ตอนที่ 1
ooooooo
หินมางานเผาศพพี่ชายกับพี่สะใภ้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทรายขอให้พี่ทั้งสองไปสู่สุคติ เณรหนึ่งขออุทิศบุญกุศลในการบวชของตนให้โยมพ่อกับโยมแม่ ขณะที่หินกล้ำกลืนน้ำตาบอกว่า
“พี่ดินไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลน้องกับหลานเอง”
หลังเสร็จพิธีเผาศพ หินกับญาติและคนสนิทพากันมากราบหลวงพ่อ
“ดูเอ็งเปลี่ยนไปเยอะนะ ท่าทางเย็นลง สุขุมขึ้น” หลวงพ่อทักหิน
“ครับ 5 ปีที่ผ่านมาทำให้ผมเข้าใจอะไรได้หลายๆอย่าง เณรหนึ่งโตเร็วนะ เมื่อก่อนยังอุ้มอยู่เลยดูสิราศีผ้าเหลืองจับช่างอิ่มบุญเหลือเกิน”
“ฉันคิดว่าฉันคงจะอยู่ในผ้าเหลืองไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่นั่นแหละอาหิน”
“อ้าว...แล้วเรื่องการเรียนล่ะเณร” ทรายท้วง
“เรียนทางพระก็ได้นี่ ได้ความรู้เหมือนกัน แถมยังดีกว่าตรงที่มีธรรมะคอยบ่มนิสัยด้วย”
หินพยักหน้าเห็นด้วยกับที่หลวงพ่อพูด หันมาบอกน้องสาวว่า
“ดีแล้วล่ะทราย ปล่อยให้เณรเขาทำตามใจไปเถอะ อาขออนุโมทนาด้วยนะ พ่อแม่ของเณรก็จะได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์”
“มาเที่ยวนี้จะมาทำอะไรล่ะ” หลวงพ่อถาม
“ก็คงปลูกบ้านใหม่ ที่ดินที่มีอยู่ก็จะทำไร่ บางทีก็จะหางานรับจ้างเล็กๆน้อยๆทำไปด้วยครับ”
“อืม...เข้าท่าๆ ขอให้เอ็งสมปรารถนานะ” หลวงพ่ออวยพร...ทุกคนยิ้มแย้มชื่นชมกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของหิน
ooooooo
เมื่อกลับถึงบ้าน กำนันลอยรู้จากลูกสาวคนสวยว่ามีคนตีกันบนรถไฟและคนโดนตีเพิ่งสึกจากพระ กำนันนึกถึงหินทันที แต่ฟังจากฝนเล่าว่านายหินคนนี้ซื่อบื้อมาก จึงเลิกสนใจเพราะคิดว่าไม่น่าใช่คนใน หมู่บ้านนี้ พอเรืองเข้ามาเห็นฝนก็ทักทายกันประสาอาหลานที่ไม่ได้เจอกันนาน
เรือง...น้องชายกำนันลอยกำลังระดมหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่ตัวเองลงสมัคร เขารายงานพี่ชายว่าช่วงนี้พอมีลุ้น น่าจะแซงครูช่วงได้ ฝนการันตีว่าอาของตนต้องได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อสักครู่นั่งรถมาเห็นมีรูปอาติดทุกเสาไฟฟ้า เรืองหัวเราะชอบใจ บอกว่าถ้าได้จะเลี้ยงฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืนเลย
แต่คนที่กำลังหัวเสียในเวลาเดียวกันนี้คือท่านตะวัน เขารู้ว่าเคร่งกับสมุนไม่สามารถจัดการหินได้เพราะลูกสาวกำนันลอยเข้ามาช่วย จึงสั่งให้รอบคอบมากกว่านี้และอย่าทำเสียเรื่อง
สมเกียรติมากับเคร่งรีบรับปาก ขณะที่เคร่งนิ่งเงียบ รู้สึกเสียหน้าเพราะทำงานพลาด สมเกียรติเขม่นและไม่ค่อยลงรอยกับหมอนี่อยู่แล้ว จึงย่ามใจว่าเสือเคร่งคนนี้ฝีมือไม่เท่าไหร่ แค่ผู้หญิงยังสู้ไม่ได้
