ตอนที่ 7
ใกล้เวลาฤกษ์ยาม ทั้งยิ่งจันทร์และแสงเดือนมีช่างมาแต่งหน้าทำผมอย่างเริ่ดสะแมนแตนไม่น้อยหน้ากัน ...ทางชยุติและทุกคนในบ้านแต่งตัวพร้อมสรรพ กนกวิภาเดินหาวหวอดๆมาส่งพี่ชายไปรับตัวเจ้าสาว ชยุติเดินประคองมาลัยที่แต่งตัวเรียบร้อยออกมา วลีกับไชโยย้ำเวลาฤกษ์ตีสี่สี่สิบเก้าอย่าให้คลาดเคลื่อน ชยุติขอเอาแหวนที่ยิ่งจันทร์ให้ไปด้วย อ้างว่าจะทำให้ยิ่งจันทร์เข้าใจทุกอย่างชัดเจน กนกวิภาเสริม
“ดีเลยค่ะ พี่จันทร์จะได้เข้าใจว่า พี่ติกลับใจรักและเห็นค่าของพี่จันทร์คนเดียวแล้วแน่ๆ” วลีและไชโยเห็นจริง มอบแหวนให้ไป ชยุติรับคำจะพาสะใภ้กลับมาให้ตรงเวลา กนกวิภาแปลกใจทำไมอาม่าจะต้องไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบยิ่งจันทร์เลยสักนิด วลีพูดขำๆ
“คนแก่ก็อย่างนี้แหละ ตอนแรกก็ทำตั้งแง่ แต่พอจะได้เห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝาก็ตื่นเต้นจนลืมเกลียด”
“นี่ถ้าหนูจันทร์มีเหลนชายให้อาม้าอุ้มอีกนะ ขี้คร้าน จะทั้งรักทั้งหลงเหลนกับสะใภ้เข้าไปอีกแน่ๆเลยค่ะ” วลัยเสริมขำๆ ไชโยกับคนอื่นๆเห็นด้วย
ooooooo
เจียงเห็นบัวในชุดแต่งงานแล้วปลื้มปริ่มน้ำตาคลอ อวยพรด้วยความรักขอให้เป็นวันดีวันมงคลของชีวิต พร้อมมอบของขวัญเป็นปิ่นปักผมของเหมยหลินแม่ของบัวและรูปถ่ายแก่บัว เธอดีใจมากที่เห็นรูปแม่เป็นครั้งแรก เจียงปักปิ่นลงบนมวยผมของบัว
“นับจากวันนี้ไป ลื้อจะไม่ได้เป็นแค่ลูกสาวของป๊าแล้วนะ แต่ลื้อจะเป็นภรรยา จะเป็นลูกสะใภ้ และในอนาคตจะได้เป็นแม่คน...อย่าร้องไห้ นี่มันวันดีของลื้อ จำไว้นะอาบัว ต่อจากนี้ลื้อต้องอดทนอดกลั้น ไม่หวั่นไหว ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ทั้งในฐานะของภรรยาและลูกสะใภ้”
“จ้ะป๊า บัวจะจำทุกคำที่ป๊าสอน บัวจะปฏิบัติตัวไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จะไม่ทำให้ใครดูถูกเราได้ บัวสัญญา”
ทั้งสองสวมกอดกันอย่างตื้นตัน เสียงตรึงจิต
ร้องขึ้นว่า ขบวนเจ้าบ่าวมาแล้ว บัวพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง...ตรึงจิตแทรกตัวจะไปกั้นประตูคนแรก จึงทะเลาะกับคู่ที่ยืนอยู่ก่อน ดำเกิงเอ็ดถ้ายังทะเลาะกันจะไล่ไปให้หมด แล้วตัวเขาก็ก้มหน้าจะเดินไปหลังบ้านเพราะทนดูไม่ได้ หลอรั้งไว้ เขาจึงหันกลับมาแล้วต้องตะลึง เมื่อเห็นคนนำขบวนเป็นมาลัยและชยุติเป็นเจ้าบ่าว
ด้านยิ่งจันทร์ชะเง้อรอขบวนขันหมากอย่างกระวนกระวายกลัวจะเลยฤกษ์ ทันใดมีสามล้อถีบเข้ามาคันหนึ่ง แสงเดือนร้องลั่น อย่าบอกนะว่าเจ้าบ่าวนั่งสามล้อมา...ธานีก้าวลงจากรถสามล้อกับขวด เอาแหวนมามอบให้ แสงเดือนร้องกรี๊ดไล่ธานีออกไปจากบ้าน
ยิ่งจันทร์ตกใจวิ่งเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ขวดเสนอหน้าเข้ามาอธิบาย
