ตอนที่ 11
ในกระท่อมท้ายสวน ธานียังฟาดแส้ขู่ บัวขอร้องให้เขาหยุดทำแบบนี้ เขาจึงหันมาพุ่งเข้าหาเธอ บัวร้องกรี๊ดลั่น ด้านนอก ตรึงจิต นกขมิ้นและขวดเอาหูแนบประตูแอบฟัง ไหมฟ้าเข้ามาถีบขวดกระเด็น ทั้งสามหันมาเห็นไหมฟ้ายืนอยู่กับชยุติและตำรวจอีกสามนายก็หน้าซีดเผือด
ขวดตั้งสติได้วิ่งหนี ตรึงจิตกับนกขมิ้นเห็นเช่นนั้นก็วิ่งตาม ชยุติถีบประตูกระท่อมเข้าไปช่วยบัว ซัดธานีจนล้มกลิ้ง ไหมฟ้าขอจัดการธานีเองให้ชยุติพาบัวกลับไปก่อน คล้อยหลังทั้งสอง เสียงธานีร้องโอดครวญไปกับเสียงแส้ฟาด...เพียะๆ
ชยุติโอบบัวเดินไปพร้อมกับสำรวจว่าเธอไม่เป็นอะไรแน่ เพราะถ้าเธอบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเขาคงได้ฆ่าคนตาย บัวนึกเป็นห่วงที่เขาทิ้งแขกที่บ้านมา ชยุติพูดด้วยแววตาเจ็บปวดว่า ตอนนี้ตนทิ้งทุกอย่างที่บ้านหลังนั้นหมดแล้ว
บรรยากาศหลังงานเลี้ยงวาย แขกเหรื่อและนักข่าวกลับหมด แสงเดือนโวยวลีว่าแผนของเธอไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ยิ่งจันทร์ร้องไห้ฟูมฟายว่าตนลงทุนทำทุกอย่างเพื่ออะไร ไชโยทนฟังอยู่นาน เสียงกร้าวแทรกขึ้นว่า ก็ได้เงินจากพวกตนไปหลายล้านแล้วจะเอาอะไรอีก แสงเดือนงงทำไมไชโยถึงเสียงแข็ง ล้วนสะกิดจะเตือนแต่ไม่ทัน ไชโยขู่เสียก่อนว่า เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก อย่าคิดหนี ล้วนรีบดึงลูกเมียกลับ วลีงงมันเรื่องอะไรกัน
ระหว่างทางแสงเดือนรู้จากล้วนว่า ไชโยจ้างนักสืบตามสืบเรื่องโครงการลวงโลกของพวกตนก็ตกใจ ยิ่งจันทร์ร้องไห้กลัวติดคุก แสงเดือนตั้งสติบอกต้องอาศัยช่วงที่พวกวลีกลุ้มใจเรื่องชยุติ หนีไปให้ไกล แต่ไม่ทันจะหนีก็มีชายสองคนเข้ามาขวางหน้า สามพ่อแม่ลูกช็อก...
ด้านดำเกิงยังปลอบกนกวิภาที่เอาแต่ร้องไห้เสียใจกับการกระทำของแม่ ดำเกิงแกล้งลองใจ ทำไมถึงไม่สนใจลูกชายเจ้าของโรงเกลือ ทั้งที่เหมาะสมกันดี หญิงสาวสวน
“แต่ฉันไม่ได้รักเขานี่ ถ้ารัก...เขาจะเป็นเจ้าของโรงงานอะไรฉันก็ไม่เกี่ยงหรอก เป็นเจ้าของโรงงานบะหมี่ก็ยังได้”
“แล้วถ้าเป็นเจ้าของร้านบะหมี่รถเข็นล่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้าฉันรัก...ก็คือรัก...”
“แต่เป็นคุณนายร้านบะหมี่ ไม่โก้เหมือนเป็นคุณนายเศรษฐีโรงเกลือนะ”
“แต่ฉันมีความสุขมากกว่า...” ดำเกิงแย็บจริงหรือ “จ้องตาฉันสิ จะได้รู้ว่าพูดจริงรึเปล่า”
ดำเกิงเห็นกนกวิภายื่นหน้ามาใกล้ก็ใจสั่นเขินจนหูแดง เสว่าผู้หญิงอะไรทำตัวใกล้ชิดผู้ชาย หน้าไม่อาย หญิงสาวงอนสะบัดหน้าจะไปอยู่ใกล้ผู้ชายอื่นแทน ดำเกิงคว้าตัวเธอมากอด
“ห้ามใกล้ผู้ชายคนอื่นนะยัยหมวย!”
