ตอนที่ 12
ส่งรูปให้อ้นแล้ว วินพัตราก็จงใจเดินเข้าไปทักวศิน ถามหนูดีว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หนูดีไม่ทันตอบ วศินก็บอกว่า “ผมขอให้คุณหนูดีมาช่วยงานของผมน่ะครับ”
“คุณหนูดีเนี่ยนะคะมาช่วยงานพ่อเลี้ยง” เรือนแก้ว ถามเสียงสูงแทรกขึ้น ทุกคนหันมองจึงเห็นเรือนแก้วเดินมากับแตน แตนมองหน้าหนูดีอย่างไม่พอใจแต่เรือนแก้วออกหน้าปะทะกับหนูดีอย่างออกนอกหน้า ถามว่า เลิกทำทัวร์แล้วหรือ พอหนูดีบอกว่ายังทำอยู่ ก็กระแนะกระแหนทันที
“แหม...ท่าทางคุณหนูดีจะเป็นพวกที่รักพี่เสียดายน้องอยากเก็บเธอไว้ทั้งคู่นะคะ แต่ต้องระวังหน่อยถ้าไม่เลือกเอาสักคน...เอ๊ย สักอย่าง ระวังจะพลาดไม่ได้สักอย่างนะคะ”
หนูดีรู้ว่าเรือนแก้วพูดกัดตนแต่ก็ข่มใจ แตนที่ยืนคู่กับเรือนแก้วยิ้มสะใจ วศินพูดขึ้นว่า
“ผมกลับเห็นว่าคนยุคเรานี่ยิ่งควรทำงาน 2 อย่าง กันขึ้นไปนะครับ จะงานประจำหรืองานพิเศษ ถ้า Manage เวลาได้ ผมเชื่อว่าไม่มีพลาดหรอกครับ”
วศินพูดปกป้องหนูดีอย่างออกนอกหน้าจนคนอื่นแอบไม่พอใจ
เรือนแก้วจอมแสบซ่าก้าวไปกอดแขนวศินฉอเลาะว่าตนแค่เป็นห่วงหนูดีเท่านั้นแหละ
“ขอบคุณคุณเรือนแก้วที่เป็นห่วงนะคะ แต่หนูดีคิดว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้คนที่ทำงานอย่างเดียวแล้วปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆนี่สิควรต้องระวัง” หนูดีจิกคืนนิ่มๆ
“งั้นก็เอาที่คุณหนูดีสบายใจเถอะค่ะ” เรือนแก้วลอยหน้าพูดและกอดแขนวศินไม่ปล่อย จนเขารู้สึกอึดอัดค่อยๆแกะมือเธอออกอย่างสุภาพ แต่หนูดีหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร
วศินถามวินพัตรากับเรือนแก้วว่าคงจะมาคุยเรื่องงานจังหวัดใช่ไหม ทั้งสองบอกว่าใช่ วินพัตราบอกว่าเจ้าพ่อของตนก็มาด้วย วศินจึงหันบอกหนูดีว่าตนลืมบอกหนูดีไปว่าวันนี้ท่านผู้ว่าฯกับเจ้าพลกาวิล จะมาประชุมกับตนเรื่องงานเทศกาลชาของจังหวัด ดูนาฬิกาแล้วบอกว่าใกล้เวลาแล้ว ชวนเข้าไปกันเถอะ
เรือนแก้วคว้าแขนวศินกอดหมับออเซาะว่าช่วงนี้น้ำในหูตนไม่ค่อยเท่ากันมันวิ้งๆ หน้ามืดตลอดเวลา วศินจึงพาเรือนแก้วที่เกาะแขนเขาราวกับลูกลิงเดินไป วินพัตราหันมองหนูดีแล้วยิ้มให้กัน
มือถือวินพัตราดังขึ้น เธอขอโทษหนูดีเดินเลี่ยงไปรับสาย
พอตรงนั้นเหลือแต่แตนกับหนูดี แตนก็พูดขึ้นว่า
“เห็นแล้วใช่ไหมคะคุณหนูดีว่าตอนนี้มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในชีวิตพี่วศินไม่ได้มีแต่แตนคนเดียว ยังมีคุณน้อยกับคุณเรือนแก้วด้วย”
แตนทิ้งระเบิดแล้วเดินไปเลย หนูดีได้แต่ถอนใจแล้วเดินตามไป
ooooooo
มุมหนึ่งในโรงแรม อ้นเลี่ยงมาคุยโทรศัพท์กับวินพัตรา เขาบอกเธอให้ช่วยจับตาสองคนนั้นให้ตนด้วย วินพัตรารับปากแต่ไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้แค่ไหนเพราะดูท่าสองคนนั้นยังมีเยื่อใยกันอยู่มากจริงๆ
