เรื่องย่อละคร
เหม บุญญาฉัตรพงษ์ (นพพล โกมารชุน) อัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจผลิตรองเท้าบริษัท เหมทอง จำกัด ภายใต้แบรนด์ดัง "มนตรา" มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมวัต(ธัญนพ ตระกูลโชคดี) จึงหวังจะมอบกิจการทุกอย่างให้สืบทอด แต่เหมวัตกลับไปรักใคร่ชอบพอกับอุษา(สลิตา กลิ่นจันทร์) ที่เป็นเพียงลูกกำพร้าที่ยากจน คุณเหมกีดกันทุกวิถีทางจนเหมวัตต้องพาอุษาหนีหายไป คุณเหมโกรธมากถึงขั้นตัดขาดเหมวัตจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยไม่คิดตามหา และคิดจะยกมรดกพร้อมกิจการทั้งหมดให้แก่ลูกบุญธรรมที่ขอมาเลี้ยงก่อนเหมวัตเกิด 3 คน นั่นคือ...
1. ประกิต(กรุณพล เทียนสุวรรณ) หรือ เสี่ยหนึ่ง ต่อมาแต่งงานกับผกา(ชนกวนันท์ รักชีพ)
มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ผาณิตา หรือน้ำตาล (พิจักขณา วงศารัตนศิลป์)
2. ปราการ(ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) หรือ เสี่ยสอง ต่อมาแต่งงานกับอรทัย(เสียชีวิต)
มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ลาวัลย์ (ชนกสุดา รักษนาเวศ)
3. ทัศนัย(อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หรือ เสี่ยสาม ต่อมาแต่งงานกับสมร(ชไมพร สิทธิวรนันท์) มีลูกชาย 1 คน ชื่อ ทศนาถ (ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง)
ทั้งสามครอบครัวต่างแก่งแย่งแข่งขันเพื่อช่วงชิงทรัพย์สมบัติของเหม แต่เหมก็เขี้ยวลากดินพอที่จะไม่ยกมรดกให้กับลูกบุญธรรมง่ายๆ ส่วน มนตรา(คาร่า พลสิทธิ์) ภรรยาของเหมก็มีอาการเลอะเลือนหลงๆลืมๆเพราะเสียใจที่เหมวัตหนีหายไป
เหมวัตกับอุษาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างยากลำบากในชุมชนแออัด ในวันที่อุษาคลอดลูก เหมวัตรู้ข่าวด้วยความดีใจรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน แต่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตก่อนจะได้พบหน้าลูกชาย ส่วนอุษาเลือดออกมากจนช็อกและเสียชีวิต ทิ้งลูกน้อยไว้กับ ชาญ(วินัย ไกรบุตร) หนุ่มพิการข้างบ้านที่นับถือกันเหมือนพี่น้อง ชาญตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่า "เหมันต์" (พงศกร เมตตาริกานนท์)
ชาญเคยมีชีวิตที่รุ่งโรจน์เป็นนักมวยอาชีพที่ผ่านสังเวียนชนะมาแล้วเกือบทุกเวที แต่โชคชะตาพลิกผันเพราะโดนคนเมาชนแล้วหนีจนพิการนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต แต่ชาญก็เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมจำนนกับอุปสรรค เขาฝึกซ่อมรองเท้ากับช่างฝีมือดีจนสามารถนำมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตได้ แถมยังเป็นคนมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปถึงคนในชุมชนสลัมจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ความดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นของชาญกลายเป็นต้นแบบที่ดีงามให้กับเหมันต์ ลูกชายต่างสายเลือดที่ชาญรักสุดหัวใจ !!