กนกวิภาถามกวนๆว่าพ่อกับพี่ชายก็ไม่ได้หรือ ดำเกิงเสียงแข็งว่า สองคนนั้นได้แต่ผู้ชายคนอื่นห้าม...หญิงสาวลอยหน้าถามทำไมต้องเชื่อ เขาตอบหนักแน่นว่า
“ก็เพราะฉันเป็นเจ้าของร้านบะหมี่ที่รักเธอไง ...ยัยหมวย”
ถึงคราวกนกวิภาเขินหน้าแดง ดำเกิงกอดเธอแนบแน่นด้วยหัวใจพองโตที่ได้เปิดเผยใจ...จากนั้นดำเกิงพากนกวิภากลับมาที่บ้าน ทั้งสองต้องแปลกใจที่เห็นชยุติกับบัวอยู่กับเจียงและหลอ ทุกคนหน้าเครียด พอรู้ว่าบัวจะถูกธานีปล้ำก็โกรธจะไปเอาเรื่อง ทันใดไหมฟ้าลากตัวธานีที่สะบักสะบอม หน้าตาเนื้อตัวมีแต่รอยแส้เข้ามา บอกใครอยากบริหารฝ่าเท้าเชิญได้เลย
ธานีโอดครวญให้เห็นแก่ความรักครั้งเก่า
ไหมฟ้ายิ่งปรี๊ดบอกเพราะไม่ลืมถึงประเคนให้ชุดใหญ่ ธานีละล่ำละลักว่าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายบัวแต่เพราะมีคนจ้าง ทุกคนแปลกใจว่าใคร
ooooooo
วันต่อมา วลีเสียใจจนไม่ลงมากินข้าว ไชโยเป็นห่วงเข้ามาปลอบกลัวจะไม่สบาย ไม่ทันไร จ๊าดหน้าตาตื่นขึ้นมาตามให้ลงไปข้างล่าง เพราะตำรวจมา
ชยุติ กนกวิภา บัวและครอบครัวของเธอพากันมาโรงพัก ธานี ขวด ตรึงจิตและนกขมิ้นอยู่ในห้องขัง ทั้งสี่ยืนยันว่าวลีเป็นคนว่าจ้างให้ฉุดบัว ชยุติกับกนกวิภาไม่เชื่อ ตรึงจิตจึงให้ถามแสงเดือน ล้วนและยิ่งจันทร์ที่ถูกจับขังอีกห้อง แสงเดือนตัดสินใจใส่ความวลีต่อ
“จริงยิ่งกว่าจริงอีกตาติ ตาติก็รู้ว่าวลีน่ะเกลียดนังบัว เอ๊ย! หนูบัว อยากจะกำจัดให้พ้นๆจะตาย...ตอนที่คุณวลีมาปรึกษาอา อายังแอบสะเทือนใจเลย ว่าวลีทำกับลูกสะใภ้เกินไปรึเปล่า แต่ก็นะ...อาจะไปห้ามแม่ของหลานไม่ให้ทำได้ยังไง พวกเราก็ได้แต่ตามน้ำ ทำตามคำสั่งคุณวลีไป”
ล้วนเออออกับคำพูดภรรยา ทันใดนั้นเสียงวลีดังแทรกขึ้นว่า ตนไม่ได้ทำ! ชยุติกับกนกวิภาตกใจ วลีมองลูกทั้งสองด้วยหัวใจร้าวราน ก่อนจะเดินไปให้ปากคำร้อยเวร ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ไชโยเป็นพยาน
ยิ่งจันทร์งงพลั้งปากถามแสงเดือนว่าใครทำกันแน่ แสงเดือนตีลูกเอ็ดให้เงียบ...วลียืนยันคำพูดตัวเองว่าไม่ได้บงการใคร ขวดโพล่งขึ้นว่าเธอจ้างผ่านแสงเดือนและล้วน
สองสามีภรรยาหน้าเจื่อน ไชโยขอแจ้งความให้จับครอบครัวล้วน ข้อหาฉ้อโกงอีกหนึ่งข้อหา พร้อมยื่นเอกสารเอาผิด ทั้งสามหน้าเหลือสองนิ้ว
เมื่อคลี่คลายทุกอย่างแล้ว วลีเดินนำไชโยกลับ ชยุติเข้ามาขวางหน้าถามย้ำว่าแม่ไม่ได้ทำจริงใช่ไหม วลีเสียใจย้ำจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่ตนไม่ได้เลวขนาดนั้น บัวรู้สึกเป็นห่วงจิตใจของวลี ยิ่งเห็นชยุติกลับมานั่งเศร้า จึงเตือนสติว่าเขาเป็นลูกแท้ๆ ย่อมรู้ใจแม่ของตัวเองดี
“ผมแค่ไม่อยากผิดหวังไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
