ตอนที่ 1
ooooooo
ฝนแยกจากชาดากลับมาถึงบ้านก่อนพี่ชาย เธอนั่งคุยกับพ่อเรื่องห้างสรรพสินค้าโก้หรูของสมเกียรติด้วยความตื่นเต้น แต่คนเป็นพ่อไม่ได้ยินดียินร้าย กลับพูดเหมือนปลงว่าทรัพย์สินเงินทองสะสมไปก็เท่านั้น ตายไปก็เอาไปไม่ได้
ฝนแปลกใจ ถามพ่อว่าเดี๋ยวนี้หันหน้าเข้าวัดแล้วหรือ กำนันลอยนิ่งไม่ตอบ พอดีลมกลับเข้ามาในสภาพยับเยิน พ่อถามลูกชายว่าไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ลมบอกปัดว่าไม่มีอะไร คืนนี้จะไปนอนบ้านริมน้ำ ฝนนึกสนุกแกล้งพี่ชายด้วยการขำว่าเขาแอบชอบชาดา
“จะบ้าเหรอ ใครบอกแก”
“ชาดาบอก...แถมยังบอกอีกด้วยว่าพอชาดาไม่เล่นด้วย พี่ลมก็ทำเป็นพาลแกล้งเขา นี่ถ้าชอบเขาจริงๆ ฝนเป็นแม่สื่อให้เอาไหมล่ะ”
“จะบ้าหรือไง ไปกันใหญ่แล้วยายชาดานี่ เจอหน้าเมื่อไหร่ล่ะน่าดู” ลมกระแทกเสียงแล้วเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว
กำนันลอยสงสัย ถามฝนว่าลมชอบชาดาจริงหรือ
“ไม่จริงหรอก ฝนก็พูดไปอย่างนั้นเอง เห็นชอบเป็น ไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ฝนว่าจริงๆแล้วคู่นี้เหมาะสมกันจะตาย”
“นั่นแน่ะ ริจับคู่ให้คนโน้นคนนี้ แล้วตัวเองล่ะ เมื่อไหร่จะมีหลานให้พ่ออุ้ม”
ฝนโดนซะเอง อายหน้าแดงรีบลุกหนีพ่อไปทันที... ส่วนที่บ้านครูช่วง หลังอาหารมื้อเย็นหินกับทรายนั่งหารือกันประสาพี่น้อง หินอยากปลูกบ้านใหม่เพราะเกรงใจครูช่วง ทรายเสนอให้ไปปลูกท้ายไร่ แต่หินยืนยันจะปลูกที่เก่าและสร้างครอบครัวอยู่อย่างสงบ
“แต่เรามีเงินไม่พอนะ”
“พี่พอมีเงินเก็บตอนบวชอยู่บ้าง เราค่อยสร้างไป รอให้ข้าวโพดขายได้ก็น่าจะสร้างเสร็จ ตอนนี้พี่ว่างว่าจะไปหางานทำเสียหน่อย”
“แล้วพี่หินจะไปทำงานอะไรล่ะ”
“ยังไม่รู้เลย พรุ่งนี้ว่าจะไปถามอ่างมันดู”
เช้าขึ้นหินไปหาอ่างตามที่พูด อ่างมีญาติให้เช่าเรือหางยาวขับ หินทำได้ทั้งนั้นขอให้เป็นงานสุจริต แต่เมื่อตกลงกันเรียบร้อยและเริ่มหารายได้วันนี้เลย หินกลับเจอดีโดนพวกเคร่งลอบทำร้ายขณะพาผู้โดยสารสาวสวยนั่งมาด้วย
ฝนนั่นเอง เธอจะเข้าไปในเมืองแต่ต้องมาโดนคนร้ายไล่ยิงถล่มทั้งที่ตัวเองไม่เกี่ยว สองคนเกือบเอาชีวิตไม่รอด หินต้องสละเรือที่ชนตอม่อสะพานจนระเบิดถึงรอดมาได้อย่างทุลักทุเล
หินพาฝนไปที่บ้านอ่างกับหล้า ทรายรู้เรื่องรีบมาทันที อ่างถามหินว่าขับเรือไปกวนบาทาใครหรือเปล่าถึงเกิดเรื่อง
“ไม่ใช่หรอก พวกมันดักฆ่านายหินสองครั้งแล้ว คราวที่แล้วก็บนรถไฟ”
คำพูดของฝนทำให้ทราย อ่าง และหล้ามองหน้าหินด้วยความสงสัย หินจำต้องพูดความจริง แต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่บอกเพราะกลัวทรายเป็นห่วง
