ตอนที่ 4
ที่แท้เป็นฝีมือของทุนอู พออวัศยาไปเจอทุนอูก็จะกลับ แต่ถูกนุนุออกมาขวางบอกให้ไปคุยกันก่อน
เบนโทร.หามาดามเมย์ทูเอแต่นุนุรับสายบอกว่าโทรศัพท์ของมาดามอยู่กับตน เบนถามว่านายพลพาอวัศยาไปไหน นุนุบอกว่าไม่ต้องห่วง ท่านนายพลมีเรื่องอยากถามไม่กี่ข้อ ถ้าอวัศยาให้ความร่วมมือดีสักชั่วโมงตนจะให้คนส่งกลับโรงแรม พูดจบก็วางสายเลย
ทุนอูพูดดักอวัศยาว่าเธอกับเบนตามตนไปจนถึงแสนปุระจนหลงป่าเพิ่งออกมาไม่ใช่หรือ นุนุถามว่าพวกคุณสงสัยอะไรพวกเรา
อวัศยาบอกว่าตนตามเบนไปเพราะสงสัยว่ามีอะไรกับมาดามซึ่งเรื่องนี้นุนุรู้มานานแล้ว ทุนอูบอกว่าตนก็รู้เรื่องนี้นานแล้ว อวัศยามองนุนุขวับถามว่าแล้วที่เธอบอกว่าเบนแบล็กเมล์มาดามและให้ตนช่วยหาหลักฐานคืออะไร หลอกตนใช่ไหม
นุนุบอกว่าเพราะอยากรู้ความจริงว่าเบนเป็นใครกันแน่ อวัศยายืนยันว่ารู้แต่ว่าเขาเป็นนักธุรกิจ
“ผมไม่ชอบถามคำถามเดิมซ้ำซาก แต่ผมจะให้ โอกาสคุณครั้งสุดท้าย เบนเป็นสายของทางการไทยหรือเปล่า”
อวัศยาช็อก ทุนอูเอารูปครอบครัวเธอมาให้ดูบอกว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าไม่อยากให้ตนยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอก็อย่ายุ่งเรื่องของตนและตอบคำถามตนมาตามตรง
“ฉัน...ฉันไม่ทราบ ฉันรู้แต่ว่าพี่เบนเป็นนักธุรกิจ” อวัศยาตอบอย่างแน่วแน่ ยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง
ทุนอูให้อวัศยากลับมาบอกให้เบนมาพบ เธอบอกเบนว่าอย่าไป ตนเป็นห่วงทั้งตัวเขาและกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้เจอเขาอีก เบนอึ้งนิ่ง เธอถามว่าตนไม่มีวันจะเปลี่ยนใจเขาได้เลยใช่ไหม เบนหันไปทำความเคารพรูปในหลวง ร.9 เอ่ยอย่างเคร่งขรึม หนักแน่นว่า
“...อาชีพทางทหารถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ และการที่ท่านสมัครเข้ารับราชการทหารนั้นย่อมหมายความว่าท่านพร้อมแล้วที่จะเสียสละทุกอย่างเพื่อนส่วนรวม...”
เบนบอกว่านี่คือส่วนหนึ่งของพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตนจำไม่เคยลืม ยึดถือเป็นหลักปฏิบัติตลอดมา และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อวัศยานิ่งไปอย่างไม่มีทางเลือก
ooooooo
ทุนอูขังมาดามเมย์ทูเอไว้เพื่อบีบให้ช่วยเรื่องค้าอาวุธกับดีน จนนุนุบอกว่าขังนานเกินไปแล้ว ควรจะเชิญมาร่วมโต๊ะด้วยเสียที
ทุนอูบอกว่าต้องกล่อมมาดามให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องไปเป็นเมียดีน ชวนนุนุดื่มสักแก้วถามว่าถ้าตนเรียกเธอว่าก้อนแก้ว เธออยากฆ่า อยากให้ตนตายจริงๆหรือ ถามเชิงตัดพ้อว่า
“สิ่งที่ฉันทำเพื่อเธอมาตลอดยี่สิบปีมันชดเชยความผิดไม่ได้เลยเหรอ”