“อย่าเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบันสิคะ อย่าเปิดแค่ตาดู ให้เปิดใจรับรู้ด้วย แล้วคุณจะรู้ว่าครั้งนี้อาม้าของคุณพูดความจริง” บัวปล่อยให้ชยุติรวบตัวไปกอดเขาพร่ำขอบคุณที่เตือนสติ
หนังสือพิมพ์ลงข่าวภาพเหตุการณ์ในงานเลี้ยง พาดหัวข่าวว่า “เกียรติกำจรเดือด ลูกชายประกาศแตกหักตัดตัวเองออกจากตระกูล หลังโดนแม่แท้ๆจัดฉากวางยาหวังกำจัดลูกสะใภ้”
วลียิ่งทุกข์ใจไม่กินข้าวกินปลา...ด้านกนกวิภายังไม่ยอมกลับบ้าน บัวจัดที่นอนให้นอนด้วยกัน เธอยิ่งเห็นถึงความมีน้ำใจของบัวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายถึงรักเธอ บัวยิ้มแล้วชมว่า
“คุณหนกเปลี่ยนไปมาก รู้ตัวหรือเปล่าคะ”
“ทำไม...สมัยก่อนฉันมันเลวร้ายมากเลยใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ เมื่อก่อนคุณหนกก็ดีอีกแบบ ตอนนี้ก็ดีอีกแบบ”
กนกวิภายิ้มขำกับคำพูดให้กำลังใจของบัว ตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจ ขอโทษที่ทำไม่ดีกับเธอมาตลอด บัวไม่เคยถือโทษโกรธเลย ทำให้กนกวิภายิ่งซึ้งใจ ยินดีเรียกบัวว่าอาซ้อได้เต็มปาก
ด้านดำเกิงต้องจัดที่นอนให้ชยุตินอนด้วย เขาขอบคุณที่ช่วยบัว ชยุติแย้งว่าเป็นหน้าที่ของสามีอยู่แล้ว และขอบใจกลับที่ช่วยกนกวิภาเช่นกัน ดำเกิงเผลอบอกเป็นหน้าที่...ชยุติแทรกว่าหน้าที่ของคนรักใช่ไหม ดำเกิงเขินพูดไม่ออก ชยุติตัดบทว่าถ้าคิดจะรักน้องต้องเข้าทางพี่ชายจะไม่ผิดหวัง ดำเกิงอึ้งคิดถึงกนกวิภาแล้วแอบยิ้ม
ooooooo
เช้าวันใหม่ เจียงเห็นกนกวิภาช่วยบัวจัดโต๊ะอาหาร ชยุติช่วยเช็ดอุปกรณ์งิ้วก็ห้ามปราม แต่สองพี่น้องเห็นว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ช่วยอะไรได้ก็ควรช่วย ดำเกิงทำแกงร้อนๆมาตั้งโต๊ะ แล้วจะไปตามหลอมากินข้าวพร้อมกัน แต่ไม่ทันออกไป ไชโยเดินสวนเข้ามา ทุกคนชะงัก
“ไอ้ตี๋ ยัยหนก ป๊าขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
สองพี่น้องตามป๊าออกไปนั่งคุยร้านใกล้บ้าน มีสองเรื่องที่ไชโยมาบอก คือเรื่องมาลัยและวลี...ทันทีที่ทั้งสองรู้ว่ามาลัยถูกส่งไปอยู่บ้านพักคนชรา ก็รีบไปรับมาลัยกลับ
มาลัยเห็นหลานๆมาก็ดีใจน้ำตารื้น แต่ไม่ยอมกลับ ชยุติชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเจียง มาลัยไม่อยากรบกวน วลัยจึงบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนดูแลอาม่าอยู่ที่นี่เอง ถ้าวันไหนอยากกลับจะให้คนไปส่งข่าว...กนกวิภาคิดว่ามาลัยยังโกรธวลี ชยุติถอนใจรู้ว่าความรู้สึกของคนเราเปราะบางยิ่งกว่าแก้ว ถ้าลองได้แตกหรือมีรอยร้าว ก็ยากที่จะประสาน แต่บัวค้าน
“ถึงจะประสานยาก แต่เราหลอมรวมใหม่ได้นี่คะ เราอาจจะได้แก้วใบใหม่ ที่ใสและสมบูรณ์กว่าเดิมก็ได้...”