“ขอโทษครับ นี่คือเสี่ยธานี ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากว่าที่เจ้าบ่าวของคุณ ให้นำแหวนมาคืนน่ะสิ”
ธานีโชว์แหวนในมือ “เพราะแหวนวงนี้แท้ๆ ที่ทำให้อั๊วต้องตื่นเช้า รับไปสิคุณคนสวย เจ้าบ่าวเขาไม่เอาแล้ว รู้ตัวรึยัง”
“ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ พี่ติไม่มีทางทำร้ายจิตใจจันทร์แบบนี้” ยิ่งจันทร์กรีดร้อง ล้วนรับแหวนมาพิจารณาแล้วบอกว่านี่ใช่แหวนเรา แสงเดือนจะเป็นลม
ขณะเดียวกันดำเกิงกับคนอื่นๆกำลังถกเถียงกันใหญ่ว่าทำไมเจ้าบ่าวของบัวเป็นชยุติ ยกเว้นเจียงกับหลอที่ไม่มีอาการตกใจอะไร แถมเชื้อเชิญมาลัยกับชยุติเข้าไปข้างใน ดำเกิงไม่ยอม มาลัยเกรงจะเสียฤกษ์รีบแจกซองคนกั้นประตูแล้วพาชยุติเดินฝ่าเข้าไป ดำเกิงขวางโวยวายเสียงลั่น บัวได้ยินตกใจ
เสียงเจียงเอ็ดดำเกิงให้หยุด แต่เขาโวยทำไมเจ้าบ่าวถึงเปลี่ยนตัว มาลัยแทรกถาม
“เป็นไอ้ตี๋หลานอั๊วแทนเสี่ยชีกอนั่น มันไม่ดีหรือไงอาเกิ่ง”
“เป็นใครก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แกกลับไปเลยนะ บอกให้กลับไปไง” ดำเกิงผลักชยุติจนเซ
“หยุดนะอาเกิ่ง เลิกทำตัวเป็นหมาบ้าซะที อาคุณตี๋แต่งงานกับอาบัวแทนที่จะเป็นเสี่ยธานี ก็เพราะอีใช้หนี้เสี่ยแทนอั๊ว แทนพวกเราหมดแล้ว!”
ดำเกิงชะงัก บัวได้ยินส่งเสียงถามจากในห้อง มีเรื่องอะไรกัน หลอปรามดำเกิงและไล่ให้ไปทำหน้าที่ของตัวเอง เขาทั้งเสียใจระคนเจ็บใจกัดฟันขยับตัวหลีกทาง ...ไม่มีใครตอบอะไรบัว จังหวะนั้นประตูห้องเปิดออก ชยุติถือช่อดอกไม้ก้าวเข้าไปหาบัว เธอยืนตะลึง
มาลัยชมบัวว่าสวยงามมาก บัวถามมันอะไรกัน หลอตัดบทอย่าเพิ่งถาม ได้เวลาทำพิธีแล้ว มาลัยสะกิดชยุติที่ยืนมองบัวนิ่งให้เข้าไปนั่ง บ่าวสาวต้องป้อนบัวลอยกันและกัน บัวไม่ยอมทานมองหน้าชยุติอย่างไม่เข้าใจ เขามองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน
“ทุกอย่างผมมีคำอธิบาย ขอแค่คุณให้โอกาสผม...”
ในที่สุดบัวยอมกิน ทุกคนเฮด้วยความดีใจ ยกเว้นดำเกิงที่ยืนมองด้วยหัวใจแตกสลาย
ooooooo
ด้านวลี วลัย และไชโยชะเง้อรอบ่าวสาวพร้อมนักข่าวที่ยืนออแน่นหน้าบ้าน เสียงกนกวิภาร้องว่า มากันแล้ว ทุกคนตื่นเต้นมองรถที่ไปรับเจ้าสาวแล่นเข้ามาจอด นักข่าวถ่ายรูปกันใหญ่
แต่พอบ่าวสาวลงจากรถ โดยมีดำเกิงถือตะเกียงตามประเพณีลงมาด้วย ทุกคนตกตะลึง กนกวิภาร้องขึ้นว่า ไอ้หมาบ้าโรงงิ้ว! วลีตะโกนลั่นว่านี่มันอะไรกัน! นักข่าวฮือฮารุมสัมภาษณ์
“เจ้าสาวนี่...ไม่ใช่คุณยิ่งจันทร์นี่ครับ”
ไชโยรีบแทรกห้ามนักข่าวถ่ายรูป วลีประกาศว่านี่ไม่ใช่เจ้าสาว ชยุติสวน
“นี่คือเจ้าสาวของผมครับ เธอชื่อบัว...บัว บงกช ภรรยาของผม...”