อ้นฟังแล้วแค้น บอกวินพัตราว่า “ผมจัดการปัญหาทางนี้ได้เมื่อไหร่ ผมจะรีบไปครับ”
ลลิดาที่ตามอ้นมาแอบฟัง ชักสีหน้าไม่พอใจมาก ส่วนที่ไร่ชาพอวินพัตราคุยโทรศัพท์เสร็จหันมาก็ตกใจเมื่อเจออินทัชยืนอยู่ข้างหลัง อินทัชถามว่าคุณน้อยกลายเป็นสายลับให้คุณอ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ วินพัตราไม่พอใจเสียงห้วนว่า ไม่ใช่เรื่องของเขา แล้วจะเดินไป อินทัชจับแขนไว้ ทั้งสองหันเผชิญหน้ากัน
“ในฐานะเพื่อน ผมขอเตือนคุณน้อยหยุดแค่นี้เถอะครับ”
“ไม่!” วินพัตราสะบัดมือออก “น้อยไม่หยุด พวกเขาสองคนต่างหากที่ควรหยุด คุณหนูดีมีคู่หมั้นแล้ว”
อินทัชบอกว่าถึงอย่างนั้นเราก็ควรปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง
“คนที่ทำไม่ถูกคือสองคนนั้นไม่ใช่น้อย ทำไมอินทัชไม่ไปว่าเขา มาว่าน้อยทำไม”
“ก็เพราะผมชอบคุณน้อยยังไงครับ” อินทัชตอบโพล่ง ทำเอาวินพัตราอึ้ง ถามว่าอินทัชว่าไงนะ? “ผมชอบคุณน้อยตั้งแต่เด็กๆ ชอบมานานแล้ว แต่ผมรู้ว่าคนอย่างผมคงไม่มีค่าคู่ควรกับคุณน้อยเลยสักนิด ผมถึงได้แต่เจียมตัว แต่พอเห็นคุณน้อยพยายามแย่งชิงเอาความรักของคนอื่นมา ผมถึงไม่อยากเห็นคุณน้อยเป็นแบบนี้”
“อินทัช...”
“หยุดเถอะครับ คุณน้อยมีค่ามากกว่านั้น อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”
วินพัตราไม่พูดอะไร เดินออกไปเงียบๆ และอินทัชก็ได้แต่มองตามเศร้าๆ แต่อีกมุมหนึ่งอินปันที่รักอินทัชเหมือนลูกเหมือนหลานมาได้ยินอินทัชพูดกับวินพัตราทุกถ้อยคำก็ได้แต่ไม่สบายใจ...
วินพัตราเดินมาที่ห้องประชุมไร่ชาอย่างไม่หายตกใจกับคำสารภาพรักของอินทัช เห็นทุกคนยืนรออยู่หน้าห้องประชุม วศินถามว่าเห็นอินทัชไปตามเจอกันหรือเปล่า
วินพัตราบอกว่าเจอ วศินบอกว่าผู้ว่าฯมาถึงแล้วกำลังคุยกับเจ้าพลกาวิลอยู่ข้างใน วินพัตราจึงชวนเข้าไปกัน แตนรีบอาสาจะไปช่วยวศินจดรายงานการประชุม ถูกเขาปฏิเสธบอกให้แตนไปทำงานของ ตัวเองเถอะเพราะตนให้หนูดีช่วยแล้ว
แตนมองหน้าหนูดีอย่างไม่พอใจ หนูดีก็ท่าทางลำบากใจ เมื่อวศินเดินเข้าห้องประชุมจึงตามเข้าไป
ooooooo
อ้นอยู่ที่โรงแรม เดินมาเจอลลิดายืนอยู่ เธอพูดยั่วโมโหเขาว่า
“ที่ไร่ชานั่นคงจะโรแมนติกน่าดูเลยนะคะไม่รู้หนูดีกับพี่วศินจะรื้อฟื้นความหลังกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
อ้นโมโห เขามองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคนก็กระชากแขนลลิดาอย่างแรง กัดฟันปราม
“อย่ามายั่วโมโหฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันก็ไม่ปล่อยให้หนูดีไปกับมันหรอก”
“งั้นก็รีบตัดสินใจสักทีสิคะพี่อ้น ถ้ายอมจดทะเบียนสมรสกับลิดาทุกเรื่องก็จะจบ”