“นี่คุณกำลังพูดถึงอาม่ากับอาม้าใช่ไหมบัว” ชยุติข้องใจ
บัวพูดยิ้มๆว่าหมายถึงเขาด้วย เพราะครอบครัวก็คือครอบครัว ต่อให้แตกร้าวอย่างไร ก็ตัดไม่ตายขายไม่ขาด ถ้าเขาอยากให้อาม่าให้อภัยอาม้า เขาเองก็ควรให้อภัยอาม้าด้วย และให้เขากับกนกวิภากลับไปทำข้อสองที่ไชโยขอ คือกลับไปดูแลวลีและสานต่อกิจการเกียรติกำจร
ชยุติสบตากนกวิภาก่อนจะกล่าว “ขอผมคิดดูก่อนนะบัว ถ้าอาม้ายังไม่ยอมรับคุณ ยังคิดร้ายกับคุณอีก ผมก็คงไม่...”
กนกวิภาจับมือบัว ขอเวลาให้พี่ชายตนคิดสักนิด เพราะเขาโดนมามาก เจ็บมาหนัก...
ในขณะที่ตรึงจิต ธานีและขวดทะเลาะกันเองอยู่ในห้องขัง โดยมีนกขมิ้นคอยห้ามทัพ แต่ไม่วายเหน็บแนมไปยังแสงเดือนและล้วน ทำให้เกิดการทะเลาะข้ามห้องขังเสียงดังล้งเล้งไปหมด ตำรวจต้องตะเบ็งเสียงห้าม แล้วบอกให้เตรียมพบญาติที่มาเยี่ยม...เจียง หลอ ดำเกิงและไหมฟ้าถือบะหมี่และน้ำเข้ามาฝาก ทุกคนได้กินอย่างเอร็ดอร่อย ตรึงจิตเริ่มสำนึกผิด ขอให้เจียงช่วยประกันตัว นกขมิ้นเสริม สัญญาจะกลับตัวเป็นคนดี จะไม่ทำเลวกับใครอีก
กลับมาบ้าน ดำเกิงค้านหัวชนฝาไม่ให้เจียงช่วยตรึงจิตกับนกขมิ้น กนกวิภาดุว่าเขาพูดแรงเกินไป ดำเกิงบ่นอุบที่ไม่เข้าข้างกัน หลอต้องบอกให้ทุกคนหยุดพูดก่อน ให้บัวเป็นคนตัดสินใจเพราะเป็นเจ้าทุกข์ เจียงถามความเห็นชยุติ เขาให้สิทธิ์บัว เจียงจึงบอกบัวว่า
“ไม่ต้องคิดมากนะอาบัว ป๊าไม่ได้บังคับ เพราะยังไงสิ่งที่พวกอีทำกับลื้อมันก็ผิดมาก แม้ว่าป๊าจะอยากให้ลื้อให้อภัย แต่ถ้าลื้อคิดว่าไม่ก็คือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับลื้อนะอาบัว”
บัวรับคำ...ในคืนนั้น บัวนอนไม่หลับครุ่นคิดถึงคำพูดของเจียง ชยุติเองก็นอนไม่หลับครุ่นคิดถึงคำพูดของบัวประกอบกับคำพูดของเจียงเช่นกัน
ooooooo
เช้าวันใหม่ จี๊ด จ๊าดและชูดวงนั่งเซ็งที่บ้านดูเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนตอนที่ชยุติกลับจากเมืองนอกใหม่ๆ วลีก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมกินข้าว ระหว่างนั้นบัวแอบฟังอยู่นาน รู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงตัดสินใจเข้ามาหาทั้งสามคน และขอยกอาหารขึ้นไปให้วลีเอง