กลับมาถึงห้างสรรพสินค้าของตนได้ไม่นาน สมเกียรติมีเรื่องให้หงุดหงิด เพราะชาดาลูกสาวคนเดียวมาขอเปลี่ยนเครื่องยนต์รถใหม่ ทั้งที่เขาอนุญาตให้ซื้อรถใหม่แทนคันเก่า แต่เธอไม่ยอม บอกว่ารักรถคันนี้มากเพราะเป็นของแม่ อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึก
“ตามใจ เอารถไปทิ้งไว้ที่อู่ เดี๋ยวป๊าจะจัดการให้ หมดธุระแล้วใช่ไหม ป๊าจะออกไปข้างนอก แล้วไม่จำเป็นก็อย่าพูดเรื่องแม่ขึ้นมาอีก”
สมเกียรติเดินหน้าตึงออกไป ทิ้งให้ชาดายืนอึ้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงเกลียดแม่นัก
ooooooo
หินกลับมาบ้านเกิดแต่ยังไม่มีที่ซุกหัวนอนเพราะบ้านพี่ชายโดนคนร้ายเผาวอดทั้งหลัง หินจึงต้องไปอาศัยบ้านครูช่วงเหมือนกับทราย
แต่การกลับมาครั้งนี้หินต้องการลงหลักปักฐานที่บ้านเกิดด้วยการปลูกบ้านใหม่ในที่ดินเดิมของครอบครัว และปลูกพืชผักพร้อมกับหาอาชีพเสริมให้มีรายได้เพื่อเลี้ยงตัวและน้องสาว
ทรายกำลังจะสอบบรรจุครูในอำเภอ หินอวยพรให้น้องได้ทำงานที่รัก ส่วนเรื่องคดีของพี่ชาย ปลัดชัยบอกหินว่าน่าจะเป็นการปล้น เพราะคนที่ดินยิงต่อสู้เป็นพวกผู้ร้ายก่อคดีมานับไม่ถ้วน
“เดี๋ยวนี้บ้านเรามีแบบนี้แล้วหรือครับ”
“มีมากกว่านั้นอีก ตอนนี้เสี่ยสมเกียรติกับกำนันลอยมีอิทธิพลมากมาย ว่ากันว่าพวกนี้ค้าของผิดกฎหมายด้วย”
“แล้วเราเอาผิดกับพวกเขาไม่ได้เหรอ”
“เอาผิดอะไร พวกมันย้ายผมออกนอกพื้นที่ไปรอบหนึ่งแล้ว ขืนไปต่อกรกับมัน สงสัยคราวนี้คงแป้กไม่ได้ผุดได้เกิดแน่...ไม่ดีกว่า ผมอยากเกษียณที่นี่ เอาล่ะ ผมไปก่อนนะ”
ปลัดชัยผละไป หินมองตามแล้วคิดว่าปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ไม่ต้องการแก้แค้นเอาคืนใครทั้งนั้น
นอกจากปลัดชัยและครูช่วงแล้วหินยังมีผู้ใหญ่แสงอีกคนที่คอยช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ แต่กับสองพ่อลูก กำนันลอยและลม หินยังตกเป็นจำเลยในสายตาพวกเขาเรื่องที่พายุถูกยิงตาย
วันที่ทรายเข้าเมืองเพื่อไปสอบบรรจุครู เธอโดนไอ้ผาดลูกน้องกำนันลอยแทะโลมด้วยวาจาหยาบคายและอาจเลยเถิดถึงลวนลามถ้าไม่ได้ลมเข้ามาช่วยไว้
ถึงลมจะเป็นลูกชายกำนันลอยแต่ผาดก็ไม่กลัวเกรง มันประกาศชัดว่าเป็นลูกน้องของพ่อ ไม่ได้เป็นลูกน้องของลม ทำไมต้องเชื่อฟัง แต่พอลมเตะต่อยสั่งสอนไปชุดใหญ่ ผาดสู้ไม่ได้ พูดอวดเก่งทิ้งท้ายไว้ก่อนหนีไปพร้อมสมุน
“กูเห็นมึงเป็นลูกกำนันลอยนะ ไม่งั้นสวย”
ทรายขอบคุณลมที่ช่วยเหลือ แต่ลมตอบกลับมาจนเธอชะงักหน้าเจื่อน