“อะไรกันนักหนานะ จะจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน ตอนนี้เหลือกันแค่สองคนมันยังจะตามรังควานอีก นี่จะล้างตระกูลกันเลยหรือ” ทรายโมโห...อ่างเผลอปากว่าอาจเป็นฝีมือกำนันลอยเรื่องหินกับพายุเมื่อห้าปีก่อน ฝนได้ยินก็หน้าเสีย รู้สึกสงสารทราย
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วนะ ฉันว่าไปปรึกษาผู้ใหญ่แสงดีกว่า” อ่างแนะนำ หินเห็นด้วย บอกให้ฝนกลับไปบ้านก่อน ป่านนี้ผัวเธอคงเป็นห่วงแย่แล้ว
ฝนเซ็งที่หินเข้าใจผิดแต่ไม่คิดจะพูดความจริง พอเธอคล้อยหลังอ่างกับหล้าก็ถามหินว่าฝนเป็นใคร หินตอบอย่างมั่นใจว่าเมียใหม่กำนันลอย เห็นกอดกันกลมที่สถานีรถไฟ
หล้าหัวเราะก๊าก ท้วงว่ากำนันลอยมีเมียที่ไหน ตั้งแต่เมียแกตายแกยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ สงสัยจะเป็นลูกสาวคนเล็กของกำนันที่ไปเรียนกรุงเทพฯตั้งแต่เล็กแล้วเพิ่งกลับมาเป็นครูที่นี่
หินเหวอ อายแทบแทรกแผ่นดิน โอดครวญว่าตนจะมีหน้าไปเจอเธออีกไหมเนี่ย?
ooooooo
สมเกียรติพากำนันลอยกับเรืองมาที่บ้านท่านตะวัน แต่ทุกคนก็ยังไม่ได้เห็นใบหน้าแท้จริงของผู้อยู่เบื้องหลังคนนี้เหมือนเดิม
เรืองดีใจที่ท่านตะวันสนับสนุนเงินหาเสียงเลือกตั้งให้ไม่อั้น ขณะที่กำนันลอยรู้สึกคิดหนักเมื่อท่านตะวันจะให้ทำธุรกิจแบบใหม่ จากเดิมซื้อขายรถเถื่อนและค้ามนุษย์ เปลี่ยนเป็นค้าอาวุธ แบงก์ปลอม และยาเสพติด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารวยและมีอำนาจมากขึ้น
ผู้ใหญ่แสงนำอาวุธปืนของจ่าเหล็กมาส่งต่อให้หินเก็บไว้ เผื่อวันหนึ่งอาจต้องใช้ หินรับมรดกตกทอดนี้ของพ่อแต่ไม่คิดเอาไว้ใช้ ที่กลับมาอยู่บ้านเกิดเพราะต้องการทำมาหากินจริงๆ ไม่ได้มาเพื่อรบราฆ่าฟันกับใคร
เมื่อรู้ว่าหินกำลังจะปลูกบ้านเล็กๆอยู่เพราะเกรงใจครูช่วง ผู้ใหญ่แสงอยากตอบแทนบุญคุณจ่าเหล็กพ่อของหินที่เคยช่วยชีวิตไว้ตอนจับโจร จึงให้หินกับน้องสาวไปอยู่บ้านท้ายสวนของตนชั่วคราว บ้านใหม่เสร็จค่อยขยับขยาย
บ้านหลังนี้น่าอยู่มาก เงียบสงบและอากาศดี หล้ากับอ่างมาช่วยสองพี่น้องขนย้ายข้าวของด้วยความเต็มใจ ครูช่วงก็แวะมาดูและถือโอกาสสอนสั่งหินห้ามใจร้อนเหมือนแต่ก่อน อย่ากลับไปจับปืนอีกแม้จะมีปืนของพ่ออยู่ก็ตาม
เคร่งรับคำสั่งจากท่านตะวันให้มาช่วยงานกำนันลอยที่คืนนี้ต้องขนรถเถื่อนข้ามชายแดน แต่ท่าทางสองคนไม่ค่อยถูกชะตากันและกันทำให้งานไม่ราบรื่น กอปรกับมีบุรุษลึกลับใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเข้ามาขัดขวาง กำนันจึงไม่กล้าบุ่มบ่าม สั่งสมุนของตนถอยหนี
การปรากฏตัวของบุรุษลึกลับทำให้ท่านตะวันข้องใจว่าเขาเป็นใคร สั่งให้สมเกียรติกับเคร่งช่วยกันเป็นหูเป็นตา แล้ววันต่อมาเคร่งเดินตลาดเห็นสองหนุ่มแปลกหน้าเข้ามาขายของเร่ จึงเกิดความระแวงว่าในหนึ่งสองคนนี้อาจเป็นบุรุษลึกลับที่กำลังตามหา
