ตอนที่ 16
“เพราะคุณเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับพ่อแม่ฉัน ฉันเลยคิดว่าฉันน่าจะหาคำตอบบางอย่างที่กำลังสงสัยอยู่ได้จากคุณไงคะ”
“ทุกอย่างผมให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว การตายของคุณท่านเป็นอุบัติเหตุ”
“แต่มันต้องมีอะไรสักอย่างสิที่คุณอาจจะไม่ทันนึกถึง”
“ถ้าจะมีเรื่องที่ติดใจก็มีแค่ว่า...ทำไมท่านประธานถึงต้องมาเจรจากับคนงานด้วยตัวเอง เพราะสถานการณ์ประท้วงไม่ได้มีอะไรรุนแรงเกินกว่าที่ผมควบคุมอยู่”
“ยังไงคะ”
“สาเหตุที่คนงานประท้วงตอนนั้นคือไม่พอใจเรื่องค่าตอบแทนกับเวลาทำงาน คนที่นำประท้วงเป็นกลุ่มคนงานใหม่หัวรุนแรงที่เพิ่งมาทำงาน แต่พอผมแก้ปัญหาค่าตอบแทนให้ กลุ่มประท้วงคนอื่นก็เริ่มสลายตัว เหลือแต่คนงานใหม่ไม่กี่คนที่ยังประท้วงอยู่ จนท่านประธานมาถึงแล้วให้ผลตอบแทนเพิ่ม ทุกอย่างก็จบ ท่านประธานก็เดินทางกลับ”
“แล้วคุณพอจะมีประวัติของคนงานพวกนั้นเก็บไว้บ้างไหมคะ”
“มันนานมากแล้วนะครับ ผมไม่ได้เก็บไว้หรอกครับ แต่ผมยังเก็บรูปถ่ายวันที่ประท้วงกันเอาไว้อยู่ครับ ผมถ่ายเก็บบรรยากาศการประท้วงไว้เพื่อป้องกันเหตุการณ์บานปลาย จะได้ระบุได้ถูกคนว่าใครทำอะไรบ้าง”
ชโลธรดีใจที่ชูเกียรติให้ความร่วมมือ เขาค้นเจอรูปถ่ายในอดีตแล้วเอาให้เธอดู ปรากฏว่ามีรูปชายคนหนึ่งที่ทำให้ชโลธรดูแล้วดูอีกเพราะคุ้นหน้ามาก
“ผู้ชายคนนี้...”
“อ๋อ นี่แหละครับพวกคนงานใหม่หัวรุนแรงที่ก่อเรื่องประท้วงครับ”
แม้ภาพนั้นจะผ่านมาเป็นสิบปี แต่ชโลธรก็จำเค้าหน้าของชายคนนี้ได้ เขาคือพ่อใหญ่คมอย่างแน่นอน!
จังหวะนี้ชูเกียรติมองผ่านกระจกห้องออกไปเห็น รปภ.กำลังมุ่งตรงมา เขารู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลจึงบอกชโลธรให้รีบออกไป เขาจะถ่วงเวลาให้เอง
รปภ.ได้รับคำสั่งจากฉายมณีมานั่นเอง ชโลธรหาทางหลบหลีกออกไปถึงลานจอดรถ แต่เพราะบอดี้การ์ดของเธอโดนบักจกเล่นงานสลบเหมือดไปแล้ว เธอจึงไม่รอดเงื้อมมือของมัน
“อยู่ซือๆเด้ออีเหวิ่ง อย่าโวยวาย อย่าส่งเสียง บ่จังซั่น...” จกใช้มีดพกที่กำลังจี้เอวเธออยู่กดลงไปทำให้เธอทั้งเจ็บและกลัวถึงกับร้องลั่น
“โอ๊ย...อย่านะ ฉันเจ็บ”
“อยู่ดีบ่ว่าดี คั่นเจ้ายังอยู่โคกอีเกิ้งก็บ่ต้องมาหาเฮื่องตายหม่องหนี่ดอกอีเหวิ่งเอ๊ย มาหนี่ ตามข้อยมาดีๆอย่าขัดขืน”
จกกระชากตัวชโลธรให้ตามไป แต่เธอพยายามขัดขืนเลยโดนมันชกท้องจนทรุดฮวบ
ทันใดนั้นเองรถกระบะคันหนึ่งพุ่งมาจอดพรืดถึงหน้า คนขับเปิดประตูลงมา จกเห็นแล้วถึงกับผงะคาดไม่ถึง
“ผูใหญ่พล!!”
“นาย...นายพล...” ชโลธรเสียงอ่อนใกล้หมดสติ