ตอนที่ 2
“คนในค่ายทหารมีความสนิทสนมกัน อยู่ๆมีลูกโตขนาดนี้โผล่มาต้องเป็นที่สงสัยแน่นอน กระหม่อมรู้ว่าที่พระองค์ไม่ทรงยอมเพราะพระองค์ไม่รักตัวเองและเพราะคิดว่าไม่มีใครรักพระองค์”
“พูดอะไรของนาย”
“เพราะถ้าพระองค์ทรงรักตัวเอง ทรงรู้ว่ามีประชาชนมากมายรักและรอให้พระองค์กลับไปอย่างปลอดภัย พระองค์จะทรงยอมแต่งงานเพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง การแต่งงานเป็นแค่การเล่นละคร เป็นฉากบังหน้าไม่ได้จริงจังอะไร ถ้าแค่นี้ทำเพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ไม่ได้ก็ควรสละตำแหน่งองค์รัชทายาทให้ผู้อื่น”
“มันจะมากไปแล้วนะ”
“กระหม่อมจำเป็นต้องพูดตรงๆเพราะได้รับมอบหมายภารกิจนี้ พูดไปอาจระคายเคืองแต่มันเป็นความจริง”
“ได้...เรายอมปลอมตัวเป็นสามัญชนและแต่งงานก็ได้แต่เราจะอยู่ไม่นาน ถ้ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้หรือคนผิดยังไม่ปรากฏตัวออกมาตามแผน เราจะกลับประเทศของเราทันที!”
ooooooo
คิงเฮนรี่เห็นว่าดวินกล่อมเจ้าหญิงอลิซได้จึงทรงตัดสินพระทัยให้เขาแต่งงานกับหลานสาวคนโปรดเพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครปกปิดความลับและปราบพยศอลิซได้ดีไปกว่านาวิกโยธินหนุ่ม
ศักดิ์ชายคิดไม่ต่างกันและอาสาไปเจรจาให้แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่ายเมื่อดวินปฏิเสธ
“ในกองทัพต้องมีคนที่ดีและเหมาะสมมากกว่าผมแน่นอน ให้เขาไปแต่งกับคนอื่นเถอะครับ”
“แต่คิงเฮนรี่ทรงเลือกคุณ”
“ท่านอาจจะไม่รู้จักทหารคนอื่น ถ้านายพามาแนะนำให้พระองค์รู้จัก พระองค์ต้องเลือกคนอื่นแน่ๆครับนาย”
“ไม่...เรามีเวลาไม่มากและผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้มันกระจายไปมากกว่านี้ พอเราจับคนร้ายที่ลอบฆ่าเจ้าหญิงได้ภารกิจนี้ก็ถือว่าจบสิ้น คุณจะได้เป็นอิสระ ภารกิจนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เจ้าหญิงเป็นถึงองค์รัชทายาทยังยอมเพื่อประชาชนของท่าน คุณควรภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนในฐานะชายชาติทหารและเป็นผู้ถูกเลือกให้รับเกียรติทำภารกิจสำคัญครั้งนี้ ผมจะให้เวลาคุณคิดหนึ่งคืน...ลองทบทวนดูดีๆ...”
ขณะที่คิงเฮนรี่และเจ้าหญิงอลิซตัวจริงเตรียมแผนซ่อนตัวในเมืองไทย เจ้าหญิงเคทได้แต่นั่งเศร้าคิดถึงอดีตวัยเด็กที่เธอเติบโตมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว เจ้าฟ้าชายอังเดรพ่อแท้ๆไม่เคยรักใคร่ไยดีแต่กลับทุ่มเทความรักให้เจ้าฟ้าหญิงโมนาชายาใหม่และเจ้าชายอลันน้องชายต่างมารดาของเธอ
เคทพาตัวเองดำดิ่งถึงอดีตอันขมขื่น จำได้ดีถึงคำปลอบใจของเจ้าฟ้าหญิงโมนาในฐานะแม่เลี้ยงคนใหม่