“ฉันช่วยเพราะสงสารเธอ แต่เรื่องของไอ้หินกับฉันมันยังไม่จบ ฝากไปบอกมันด้วยว่าฉันอยากพบมัน ตอนเย็นให้ไปเจอที่สะพาน ถ้ามันไม่มาบอกให้มันเอาผ้าถุงมานุ่งซะ”
ooooooo
สมเกียรติมาพบกำนันลอยกับเรืองที่โรงไม้เพราะวันนี้มีไม้ชุดใหม่เข้ามา กำนันรู้ราคาแล้วสงสัยว่าทำไมแพงขึ้น เรืองบอกว่างวดนี้ต้องเสียค่าด่านให้พวกชนกลุ่มน้อย พวกมันกำลังรบกันจึงอยากเอาเงินไปซื้ออาวุธ
“ซื้อไปทำไมอาวุธ ซื้อไปฆ่าแกงกันเปล่าๆ ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลย”
“มันไม่ได้ประโยชน์ แต่เราได้นี่ มันฆ่ากันก็เรื่องของมัน ส่วนเงินก็เข้ากระเป๋าเรา”
“ใช่แล้ว เรืองพูดถูก ไม่เห็นต้องไปสนพวกมันเลย” สมเกียรติแทรกขึ้นมา...แล้วทำทีถามถึงลูกสาวกำนันที่รู้ว่าเพิ่งกลับมา ก่อนพูดดักคอว่าคงไม่กระเทือนถึงธุรกิจของเรา
“ลูกสาวผมไม่มายุ่งวุ่นวายอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
“กำนันพูดอย่างนั้นผมก็เบาใจ อ้อ พรุ่งนี้นายใหญ่เรียกเข้าไปคุยด้วย”
กำนันลอยสีหน้าไม่สู้ดี แต่เรืองกลับยิ้มร่าอยากไปด้วย สมเกียรติตกลงทันทีเพราะนายใหญ่กำลังอยากเจอว่าที่นายกเทศมนตรีคนใหม่อยู่พอดี
บ่ายวันเดียวกัน ฝนเซ้าซี้ลมให้พาไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าโดยไม่รู้ว่าเป็นของเสี่ยสมเกียรติพ่อของชาดาเพื่อนรัก กระทั่งสองสาวได้เจอกัน จึงชักชวนไปนั่งคุย ลมชักสีหน้าเบื่อหน่าย ยิ่งเห็นชาดาอวดรวยก็ยิ่งเซ็ง
เย็นนั้นทรายกลับมาบอกหินว่าลมนัดพบที่สะพาน เธอกลัวว่าลมจะลวงไปทำร้าย แต่หินเชื่อว่าลมไม่ทำอย่างนั้น จึงยอมไปพบเพียงคนเดียว
เมื่อสองหนุ่มประจันหน้ากัน ลมไม่ทำอะไรหิน แต่ต้องการให้เขาออกไปจากหมู่บ้านแล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก หินไม่ยอม จึงเกิดการชกต่อยกันจนปากแตก ก่อนที่อีกครู่ต่อมาจะยุติลงเพราะเสียงปืนของผู้ใหญ่แสงที่ยิงขึ้นฟ้า
ผู้ใหญ่แสงพาหินกลับบ้านครูช่วง บ่นให้ทุกคนฟังว่าลมร้ายมาก นึกไม่ถึงว่าจะไล่หินไปอยู่ที่อื่น หินเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลมแค้นตนถึงขนาดอยู่ร่วมตำบลเดียวกันไม่ได้
ครูช่วงตั้งข้อสังเกตว่าแปลกมาก เรื่องมันจบไปนานแล้วยังมาแค้นกันอยู่ได้ หรือว่ามีเรื่องอื่นอีก
“คงไม่หรอกครับ แต่ถึงยังไงผมก็จะอยู่ของผมแบบนี้...ผู้ใหญ่ครับ เรื่องคดีพี่ชายผมไปถึงไหนแล้ว”
“ยังเลย แต่ว่าที่แน่ๆ ไม่ได้เป็นฝีมือของกำนันลอยจริงๆนั่นแหละ”
“แล้วมันจะเป็นใครไปได้”
“ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันมุ่งเอาชีวิตของดินและครอบครัว”
หินสะดุดกึก นึกถึงเหตุการณ์บนรถไฟที่เกิดขึ้นกับตัวเอง...หรือมันจะเป็นพวกเดียวกับคนที่ฆ่าดิน และมันต้องการอะไรกันแน่?