บัวทำหน้าไม่ถูก วลีจะโวย ชยุติรีบกระซิบอย่ากรี๊ดต่อหน้านักข่าว มีอะไรค่อยคุยกันหลังพิธีจบไม่อย่างนั้นชื่อเสียงตระกูลเกียรติกำจรอาจป่นปี้ มาลัยแอบยิ้มพาบัวเดินผ่านหน้าวลี
“ไปอาบัว เข้าบ้านไปทำพิธีกันดีกว่า อาเกิ่งลื้อเดินนำขึ้นไปห้องหอข้างบนเลยไป”
วลีเดือดดาลจ้ำตามกลุ่มมาลัยเข้าไป ไชโย วลัยกับกนกวิภารีบตาม ให้จ๊าดกันนักข่าวไว้...มาลัยพาบัวเข้ามาในห้องหอ ดำเกิงเอาตะเกียงวางลงที่หัวเตียง ชูดวงกับจี๊ดช่วยกันยกของใช้ของบัวเข้ามาวาง มาลัยให้บ่าวสาวไหว้ฟ้าดิน ไหว้บรรพบุรุษ แล้วจะได้ยกน้ำชา วลีตามเข้ามาอย่างหัวเสีย ตามด้วยไชโย วลัย และกนกวิภา
“มันจะมากไปแล้วนะ คิดว่าบ้านฉันเป็นเวทีงิ้วรึไง”
ไชโยทนไม่ไหว “แกบ้าไปแล้วหรือตาติ อยู่ๆแกพางิ้วนี่มาทำไม แกคิดจะเล่นตลกอะไร”
“ผมไม่ได้เล่นตลก ผมบอกแล้วไงครับว่า ผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยคือบัว”
“แต่ม้าก็บอกแล้วไงว่า ม้าไม่เอา!”
“ม้าคงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธแล้วล่ะครับ เพราะผมกับบัวเราแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง ที่สำคัญเราจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วด้วยครับ”
วลี ไชโย วลัย และกนกวิภาตกใจ มาลัยเสริมว่าตนเป็นพยานได้พร้อมให้ดูใบทะเบียนสมรส วลัยกับวลีต่อว่ามาลัยทำแบบนี้ทำไม มาลัยตอบว่า ตนอยากได้สะใภ้ดีๆให้หลานชาย
“คิดว่ารวมหัวกันแล้วหนูจะต้องยอมเหรอคะอาม้า คิดผิดแล้วค่ะ หนูไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม...ฉันไม่ยอมรับนังสะใภ้ชั้นต่ำคนนี้เด็ดขาด” วลีกราดเกรี้ยวใส่
ดำเกิงสุดทน “คำก็ต่ำสองคำก็ต่ำ อยากลองวัดดูจริงๆว่าผู้ดีอย่างคุณนายมันสูงสักแค่ไหน” ไชโยตวาดให้หุบปาก ดำเกิงสวนทำไมตนต้องเชื่อ กนกวิภาโวย
“ไอ้หมาบ้าโรงงิ้ว อย่ามาหยาบคายกับป๊าม้าฉันนะ”
“แต่หยาบคายกับลูกสาวได้ใช่ไหม”
กนกวิภาร้องกรี๊ดลั่น ชยุติขอร้องให้หยุดทะเลาะกัน แล้วขอคุยกับวลีและไชโยตามลำพัง ทั้งสามเข้ามาคุยกันอีกห้อง วลีเปิดฉากให้ชยุติไล่บัวออกไปไม่อย่างนั้นตนจะทำให้ครอบครัวบัวไม่มีที่ซุกหัวนอน เพราะตนถือสัญญาเงินกู้อยู่ ชยุติพูดอย่างใจเย็นว่าตนไม่ลืมแต่ขอถามว่าสัญญานั้นได้มาอย่างถูกต้องหรือ วลีไม่สนใจ