เพราะต้องการพิสูจน์ เคร่งกับลูกน้องเข้าไปหาเรื่องทิมกับประดับสองหนุ่มพ่อค้าเร่จนมีปากเสียงกันแทบจะลงมือลงไม้ถ้าไม่ได้ปลัดชัยเข้ามาระงับเหตุ ส่วนสมเกียรติที่ผ่านมาเห็นก็ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้พ่อค้าเร่ เรื่องราวจึงยุติลงได้
ทิมจากที่นี่ไปเสียนาน เขาเป็นเพื่อนกับหินและลม แต่วันนี้เมื่อเจอลมที่ตลาด ทิมถามถึงหินแต่กลับไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากความหงุดหงิดหัวเสีย จนกระทั่งทิมตามไปเจอหินที่วัดจึงได้ทักทายถามทุกข์สุขกันด้วยความคิดถึง
ด้านกำนันลอยหลังจากคืนก่อนทำงานไม่สำเร็จก็เริ่มจะถอดใจ บ่นกับเรืองว่างานแบบนี้ชักจูงเราลึกลงไปทุกที ผ่านมาหลายสิบปีไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น มีแต่ใกล้คุกใกล้โลงเข้าไปทุกที
“ไม่เอาน่าพี่ลอย ฉันไม่เคยเห็นพี่เป็นอย่างนี้มาก่อนเลย”
“ข้ารู้สึกว่ามันกำลังจะเกิดเรื่อง เรื่องใหญ่เสียด้วย”
“เกิดเรื่องอะไรหรือพ่อ” ลมสอดเข้ามา
“เรื่องของข้า เอ็งไปเมาตามประสาไป แล้วนี่ไม่ได้ขับรถให้น้องหรอกรึ”
“น้องไปที่โรงเรียน...นี่อาเรือง ฉันมาคิดๆดูนะ ตอนนี้ฉันว่างๆฉันไปช่วยอาทำงานได้ไหม”
เรืองหัวเราะหึๆ ไม่เชื่อว่าหลานชายพูดจริง แต่ลมยืนยันว่าอยากทำงาน กำนันลอยไม่ค่อยเห็นด้วย กลัวจะทำให้เรืองเสียงานมากกว่า
“พ่อน่ะดูถูกฉันอยู่เรื่อยเลยนะอา ให้ฉันช่วยหาเสียงไปก่อนก็ได้”
“เอาสิ...งั้นไปด้วยกันเลย” เรืองตกลงแล้วเดินนำหลานชายกับลูกน้องชื่อผาดออกไป
ooooooo
หินยังไม่รู้จะทำอาชีพอะไรเพื่อให้มีรายได้เพิ่มนอกจากปลูกพืชผัก จึงหวนกลับมาหาอ่างอีกครั้งเพื่อจะขอขับเรือหางยาว แต่อ่างท้วงด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
“ฉันไม่กลัวหรอก เราไม่ได้มีอะไรกับใคร แต่ถ้ามันมาจริงๆก็ดี จะได้รู้กันไปเลย”
ในเมื่อหินไม่กลัว อ่างจึงพาเขามาหาเจ้าของเรือคนเดิม แต่กว่าสองคนจะช่วยกันอ้อนวอนจนอีกฝ่ายใจอ่อนก็เล่นเอาน้ำลายแทบแห้งคอ
“ก็ได้ พรุ่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเช่าเรือไปแถวแม่น้ำติดฝั่งโน้น เอ็งไปทั้งคู่นั่นแหละ ขับคนนึง นายท้ายคนนึง”
เมื่อได้งานแน่นอนแล้ว สองคนกลับมาที่ท่ารถสองแถว อ่างเตรียมทำหน้าที่โชเฟอร์แต่ไม่วายมาสะกิดบอกหินให้ดูฝนที่กำลังเดินตรงมา
หินทำหน้าไม่ถูก ประดักประเดิดเขินอายที่เข้าใจว่าฝนเป็นเมียกำนันลอย เจอหน้ากันคราวนี้เขาจึงขอโทษเธอด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ แต่ฝนไม่ถือสา บอกว่าเรื่องแบบนี้เข้าใจผิดกันได้
“เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมช่วยถือของไปส่งไหมครับ”
ฝนทำท่าจะตกลงแต่กำนันลอยส่งเสียงเข้ามาเสียก่อน “เห็นจะไม่รบกวนหรอกไอ้หิน”
กำนันลอยยังโกรธเคืองเรื่องในอดีตที่พายุถูกยิงตาย จึงไม่ต้องการให้ฝนพูดคุยกับหิน สั่งให้ลูกสาวกลับบ้านทั้งที่ท่าทางเธออาลัยอาวรณ์หินไม่น้อย
ฝ่ายลมที่ออกไปหาเสียงกับเรืองแล้วได้เจอสมเกียรติพ่อของชาดา สมเกียรติเรียกเรืองมาคุยในห้างสรรพสินค้า ทำให้ลมได้เจอชาดาและมีปากเสียงกันเล็กน้อยก่อนที่ลมจะตามเรืองเข้ามาในห้องทำงานของสมเกียรติ
นวลนิดเลขาสาวของสมเกียรติเห็นลมก็รู้สึกพึงพอใจ แต่ลมไม่ได้สนใจอะไรนอกจากอยากได้งานทำ แล้วเรืองก็ช่วยพูดกับสมเกียรติจนลมได้ทำงานที่อู่รถ ลมดีใจและเยาะเย้ยชาดาที่ดูถูกตนไว้ ทำให้หญิงสาวยิ่งชังน้ำหน้าเขามากขึ้น แต่พอเจอฝนที่ตลาด ฝนกลับส่งเสริมให้ชาดากับลมเป็นแฟนกัน
ชาดาไม่เล่นด้วย เปลี่ยนเรื่องชวนฝนไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้า และพรุ่งนี้จะพาไปไหว้พระธาตุกลางน้ำเพื่อขอพร ฝนตกลงทันทีเพราะตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ไหว้พระให้เป็นสิริมงคล
ตกเย็นอ่างตามหินกลับมาที่บ้าน หล้าได้ยินอ่างแซวหินว่ามีแฟนก็อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นใคร หินไม่พูดชื่อแต่บอกว่าต่อไปนี้คงไม่ได้เจอเธอแล้วเพราะพ่อเธอหวงมาก
“แล้วนี่ทรายอยู่ไหน” หินถามหล้า
“ทำกับข้าวอยู่ในครัวจ้ะ”
หินพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปในครัว เห็นทิมช่วยทรายทำกับข้าวด้วยท่าทางก้อร่อก้อติก ชิมกับข้าวแล้วชมฝีมือทรายไม่หยุดปาก พอหันมาเห็นหินเข้าทิมถึงกับสะดุ้งโหยง ถามว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ก็มาทันเอ็งกำลังจะเทครัวข้านั่นแหละ” หินพูดหน้าเข้ม ทิมยิ้มแหยๆขณะที่ทรายหัวเราะขำขัน
ได้เวลาล้อมวงกินข้าว หินนั่งแทรกกลางระหว่างทิมกับทราย ทิมท่าทางอึดอัดแต่ก็มองทรายตลอดเวลา เขาตักแกงยื่นผ่านหน้าหินไปให้ทราย และเป็นอย่างนี้หลายครั้งจนหินเริ่มเซ็ง บ่นกระปอดกระแปด
“นี่ตกลงเอ็งจะมากินข้าวหรือมาป้อนข้าวน้องข้าวะ”
“ป้อนข้าว เอ๊ย กินข้าวสิ” ทิมยิ้มแหยๆแล้วก้มหน้าก้มตาตักข้าวกิน
อ่างนึกได้ชวนหินคุยเรื่องงานที่รับไว้ “พี่หิน พรุ่งนี้น้าฉันบอกให้ไปแต่เช้ามืดเลยนะ”
“ทำไมรีบขนาดนั้น”
“ต้องไปทำความสะอาดเรือให้เรียบร้อยเพราะคนที่เช่าไปเป็นถึง ส.ส.เชียวนะ”
ทิมสนใจขึ้นมาทันที “ส.ส.เลยหรือ”
“ครับ เห็นว่าจะไปไหว้พระธาตุกลางน้ำกับเมียเป็นการส่วนตัว”
“ได้สิ” หินตอบรับโดยดีเพราะไม่เกี่ยงงานอยู่แล้ว...
ทิมเหมือนยังติดใจเรื่อง ส.ส. นิ่งเงียบไปอย่างครุ่นคิด
ooooooo