วลีเข้ามานั่งในห้องชยุติ มองรูปอากงอาม่าที่ติดบนผนังด้วยแววตาเศร้าราวต้องการที่พึ่ง บัวยกอาหารเข้ามา วลีคิดว่าเป็นจ๊าดก็ไล่ให้ออกไป แต่พอเห็นว่าเป็นบัวก็ตกใจ...ที่หน้าบันได จี๊ด จ๊าดและชูดวงชะเง้อมอง ด้วยความแปลกใจที่ไม่มีเสียงโวยวายของวลี ผ่านไปสักพัก บัวถือถาดข้าวที่กินหมดแล้วลงมากับวลี ทั้งสามมองด้วยความประหลาดใจ แถมวลียังขอบใจบัว
บัวก้มหัวให้พร้อมกล่าว “แค่เห็นคุณวลีกินได้ บัวก็ดีใจแล้วค่ะ”
“หวังว่าเธอจะรีบทำตามสัญญา”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันกลับก่อนนะคะ” บัวส่งถาดให้จี๊ดแล้วเดินออกไป
สามคนรับใช้งงเป็นไก่ตาแตกว่าวลีกับบัวตกลงอะไรกัน วลีถึงมีสีหน้าเป็นผู้ชนะ...บ่ายวันเดียวกัน
เจียง หลอและดำเกิงมาจัดการถอนแจ้งความ ตรึงจิต นกขมิ้น ธานีและขวดได้รับการปล่อยตัว แสงเดือนโวยวายในเมื่อเจ้าทุกข์ยอมความ ทำไมพวกตนไม่ได้รับการปล่อยตัว ตำรวจจาระไนว่า คดีนี้เจ้าทุกข์ยอมความแต่คดีฉ้อโกง เจ้าทุกข์ไม่ได้ยอมความ แสงเดือนกับยิ่งจันทร์ร้องกรี๊ด ล้วนลมจะใส่ เพราะคงติดคุกอีกนาน
ตรึงจิตและนกขมิ้นเข้ามาไหว้ขอบคุณเจียง สัญญาจะไม่ลืมบุญคุณ หลอบอกแค่ขอบคุณไม่พอ พวกเธอต้องทำมากกว่านี้ ธานีกับขวดมองเจียงด้วยสายตาขอบคุณ และรู้สึกขยาดไปด้วย
ทั้งสี่คนถูกให้มานั่งพนมมือสาบานต่อหน้าศาลเจ้า พูดตามคำของดำเกิง กนกวิภากับไหมฟ้าช่วยจุดธูปแจก ทั้งสี่คนว่าตามไม่อิดออดแม้จะสาบานให้ตายโหงถ้าคิดร้ายอีกก็ยอม
“เอาล่ะพวกลื้อลุกขึ้นได้ ต่อไปนี้ขอให้พวกลื้อทำตามที่ได้สาบานเอาไว้ อย่าเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีอีก และขอให้รักกัน อย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก” เจียงกำชับ
เสร็จพิธี ดำเกิงไล่ให้ธานีกับขวดกลับ แต่ธานีขอพูดอะไรสักนิด เขาสำนึกผิดที่ทำไม่ดีกับเจียงไว้มากแต่เจียงยังมีแก่ใจช่วยเหลือ จึงขอให้เจียงอโหสิกรรมให้ แล้วหันมาขอจากไหมฟ้าด้วย เจียงยินดีและบอกให้ไหมฟ้าอโหสิกรรมด้วย
ooooooo