เหมันต์เป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง เอาเวลาหลังเลิกเรียนไปรับจ้างทำงานสารพัด ทำให้เขาได้รับความรู้มากมายจากวิชาชีพเหล่านั้นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหมันต์อยากเรียนให้จบมหาวิทยาลัยเพื่อออกมาเป็นนักกิจกรรมบำบัด แต่ความฝันนั้นต้องสะดุดลงเมื่อชาญรับเด็กทารกที่ถูกแม่ใจร้ายทิ้งไว้หน้าบ้านมาอุปการะ เหมันต์เกิดความสงสารจึงเต็มใจเลี้ยงเด็กคนนี้เสมือนน้องชายร่วมสายโลหิต และช่วยพ่อตั้งชื่อว่า "หริทธ์" (ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์)
วันหนึ่ง เหมันต์ไปช่วยพ่อซ่อมรองเท้าและได้พบกับผาณิตา หรือน้ำตาล หญิงสาวที่จะนำพาให้เขาได้ไปพบกับครอบครัวที่แท้จริง น้ำตาล(ลูกเสี่ยหนึ่ง)หกล้มส้นรองเท้าพลิก เหมันต์จึงซ่อมให้ด้วยวิธีเย็บมือ และด้วยเทคนิคการเย็บรองเท้าที่หาคนทำได้น้อยมากนี้เอง ทำให้เหมต้องการตัวเหมันต์มาทำงานให้บริษัทเหมทอง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออยากให้เหมันต์ซ่อมรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมเก็บไว้เสมือนเป็นตัวแทนของลูกชายที่หายสาบสูญไป เหมจึงให้น้ำตาลไปชักชวนเหมันต์มาทำงาน แต่เพราะทศนาถไปก่อเรื่องทำร้ายชาญและหริทธ์ ทำให้สองครอบครัวเกิดความบางหมางอย่างรุนแรง
เหมันต์ต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อชาญป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ต้องรอคิวบริจาคไต หนำซ้ำหริทธ์ยังก่อเรื่องไปช่วยลาวัลย์จากแก๊งขนของหนีภาษี เป็นเหตุให้สินค้าที่ลักลอบมาโดนตำรวจยึดไปหมดมิตร(พศิน เรื่องวุฒิ)หัวหน้าแก๊ง โกรธแค้นหริทธ์เลยไล่ล่าหริทธ์ถึงบ้าน และขู่จะเอาชีวิตถ้าหริทธ์ไม่ชดใช้เงินเหมันต์ยอมเซ็นชื่อเป็นลูกหนี้และรับปากจะหาเงินมาคืนให้ ถ้าเหมันต์เบี้ยว หริทธ์จะกลายเป็นศพทันที เมื่อหัวหน้าแก๊งไปแล้ว เหมันต์เจอลาวัลย์หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ลาวัลย์ได้เห็นความเสียสละของเหมันต์จึงหลงรักเหมันต์จับใจ ขณะที่หริทธ์ก็แอบชอบลาวัลย์เช่นกัน
น้ำตาลเมื่อรู้ว่าเหมันต์ติดหนี้นักเลง จึงยื่นข้อเสนอ ใช้หนี้ให้ แต่เหมันต์ปฏิเสธเพราะไม่ชอบน้ำตาลและครอบครัวที่ชอบทำตัวเหนือกฎหมายและใช้เงินฟาดหัวคนอื่น น้ำตาลเหม็นขี้หน้าความเป็นคนโลกสวยของเหมันต์จึงเลิกง้อ โชคชะตาทำให้เหมันต์ได้พบกับน้ำตาลอีกหลายครั้ง
ในงานเลี้ยงอายุครบหกรอบของคุณเหม น้ำตาลได้ขอให้เหมันต์มาช่วยงานฝ่ายจัดสถานที่ซึ่งเหมันต์ทำได้ดีมาก ที่นี่เหมันต์ได้พบกับคุณเหมเป็นครั้งแรก คุณเหมรู้สึกถูกชะตาเหมันต์ในทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันดีนัก ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน นั่นคือ หริทธ์ได้มาร่วมงานกับแก๊งเพื่อนของลาวัลย์ เหมันต์ไม่รู้ว่าหริทธ์ปกปิดฐานะจึงทักทายหริทธ์ ทำให้เพื่อนไฮโซของลาวัลย์ดูถูกหริทธ์จนอับอายออกจากงานไป เหมันต์ต้องรีบตามไปปลอบน้องชาย
คุณเหมสนใจประวัติของเหมันต์มาก ขอให้น้ำตาลตามเหมันต์มาพบ แต่ชาญเกิดป่วยหนัก เหมันต์จึงพลาดนัด จนกระทั่งคุณเหมรอไม่ไหวขอให้น้ำตาลพาไปหาเหมันต์ที่บ้าน และได้เห็นรูปของแม่เหมันต์ คุณเหมจำได้ว่าเป็นเมียจนๆของเหมวัต ถึงกับช็อก คุณเหมรีบกลับทันทีโดยอ้างกับน้ำตาลว่าไม่สบายกะทันหัน หลังจากนั้นคุณเหมก็หาทางคุยกับชาญ ตอนแรกชาญยืนยันว่าเหมันต์เป็นลูกตน แต่เมื่อรู้ตัวว่าโรคไตที่เป็นอยู่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้เหมฟัง และมอบกำไลข้อเท้าของเหมวัตคืนให้กับเหม
