคืนที่นอนดูดาวกับวศินที่บ้านป้าชื่น...แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ปัจจุบันแล้ว เธอบอกตัวเองว่า “เธอทำถูกแล้วหนูดี ทำถูกแล้ว!!”
รุ่งขึ้นเป็นวันแรกที่เปลี่ยนงานใหม่ หนูดีลุกขึ้นรีบไปที่ไร่ชาเจออินทัชมายืนรออยู่แล้ว เขาบอกว่าพ่อเลี้ยงบอกว่าหนูดีไม่ได้เป็นผู้ช่วยแล้วเลยสั่ง
ให้ตนมาพาเธอไปทำงานที่ไร่ แล้วชวนไปกันเลย
อินทัชยื่นตะกร้าเก็บใบชาให้ เอ่ยว่าพ่อเลี้ยงบอกว่าถ้าหนูดีไม่อยากเป็นผู้ช่วยพ่อเลี้ยงก็ต้องทำงานเหมือนคนงานคนอื่นๆในไร่เพราะไม่มีตำแหน่งไหนว่างแล้ว พอหนูดีรับตะกร้าไป อินทัชบอกอีกว่า
“อ้อ...พ่อเลี้ยงให้กำชับว่าคนงานที่นี่เก็บ
ใบชาอย่างน้อยเที่ยวละ 3 กิโลเป็นอย่างต่ำนะครับ คุณหนูดีก็ต้องทำให้ได้ตามนั้นด้วย”
หนูดีอยากจะกรี๊ดรู้สึกว่าถูกพ่อเลี้ยงบีบมาก แต่ก็อดทนเดินไปเก็บใบชากับคนงาน อินทัชมองตามตะโกนให้กำลังใจ
“สู้ๆนะครับคุณหนูดี”
วศินทนใจตัวเองไม่ได้ เดินไปแอบดูหนูดีเก็บใบชาอยู่ห่างๆ
แต่ไม่นานก็มีโทรศัพท์จากอ้อมาถามหนูดีว่าทำอะไรอยู่ คุยได้ไหม หนูดีบอกว่าคุยได้ กำลังเก็บใบชาอยู่ อ้อถามว่าพ่อเลี้ยงบอกว่าให้เธอมาเป็นผู้ช่วยทำไมไปเก็บใบชา หนูดีตอบมั่วว่าตนได้เลื่อนตำแหน่ง อ้อยิ่งงงถามเสียงสูงว่าเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยเจ้าของไร่ชามาเป็นคนเก็บใบชาเนี่ยนะ?!
“อืม...แล้วอ้อมีอะไรหรือเปล่า” หนูดีตัดบท
อ้อเล่าว่ามีลูกทัวร์รีเควสว่าอยากไปเที่ยว
ไร่ชาของพี่วศินตนเลยจะพาไป หนูดีตื่นเต้นบอกว่าถ้างั้นตนจะได้ลางานไว้ล่วงหน้า พูดอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้อ้อทำงานคนเดียว อ้อบอกว่าไม่ต้องห่วงตนนั่งตบยุงที่ออฟฟิศมาหลายวันแล้วเพิ่งจะมีลูกค้าเขามานี่แหละ บอกหนูดีว่าอยู่ที่นั่นไปเถอะนานๆก็ได้