ตอนที่ 7
“ดิฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” คุณนายตอบและพยายามเดินเลี่ยง นักข่าวก็ยังตามถามว่าพยานหลายคนยืนยันตรงกันหมดคุณนายจะปฏิเสธยังไง คุณนายจะว่าโดนใส่ร้ายหรือ
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นค่ะ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดิฉันไม่เกี่ยวข้องใดๆกับธุรกิจผิดกฎหมายทั้งสิ้น เดี๋ยวเสร็จกับทางตำรวจแล้วดิฉันจะออกมาแถลงข่าวนะคะ...ไม่นานหรอกค่ะ”
เมื่อคุณนายกับทิชาและทนายเข้าไปคุยกับผู้กองกำชัยแล้วจะขอประกันตัว ผู้กองบอกว่าศาลไม่ให้ประกันตัวและให้นำตัวไปฝากขัง คุณนายสติแตกทันทีเสียงดังว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไรต่อว่าทนายที่เงียบไม่ปกป้องลูกความแล้วจะโทร.หาท่านผู้การท่านรอง
ผู้กองกำชัยบอกว่าไม่มีใครช่วยคุณนายได้หรอกเพราะตอนนี้รัฐบาลจริงจังกับปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต่างคนต่างก็เอาตัวรอดไม่มีใครอยากยุ่งให้ตัวเองเดือดร้อนหรอก คุณนายโพล่งว่าตนจะสู้จนถึงที่สุด ทิชาปลอบว่าตนจะให้ทนายยื่นอุทธรณ์
คุณนายด่าว่าถ้าแค่นี้ไม่ต้องช่วยเพราะต้องทำอยู่แล้ว ตัดพ้อต่อว่าทีเวลาทิชามีปัญหาแม่ช่วยเต็มที่แต่เวลาแม่มีปัญหาทิชากลับคิดถึงแต่ตัวเอง เห็นผู้ชายดีกว่าแม่บังเกิดเกล้า ตนไม่น่าเอามาอยู่ด้วยเลย ต่อว่าและตำหนิอย่างรุนแรงแล้วเดินปึงปังออกไปเลย
ทิชาเสียใจมากที่แม่ไม่เข้าใจตน ทรุดนั่งกับพื้นพึมพำเสียงเครือ “ทิชาขอโทษ”
โขงอยู่ที่สำนักงาน ทั้งสุรารักษ์ สวัสดิ์ และนารีต่างวิพากษ์วิจารณ์คุณนายระวีอย่างผิดหวัง เวลาเดียวกันก็สงสารทิชา นารีบอกให้โขงไปหาเพราะเวลานี้เธอคงอยากได้เพื่อนสักคน
โขงไปที่หน้าบ้านทิชา เจอบรรดายายๆที่ตลาดมาออกันอยู่หน้าบ้านด่าทอสาปแช่งคุณนายและทวงลูกหลานของตนคืน ทิชาแอบดูอยู่ที่หน้าต่างด้วยความไม่สบายใจ เห็นโขงอยู่ในกลุ่มยายๆเหล่านั้นก็คิดว่าโขงเป็นคนพามา คิดถึงคำพูดของแม่ที่ว่า...
“ผู้ชายที่แกว่าดีนักดีหนามันกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าของแกเข้าไปนอนในคุก มันทำลายฉัน”
ทิชาเจ็บปวดแค้นโขง พึมพำ “คุณทำลายคุณแม่ฉัน คุณทำร้ายฉัน!!!”
ทิชาไปที่บ้านเหมียว เจอโขงกำลังหยอกล้อกับเหมียวอย่างมีความสุขก็ยิ่งแค้นเชื่อว่าโขงเลวอย่างที่คุณแม่ว่าจริงๆ เธอสับสนว้าวุ่นและแค้นใจมาก ถามตัวเองว่า
“ทิชาควรทำยังไงคะคุณแม่...ทิชาควรทำยังไง”
เมื่อเธอมองไปที่บ้านเหมียวอีกครั้ง ก็เห็นใครคนหนึ่งใส่หมวกปิดหน้าปิดตายืนแอบอยู่ข้างรั้ว พอร่างนั้นหันมาเป็นจังหวะที่แสงไฟกระทบหน้าพอดี ทิชาพึมพำเหมือนพบทางออก “นายชัย...”
ooooooo