ตอนที่ 4
เตชินีเดินออกไปมองไกลไปยังทิวเขาเบื้องหน้า อวัศยาตามมาพูดให้กำลังใจว่าพี่เบนต้องปลอดภัย ถามว่าป้านีโอเคไหม เตชินีบ่นว่าอุตส่าห์ไปทำธุรกิจแต่เบนไม่ซึมซับความเป็นนักธุรกิจเลย
“หมายถึงการคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองเป็นอันดับแรกเหรอคะ หมอกว่านักธุรกิจหลายคนอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนและก็ไม่ใช่ป้านีของหมอกด้วย”
อวัศยานิ่งไปนิดหนึ่งจึงขอโทษป้านีเพราะตนเคยมองพี่เบนไปในทางไม่ดียังแอบคิดสงสัยว่าทำไมป้านีถึงเชียร์ตนกับพี่เบน แต่ตอนนี้ตนรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เพราะว่า...
“พี่เบนมีเหตุผลที่ต้องสนิทสนมกับมาดามเมย์ทูเอ เป็นเหตุผลสำคัญมากที่บอกใครไม่ได้ ใช่ไหมคะ”
เตชินีถามว่าหมอกรู้ อวัศยาบอกว่า “ค่ะ พี่เบนบอกหมอกเอง”
เตชินีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบสุขุมถึงเหตุที่ไม่พูดเรื่องภารกิจของเบนว่า
“ป้ารักและชื่นชมเขาที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำให้เราทุกคนได้อยู่กันอย่างมีความสุข ป้าศรัทธาในอุดมการณ์ของเขา แต่จะให้ป้าไปทำอย่างเขามันก็ไม่ใช่ ป้าก็ทำเท่าที่ทำได้ คือการซัพพอร์ตให้เขาไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ที่สุด ป้าจะไม่ทำตัวเป็นอุปสรรค...ป้าไม่รู้ว่ามันเป็นหน้าที่หรือเปล่า แต่ป้าก็ทำมาตลอด”
“แล้วความรู้สึกจริงๆของป้าล่ะคะ อุดมการณ์ ความต้องการ ความสุขส่วนตัวของป้านีล่ะคะ มันไม่สำคัญเหรอ” เตชินีบอกว่ามันสำคัญสำหรับตัวป้าแต่ไม่สำคัญเท่าประเทศชาติ อวัศยาเอ่ยทึ่งว่า “ป้านี...สิ่งที่ป้านีทำยิ่งใหญ่ไม่แพ้สิ่งที่พี่เบนทำเลยค่ะ”
“แล้วหมอกล่ะ หมอกคิดว่าจะอดทนอย่างป้าได้ไหม”
อวัศยานิ่ง ตอบไม่ออก จนเมื่อเดินมาอีกด้านหนึ่งก็ยังถามตัวเองว่าต้องอดทนขนาดไหนถึงจะทำได้อย่างป้านี
อคินเดินมาได้ยินถามว่าเธอรู้เรื่องของเบนแล้วใช่ไหม อวัศยาทำเป็นงงถามว่าเรื่องอะไร อคินอำว่าไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง เบนบอกตนว่าเธอรู้แล้ว
อวัศยาเสียรู้ถามว่า “คุณก็รู้เรื่องที่พี่เบนเป็นทหารงั้นเหรอ” อคินทำเป็นตกใจถามว่ามาบอกตนทำไม ตนแค่ลักไก่สองสามคำเธอก็บอกหมด บ่นว่าไอ้เบนไว้ใจคนอย่างคุณได้ไง ย้ำว่า
“สิ่งเดียวที่คุณต้องทำก็คือปิดปากให้เงียบ ไม่ว่าคนถามจะเป็นคนดีประเสริฐมาจากไหนก็บอกไม่ได้” แล้วบ่น “แม่เพื่อนผมคิดยังไงให้คุณมาเป็นคู่หมั้นไอ้เบน”
“นั่นสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน คนอย่างฉันไม่มีวันเป็นอย่างป้านีได้ แค่ครึ่งเดียวก็ทำไม่ได้ ทำไม่ได้!! ไอ้แหวนบ้านี่ก็ถอดไม่ออก บ้าที่สุด!!” อวัศยาพาลโวย แล้วนึกน้อยใจตัวเองเดินปึงปังแยกไปเลย
ooooooo