เหมเห็นกำไลซึ่งตนเคยซื้อให้เหมวัตตอนเป็นเด็ก จึงเชื่อว่าเหมันต์คือลูกชายของเหมวัตจริงๆ ขณะเดียวกัน เสี่ยสองกับเสี่ยสามก็มีปากเสียงกันรุนแรงเรื่องผลประโยชน์ในบริษัท ส่วนเสี่ยหนึ่งก็ถูกภรรยาครอบงำทุกอย่างจนเบื่อหน่าย แอบไปมีเมียน้อย น้ำตาลต้องช่วยปกปิดเพื่อไม่ให้ผกาและเหมรู้ ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวทำให้คุณเหมตัดสินใจจะรับเอาเหมันต์กลับเข้ามาในตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ แต่เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมันต์ คุณเหมจึงขอให้กมล(พัฒนะ พันธุ์เทวะ)เก็บเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์เป็นความลับ ที่สำคัญคุณเหมต้องการจะทดสอบเหมันต์ว่าเป็นคนดี คู่ควรกับการเป็นทายาทของบุญญาฉัตรพงษ์หรือไม่
เหมไม่อยากให้เหมันต์เกี่ยวข้องกับชาญอีก เพราะอยากล้างอดีตที่ต่ำต้อยของเหมันต์ เหมจึงแอบไปพบชาญและมอบเงินก้อนโตให้แลกกับการให้ชาญไปเสียจากเหมันต์ ชาญไล่เหมออกจากบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่โรคไตของชาญกำเริบหนักขึ้น ชาญไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก จึงหนีหายไป และทิ้งจดหมายไว้ว่า วันที่เหมันต์ทำงานประสบความสำเร็จ พ่อจะกลับมา
เหมันต์จึงทำงานในบริษัทของปู่อย่างแข็งขัน เพื่อรอวันที่จะได้พบกับพ่อ ขณะที่หริทธ์ก็ประจบหัวหน้าแผนกไปทั่ว โดยเฉพาะกับคุณเหมที่หริทธ์หาทางเข้าใกล้ทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งคุณเหมก็ทำเป็นเมตตาเอ็นดู ทำให้หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่า คุณเหมชื่นชมตนแต่จริงๆแล้วคุณเหมต้องการหลอกถามถึงเหมันต์ ที่นับวันคุณเหมจะรู้สึกรักและผูกพันกับหลานชายมากขึ้นทุกที จนในที่สุด คุณเหมขอให้เหมันต์มาเป็นเลขาส่วนตัว โดยให้เข้าพักในคฤหาสน์บุญญาฉัตรพงษ์ หริทธ์อิจฉาพี่ชายมาก อยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต
เหมันต์ได้พบกับมนตราผู้เป็นย่าที่มีอาการเลอะเลือน มนตราทักเหมันต์ว่าเป็นเหมวัตลูกชาย ซึ่งคุณเหมก็ขอให้เหมันต์ช่วยเออออไปเพื่อความสุขของมนตราที่เฝ้าคิดถึงลูกชายตั้งแต่จากกันไป เหมพยายามสอนเทคนิคทำธุรกิจแบบมีเล่ห์เหลี่ยม เอาชนะคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก แต่เหมันต์กลับไม่เห็นด้วยยังคงยึดมั่นทำธุรกิจแบบมีคุณธรรม ไม่ยอมทำผิดเพื่อผลประโยชน์ ทำให้เหมขัดใจ แต่เหมก็ค่อยๆซึมซับความดีของหลานชายอย่างไม่รู้ตัว
ความผูกพันของคุณเหมกับเหมันต์ทำให้ เสี่ยสองรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า เหมประกาศให้น้ำตาลหมั้นกับทศนาถ เพราะเสี่ยสองต้องการให้ลาวัลย์ลูกสาวลงเอยกับทศนาถมากกว่า เสี่ยสองจึงคิดแผนการที่จะทำให้น้ำตาลเสื่อมเสียโดยการล่อลวงไป แล้วจัดฉากว่าน้ำตาลตกเป็นเมียของผู้ร้ายแล้ว (เสี่ยสองไม่ได้ต้องการให้ข่มขืนจริง) เมื่อแผนการเริ่มขึ้น....เสี่ยสองให้สมุนโทรไปขู่น้ำตาลว่าจะทำร้ายคุณเหม และขอให้น้ำตาลไปเจรจาที่ที่นัดหมายโดยห้ามแจ้งความ แต่เหมันต์รู้เรื่องเข้า จึงขอตามไปคุ้มกันน้ำตาล สมุนเห็นว่าผิดแผนจึงทำร้ายเหมันต์จนสลบก่อนจะหนีไป
เสี่ยสองรีบพาทศนาถตามไปตามแผน และก็ได้พบว่าน้ำตาลกำลังกอดอยู่กับเหมันต์ ทศนาถเสียหน้าและโกรธมากส่วนเสี่ยหนึ่งกับคุณผกาก็ต้องการแจ้งความเหมันต์ข้อหาล่อลวง แต่คุณเหมกลับปกป้องเหมันต์ และเอาตัวเองเข้ารับรองว่าเหมันต์ไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้ ซึ่งยิ่งทำให้เสี่ยทั้งสามโกรธมาก เหมันต์ขอไปจากบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ ระหว่างโต้เถียงกันมนตราเข้ามาร้องไห้ ไม่ยอมให้เหมันต์ไป คุณเหมจึงได้ทีอ้างความจำเป็นที่จะให้เหมันต์ได้อยู่ในบ้านต่อไป