ตอนที่ 14
วันพุธกับธงชาติกลับบ้านหลังช่วยขโมยเหรียญทองเงินปากผีคืนเลี้ยงสำเร็จ สองหนุ่มกลับถึงบ้านในสภาพเหนื่อยอ่อนและสะบักสะบอม โดยเฉพาะรายแรกที่ใช้พลังไม่น้อยเพื่อต้านทานอาคมของจูหยวน
รุ้งแก้วกับพินทุอรโล่งใจมาก แต่ไม่วายกังวลเพราะแม้สองหนุ่มจะปลอดภัย แต่อุไรกลับหายตัวไปอย่าง
ไร้ร่องรอย วันพุธเป็นห่วงแม่บ้านเก่าแก่ไม่แพ้คนอื่น แต่เชื่อว่าอีกฝ่ายน่าจะไปหาเลี้ยงที่บ้านร้าง จึงรับปากสองสาวจะไปตามกลับบ้านในวันพรุ่งนี้
อุไรไม่รอให้วันพุธไปตาม กลับถึงบ้านเช้าวันต่อมา พร้อมบอกเหตุผลอย่างไม่ปิดบังว่าแวะหาเลี้ยงที่บ้านร้าง เพราะเป็นห่วงวันพุธกับธงชาติที่บุกศาลเจ้าของจูหยวน
เสริมมองหน้าคนโน้นคนนี้งงๆ ก่อนถอนใจโล่งอก เมื่อทุกคนถึงบ้านอย่างไร้รอยขีดข่วน แต่อดตำหนิทุกคนไม่ได้ โดยเฉพาะรุ้งแก้วกับพินทุอรที่ไม่ยอมบอกเรื่องวุ่นวายตั้งแต่เมื่อคืน
วันพุธขอโทษเสริมแทนทุกคนและขอตัวไปทำงานกับรุ้งแก้ว อุไรอยากสืบเรื่องผงธูปร้อยแปดวัดของ
หลวงตาอ่ำ จึงขอไปทำงานด้วย วันพุธอนุญาตแต่ไม่วายสงสัย พึมพำในใจ
“ได้เหรียญคืนไปแล้ว หวังว่าคงไม่มีเรื่องยุ่งๆอีกนะ”
ooooooo
วันพุธกับรุ้งแก้วแยกกันไปทำงานตามหน้าที่ อุไรจึงแวะไปหาบุญคงกับสยามเพื่อถามเรื่องผงธูปร้อยแปดวัด
“คุณท่านได้เหรียญคืนแล้ว”
บุญคงพยักหน้ารับรู้ “ผมทราบแล้ว...เมื่อคืนผมปฏิบัติธรรมถือศีลที่วัด คุณอุไรส่งกระแสจิตถึงผม... ผมรับรู้ได้ แต่ผมเป็นห่วงว่าต่อไปนี้ใครจะขวางคุณเลี้ยงได้ ผมไม่อยากให้คุณเลี้ยงทำบาปอีก”
สยามนิ่วหน้าไม่เห็นด้วย “แต่ตามวิสัย ถ้าถูกคนรังแกก็ต้องสู้ไม่ใช่เหรอครับ”
“ปล่อยเป็นหน้าที่ของกฎหมายดีกว่าครับ...ถ้าเรื่องของคุณไสยล่ะก็ ยังไงก็สู้พุทธคุณไม่ได้หรอกครับ”
อุไรถอนใจยาว ก่อนเปลี่ยนไปถามถึงเรื่องสำคัญที่ต้องตามวันพุธกับรุ้งแก้วมาบริษัท
“งั้นคุณสองคนตอบอิฉันได้ไหมคะว่าผงธูปร้อยแปดวัดของหลวงตาอ่ำอยู่ที่ไหน ฉันถามตันแล้ว มันไม่รู้เรื่อง”
สยามส่ายหน้า “ผมบวชและอยู่ที่กุฏิของหลวงตา แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”
บุญคงคิดว่าอุไรคงมีเหตุผล ถามเสียงเรียบ
“สำคัญมากนักเหรอครับคุณอุไร”
“คุณท่านแนะนำให้เอามาป้องกันตัว แสดงว่าต้องมีอานุภาพมาก”
“ผมจะนั่งสมาธิติดต่อกับท่านให้...ขอตัวก่อน นะครับ วันนี้มีประชุมนัดสำคัญ”
ขณะที่พวกอุไรตามหาผงธูปร้อยแปดวัด มาลินยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีเมฆาคอยเฝ้า
“รำคาญตัวเอง เมื่อไหร่ฉันจะเดินได้ซะที อีเนียงนะอีเนียง...อย่าให้เจอนะ ถ้าฆ่ามันได้ล่ะก็ไม่เว้นแน่”
“อะไรกันพี่ พี่ตกบันไดเองนะ จะโทษเนียงได้ยังไง”
อาการเข้าข้างเนียงแบบไม่ลืมหูลืมตาของเมฆาทำให้มาลินฉุนขาด เอ็ดลั่น
“ฉันพูดกี่ทีแล้วเมฆาว่าอีเนียงมันเป็นเมียไอ้อาคม มันรวมหัวกันหลอกเรา”
“ไม่ใช่เรา...พี่คนเดียวต่างหาก ผมเตือนพี่แล้วว่าให้พี่ดูดีๆ อยากมีผัว ทำไมถึงไปคว้าเอาแมงดา”
มาลินถึงกับปรี๊ดที่ถูกพูดแทงใจดำ “แกไม่ต้องมาย้อนฉันเลย...ถ้าเมียแกดีนัก แกก็ไปหาเมียแก แล้ว
ก็อ้อนมัน กราบมันด้วย แล้วก็อยู่กับมันซะเลย...ไม่ต้องกลับมาหาฉัน”
เมฆาหน้าเจื่อน สะบัดหน้าออกจากห้อง พึมพำต่อว่าพี่สาว
“รำคาญ! มาเยี่ยมแทนที่จะคุยเรื่องที่ทำให้สบายใจ...เซ็ง”
ooooooo
ไม่ใช่แค่เมฆาที่เหนื่อยหน่ายพี่สาวอาคม ก็เอือม ระอากับความดื้อรั้นของเนียงที่ไม่ยอมกลับบ้านเสริม
“คิดบ้างสิว่าจะหาเงินได้ทางไหน...เพราะฤทธิ์หึงของเธอน่ะแหละ ทำให้อดตายกันหมด”
“คุณไม่เคยรู้ว่าอีมาลินมันร้ายแค่ไหน มันพูดจาจิกหัวฉันทุกคำ แค่ขาหักมันยังน้อยไป...มันสมควรตายด้วยซ้ำ”
“แล้วได้อะไรขึ้นมา นอกจากอดตาย ทำไมไม่ทำดีกับมัน”
“ก็แล้วใครล่ะที่บอกให้ฉันขโมยเหรียญทองเงินปากผีมาให้ได้”
สองผัวเมียคงเถียงกันอีกนาน ถ้าเมฆาจะไม่โทร.มาขอร้องให้เนียงกลับไปบ้านเสริม อาคมได้ยินชื่อเมฆาก็หูผึ่ง สั่งเมียให้รับสายและหาทางกลับไปหามาลินให้ได้
เนียงไม่มีทางเลือกต้องรับนัดของเมฆา เขาดีใจมากถลาไปกอดเธอด้วยความคิดถึง